นิพนธ์ ชี้ข้าวค้างสต๊อก ทำรบ.มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม

'นิพนธ์ พัวพงศกร' ชี้ข้าวค้างสต๊อก ทำรบ.มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม จำเป็นต้องเร่งระบายข้าวให้เร็วที่สุด ลดค่าใช้จ่าย

นายนิพนธ์ พัวพงศกร นักวิชาการเกียรติคุณสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย หรือ ทีดีอาร์ไอ กล่าวว่า ความเสียหายที่เกิดขึ้นจากข้าวค้างสต๊อก ทำให้รัฐบาลมีค่าใช้จ่ายในการกักเก็บข้าว และดอกเบี้ย ที่ต้องจ่ายให้กับโรงสี รวมถึงค่าเสื่อมราคา เฉลี่ยเดือนละ 500 ล้านบาท และจนถึงวันที่ 30 มกราคม 2560 รัฐบาลขาดทุนจากข้าวในส่วนนี้ไปแล้ว 154,700 ล้านบาท หากวันนี้สามารถนำข้าวกลุ่มที่ 1 ระบายออกสู่ตลาดได้ทั้งหมด รัฐจะได้เงินกลับมาประมาณ 30,000 ล้านบาท แต่ถ้าหากรอไปอีก 24 เดือน เพื่อทำการเปิดประมูลรอบใหม่ อาจได้เงินกลับมาแค่ 20,000 ล้านบาทเท่านั้น

ขณะที่ ข้าวที่อยู่ในกลุ่มภาคอุตสาหกรรม โดยเฉพาะกลุ่มที่สาม หากกักเก็บเกิน 20 เดือน จะส่งผลให้ราคาติดลบ ไม่มีราคาในตลาด เพราะมีค่าใช้จ่ายสูงกว่ารายได้ที่จะได้รับ เพราะราคาต่ำจนไม่คุ้มที่จะเก็บ เมื่อเป็นเช่นนี้ ที่ประชุมจึงจำเป็นต้องเร่งระบายข้าวออกไปให้เร็วที่สุด จะได้ไม่เป็นภาระภาษีของประชาชน เพื่อไม่ให้กดราคาข้าวเปลือกที่จะออกใหม่ในแต่ฤดูกาลด้วย

นายนิพนธ์ กล่าวว่า รัฐบาลจำเป็นต้องเร่งระบายข้าวให้เร็วที่สุด เพื่อไม่ให้เป็นภาระต่อต้นทุนในการกักเก็บนอกจากนั้นต้องระมัดระวังการขายข้าวในกลุ่ม 2-3 ที่อยู่ในภาคอุตสาหกรรมด้วย เพื่อป้องกันไม่ให้มีการนำข้าวเน่า กลับมาขายเป็นข้าวถุง ซึ่งจะทำให้เกิดความเสียหายขึ้นได้อีกในอนาคต