นบข.รับทราบแนวทางระบายข้าว8ล้านตัน

นบข.รับทราบแนวทางระบายข้าว8ล้านตัน

นบข.รับทราบแนวทางระบายข้าว8ล้านตัน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ที่ประชุมนโยบายข้าวรับทราบระบายข้าวค้างสต๊อกจากโครงการรับจำนำข้าว 8 ล้านตัน แบ่งเป็น 3 กลุ่มใน 6 เดือน ขณะที่ นายกฯสมาคมผู้ส่งออกข้าวแจงจำเป็นต้องเร่งระบายข้าว แก้ปัญหาราคาข้าวในตลาด ชี้ต้องทำให้เร็วที่สุด

น.ส.วิบูลย์ลักษณ์ ร่วมรักษ์ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ ครั้งที่ 2/2560 ว่า ที่ประชุมได้รับทราบแผนการระบายข้าว 8 ล้านตันข้าวสาร ซึ่งเป็นข้าวค้างสต๊อกจากโครงการรับจำนำข้าว โดยได้มีการวางกรอบการทำงานตั้งแต่เดือนมกราคมที่ผ่านมา ซึ่งข้าวค้างสต๊อกโครงการรับจำนำข้าว แบ่งเป็น 3 กลุ่ม ประกอบด้วย กลุ่มที่ 1 ข้าวคุณภาพที่สามารถบริโภคได้ 3 ล้านตันข้าวสาร ซึ่งเปิดประมูลไปแล้วตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา 1.3 ล้านตัน และอีกประมาณ 1.5 ล้านตัน เห็นชอบให้เปิดประมูลรอบใหม่ในเดือนพฤษภาคม

ส่วนกลุ่มที่ 2 ข้าวที่ไม่เหมาะสมกับการบริโภค แต่ยังสามารถนำเข้าสู่อุตสาหกรรมอาหารสัตว์ เปิดประมูลไปแล้ว 3.66 ล้านตันข้าวสาร มีผู้ประกอบการยื่นซื้อ19 ราย ที่จะมีการยื่นซองประกวดราคาในวันที่ 23 มีนาคมนี้ โดยคาดว่าอาจจะขายไม่ได้ทั้งหมด ที่ประชุมจึงอนุมัติในหลักการให้เปิดประมูลรอบใหม่ในเดือนมิถุนายน และกลุ่มสุดท้ายเป็นข้าวเสื่อมสภาพที่เก็บนานเกิน 5 ปีจำนวน 1 ล้านตัน ที่จะนำไปใช้ในอุตสหากรรมพลังงาน ซึ่งจะเปิดประมูลในช่วงเดือนพฤษภาคม-กรกฎาคม นี้ 

อย่างไรก็ตาม น.ส.วิบูลย์ลักษณ์ ระบุว่า คาดว่าข้าวค้างสต๊อกจะสามารถทำการระบายออกสู่ตลาดได้ทั้งหมดภายในปีนี้ และจะส่งผลให้ราคาข้าวในตลาดดีขึ้นตามลำดับ โดยที่ประชุมได้กำชับให้ อคส. และ อตก. หามาตรการป้องกันไม่ให้มีการนำข้าวในกลุ่ม 2-3 ไหลกลับเข้าสู่ตลาดข้าวปกติอีก

ขณะที่แนวโน้มการส่งออกข้าวในปีนี้ ยืนยันว่า ได้ทำการส่งออกข้าวไปที่ญี่ปุ่นแล้ว 27,000 ตัน อิหร่านมากกว่า 100,000 ตัน และฟิลิปปินส์ ที่ซื้อขายผ่านโครงการแบบรัฐต่อรัฐ หรือ จีทูจี คาดว่าจะส่งออกได้อีก 200,000 - 300,000 ตัน ขณะที่จีน ได้ตกลงที่จะซื้อข้าวแล้ว 200,000 ตัน ทำให้มีการคาดการณ์ว่า การส่งออกข้าวในปีนี้น่าจะสามารถทำได้ตามเป้าที่วางไว้ก่อนหน้านี้ โดยนายกรัฐมนตรี ได้กำชับให้ที่ประชุมศึกษาการพัฒนา "ข้าวพรีเมี่ยม" ที่มีราคาสูง และทำการส่งออกไปแล้วกว่า 60,000 ตัน โดยเฉพาะข้าวเคลือบวิตามิน ที่มีราคาสูงถึงตันละ 1,700 เหรียญสหรัฐ ข้าวสังข์หยด ที่มีราคาเฉลี่ยตันละ 1,000 เหรียญ

ปลัดกระทรวงพาณิชย์ ยังกล่าวว่าที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติมีการหารือแนวทางจัดทำแผนข้าวครบวงจร ประจำปี 2560/2561 โดยเน้นโครงการนาแปลงใหญ่ ไม่เน้นปริมาณแต่เพิ่มคุณภาพ เพื่อลดต้นทุนการผลิต  พัฒนาและยกระดับโรงสี  และเชื่อมโยงตลาดข้าว   

ส่วนแผนการเก็บเกี่ยว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ให้แนวทางแก้ปัญหาการจัดหารถเกี่ยวข้าวไม่เพียงพอ โดยประสานความร่วมมือกับทางมหาวิทยาลัยและผู้ประกอบการ แต่ขอให้เน้นรถเกี่ยวข้าวที่ผลิตในประเทศไทย ทั้งนี้ ยังรวมถึงการพัฒนาคุณภาพข้าวหอมมะลิและการผลิตข้าวอินทรีย์ซึ่งจะต้องใช้ระยะเวลา 3 ปี ในการทำให้ปลอดสารและเพาะปลูก

ด้าน ร.ต.ท.เจริญ เหล่าธรรมทัศน์ นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวว่า ก่อนที่รัฐบาลจะเข้ามาบริหารราชการแผ่นดิน มีปริมาณข้าวค้างสต๊อกในโครงการรับจำนำข้าวกว่า 18 ล้านตัน ซึ่งมีปริมาณพอที่จะทำการส่งออกได้ตลอด 2 ปี โดยที่ชาวนาไม่ต้องปลูกข้าวเลย ซึ่งข้าวค้างสต๊อกจำนวนมาก เป็นปัญหาใหญ่ที่ทำให้ราคาข้าวในตลาดปกติ ไม่สูงขึ้นตามที่คาดการณ์  จึงเป็นเหตุผลให้ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ พยายามให้ความสำคัญกับการระบายข้าวให้เร็วที่สุด


แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook