นายกฯ คุยชาวนครพนมเร่งแก้ศก. ซัดคนอยู่ตปท.ป่วน

นายกฯ คุยชาวนครพนมเร่งแก้ศก. ซัดคนอยู่ตปท.ป่วน

นายกฯ คุยชาวนครพนมเร่งแก้ศก. ซัดคนอยู่ตปท.ป่วน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นายกรัฐมนตรี คุยชาวนครพนม ย้ำรบ.เร่งช่วยปชช.แบบยั่งยืน ลุยศก.การค้าชายแดน - ยึดกฎหมาย ยันไม่รังแกใคร ซัดพวกป่วนอยู่ต่างประเทศ เมินไล่พ้นรัฐบาลโต้ไม่เป็นประชาธิปไตย

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. ได้เดินทางลงพื้นที่ จ.นครพนม เพื่อตรวจราชการ ติดตามการขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาลที่ รร.บ้านนาโดนใหม่ อ.เรณูนคร พร้อมเยี่ยมนิทรรศการบ้านสวย เมืองสุขกิจกรรมศูนย์เรียนรู้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงบ้านเนินน้ำคำ พร้อมขึ้นกล่าวปราศรัยบนเวที โดยย้ำว่ารัฐบาลมีนโยบายเพื่อช่วยเหลือประชาชนอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะการพัฒนาเศรษฐกิจการค้าชายแดน เชื่อมโยงกับภูมิภาคต่าง ๆ ให้ประชาชนมีรายได้เพิ่มขึ้นแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ ช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย สร้างความเท่าเทียมด้านกฎหมายระหว่างคนรวยกับคนจน 

พร้อมทั้งกล่าวถึงประเด็นความขัดแย้งของคนในชาติที่ยังมีคนบิดเบือนอยู่ ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ ระบุว่า ส่วนตัวไม่เคยเข้าข้างใคร แต่เมื่อคนที่ทำผิดกฎหมายไม่ยอมรับผลตามกระบวนการยุติธรรม ทำให้ส่งผลกับเศรษฐกิจภาพรวมของประเทศ 

นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวย้ำว่า เศรษฐกิจไม่ดี ไม่ใช่เพราะรัฐบาลนี้เข้ามา แต่เพราะการจัดระเบียบแก้ปัญหาธุรกิจสีเทา ซึ่งคนระดับล่างมีรายได้จากส่วนนี้ พอรายได้หายไป ประชาชนจึงมองว่าเศรษฐกิจแย่ลง ทั้งที่ทุกอย่างดำเนินการไปตามกฎหมาย ไม่ได้คิดรังแกใคร แต่ต้องขจัดคนไม่ดีออกไป พร้อมขอร้องอย่าหลงเชื่อ ใครอ้างชื่อนายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรี หรือ ที่ปรึกษา ไปเบ่งเรียกรับประโยชน์ หรือ เงินทอง หากพบให้แจ้งมา จะดำเนินการตามกฎหมายให้ 

นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า ประเทศไทยน่าอยู่ต่างชาติก็ชื่นชอบ เป็นที่น่าแปลกใจว่า มีคนไทยบางกลุ่ม อยากหนีไปอยู่ที่อื่น แล้วก็ให้ร้ายประเทศไทย ซึ่งตนเองจะไม่ทำเช่นนั้น เกิดที่นี่ต้องตายที่นี่ ไม่ใช่หนีไปอยู่ที่อื่น ขอประชาชนอย่าหลงเชื่อคนเหล่านั้น ใครจะให้อะไร ประชาชนต้องพิจารณาให้ดี ว่าผิดกฎหมายหรือไม่

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ยังตอบโต้ข้อกล่าวหา ละเมิดสิทธิมนุษยชน และการไม่เป็นประชาธิปไตย ว่า ประชาธิปไตยไม่ใช่เรื่องของพวกพ้อง หากใครไม่ใช่พวก จะต้องต่อสู้ทำร้าย เพราะจะทำให้ประเทศเสียหายขาดความน่าเชื่อถือ และการกระทำของคนที่ยังเคลื่อนไหวในต่างประเทศที่พยายามกดดันรัฐบาลในขณะนี้  ไม่มีผลอะไร หากตนเองจะพ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีก็ต่อเมื่อถึงเวลา ไม่สามารถยืนยันอะไรได้ แต่หากยิ่งไล่ก็จะยิ่งอยู่ ไม่ไปไหน ย้ำ 5 ปีต่อไปหากคนไทยไม่ดีขึ้นประเทศอันตรายแน่ พร้อมยืนยัน จะไม่ทรยศต่อรอยยิ้มของประชาชน

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า มานครพนม ไม่ใช่อยากได้ผ้าขาวม้า แต่ผ้าที่ได้ก็นำไปตัดเย็บ มอบเป็นของที่ระลึกให้แขกต่างประเทศและจำหน่ายที่ตลาดคลองผดุงกรุงเกษม แต่มาติดตามความคืบหน้าการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาล โดยเฉพาะพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษต้องเกิดขึ้นให้ได้ พร้อมชี้แจงนโยบายช่วยเหลือคนจน ที่ไม่ใช่การแจกเงินแบบในอดีต เช่น การแก้ปัญหาหนี้นอกระบบโดยให้ใช้หนี้เงินกู้ในอัตราที่กฎหมายกำหนด มีกองทุนยุติธรรม ช่วยคนจนสู้คดี แม้ชาวนครพนมมี 7 เผ่า แต่ทุกคนรวมกันแล้วเป็นคนไทยเหมือนกัน ต้องรักและสามัคคี

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยังได้แนะนำให้เกษตรกรเข้าสู่ระบบเกษตรแปลงใหญ่ ปรับเปลี่ยนวิถีทำกินให้สอดคลองกับสถานการณ์ ภูมิอากาศ และ ปริมาณน้ำ ไม่เช่นนั้นหากยังทำการเกษตร หรือ ปลูกข้าวมากไป จนต้องเก็บไว้จนเสื่อม ไม่สามารถบริโภคได้ แล้วต้องนำไปทำอย่างอื่น เช่น พลังงาน เชื่อว่าพระแม่โพสพคงไม่พอใจ แต่ก็ไม่รู้จะแก้ปัญหาอย่างไรส่วนการพัฒนาพื้นที่เศรษฐกิจ ต้องใช้พลังงานขับเคลื่อน หากไม่มีโรงไฟฟ้า จะเดินหน้าการพัฒนาอย่างไร ขอให้เร่งทำความเข้าใจให้มากขึ้น

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ยังระบุว่า การทำเกษตรในพื้นที่นครพนม นอกจากการปลูกเพื่อบริโภค และจำหน่ายในพื้นที่แล้ว ควรหาพืชเศรษฐกิจที่มีราคาดีมาปลูกเพิ่ม เช่น มันหวานญี่ปุ่น หรือ มันฝรั่งเป็นต้น และย้ำภาพอนาคตประเทศไทย 5 ปี เปรียบเป็นเด็ก 5 ขวบ จะเดินได้เข้มแข็ง ทั้งความมั่นคง ลดความเหลื่อมล้ำ พัฒนาทรัพยากรมนุษย์ สร้างสมดุลกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและบริการภาครัฐที่มีประสิทธิภาพ


นายกฯ เข้าสักการะองค์พระธาตุพนม 

พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พร้อมคณะเดินทางมายังวัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร อำเภอธาตุพนม จ.นครพนม เพื่อสักการะองค์พระธาตุพนม และชมนิทรรศการ การนำเสนอผลการดำเนินงานเพื่อขอขึ้นทะเบียนพระธาตุพนมเป็นมรดกโลก หลังคณะรัฐมนตรีมีมติ เมื่อวันที่ 24 มกราคม 2560 เห็นชอบให้กระทรวงวัฒนธรรมเสนอพระธาตุพนมเป็นมรดกโลก

โดยนายกรัฐมนตรี กราบนมัสการพระเทพวรมุนี เจ้าอาวาสวัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร พร้อมสักการะหอพักแก้วและสักการะพระธาตุพนม และได้เขียนชื่อลงบนผ้าห่มพระธาตุก่อนจะทำพิธีห่มพระธาตุ และเยี่ยมชมพระธาตุด้านใน หลังจากนั้นนายกรัฐมนตรีได้เดินชมนิทรรศการ และรับฟังบรรยายความคืบหน้าการขอขึ้นทะเบียนพระธาตุพนมเป็นมรดกโลกจาก นายประทีป ฤทธิกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม นายอภิชาติ ณหะเลขะกะ นายอำเภอธาตุพนม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้วย



แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook