สงกรานต์ปีนี้ “ลุงตู่” ย้ำคนไทย “ยังอยู่ในห้วงสำคัญ” ชี้ใครอยากตายไม่ต้องเชื่อรัฐ

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี  ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมครม. กรณีแนวปฏิบัติในการจัดงานเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ว่า ขออย่าทำอะไรที่ผิดกฎหมาย เพราะตามธรรมเนียมประเพณีสงกรานต์เมื่อก่อนเป็นประเพณีไทยๆ ไม่ใช่เรื่องที่เราต้องมาเต้นระบำกัน แต่งตัวเปิ๊ดสะก๊าด หรือเอาน้ำมาสาดกันเป็นถัง ๆ สมัยนี้ประเพณีไทยก็เพี้ยนไปคือสนุกสนานจนเกินเหตุ จะทำอะไรก็ขอว่าอย่าให้ผิดกฎหมาย อย่าทำให้คนเดือดร้อนเพราะน้ำตอนนี้ก็น้อยลง

“สิ่งสำคัญคือเรายังอยู่ในห้วงสำคัญไม่ใช่หรือ ปี 2559 เราก็ทำมาได้ ปีนี้ก็เชื่อว่านักท่องเที่ยวก็เข้าใจเพราะพวกเขาต้องการมาดูประเพณีที่งดงาม เขามากันอยู่แล้วขอว่าอย่ากังวล เราจะมีการประชาสัมพันธ์อีกครั้ง อย่าไปสงสัยในเรื่องที่ไม่ควรสงสัย บางครั้งเราควรใช้วิจารณญาณบ้าง ต้องเอากฎหมายมาดูว่าควรจะทำอย่างไร ไม่ใช่มุ่งเน้นเอาผลประโยชน์อย่างเดียวแล้วทำประเทศชาติเสียหาย เช่น พูดอะไรผ่านสื่อก็ทำให้เกิดความขัดแย้งกันไปหมด” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ขออย่ากังวลเรื่องการจราจร เอาอย่างนี้ดีกว่าใครอยากตายก็ไม่ต้องทำ เพราะรัฐบาลทำเต็มที่แล้ว ห้ามกันทุกอย่างเหลือแค่ห้ามหายใจ ทุกคนมาบอกว่าทำไมตายเยอะ รัฐบาลต้องรับผิดชอบแล้วหากใช้มาตรา 44 แล้วยังตายเยอะอีกรัฐบาลจะต้องรับผิดชอบอะไรอีก มันช่างถามนะแบบนี้  ตนพยายามทำทุกอย่างแล้ว มาตรา 44 ก็ออกมาแล้ว หมดแล้วไม่มีมาตราไหนอีก 

"ก็ไหว้พระสวดมนต์เอาแล้วกัน เพราะมันก็เพื่อรักษาชีวิตท่านเองนั่นแหละ ผมเพียงแต่ว่าออกมาเตือนท่านเสียหน่อย กฎหมายมีอยู่แล้ว การรัดเข็มขัด การบรรทุกคนมันมีอยู่แล้ว ท่านก็มาบอกว่ากฎหมายนี้ ท่านไม่รู้ บอกว่าไม่รู้กฎหมายตลอด ผมก็เอามารวมแล้วออกเป็นมาตรา 44 เดี๋ยววันหน้าทุกอย่างเข้าระบบก็ยกเลิกมาตรา 44 กฎหมายก็เป็นแบบเดิม เราไม่ชอบมองอะไรที่เป็นภาพใหญ่ เราดูแค่เสี้ยว ดูหนังก็ดูแป๊บเดียว หนังกว่าจะสร้างมาตั้งนานก็ดูแป๊บเดียวแค่ 2 ชั่วโมงยังเบื่อก็เพราะสร้างมาไม่สนุกกัน"พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า วันนี้รัฐบาลไม่ได้สนุกเท่าไร เพราะรัฐบาลต้องใช้กฎหมายก็ไม่มีใครชอบ แต่ถ้าเราไม่ใช้กฎหมายวันนี้ วันหน้าจะอยู่กันไม่ได้และหนักกว่าเดิมอีก ตนไม่ได้คึกคะนองในการใช้กฎหมายแต่ละฉบับ ตนไม่อยากใช้เพราะมันเป็นความขัดแย้งระหว่างประชาชนและเจ้าหน้าที่ฝ่ายรัฐ ประชาชนก็ขัดแย้งกับตำรวจ ตำรวจก็คงไม่อยากจะจับ ทหารก็คงไม่อยากจะยิงใคร ถ้าทุกคนต่างลดราทั้งทหาร-ตำรวจก็ดูแลเยี่ยมเยือนทุกข์สุขปกป้องชายแดน ดูแลความมั่นคงภายใน พวกเขามาทำให้ทุกอย่างเพราะต้องการความสงบเรียบร้อย ที่ผ่านมาหากไม่ทำแบบนี้จะสงบหรือไม่ ทุกคนก็อยากจะปรองดอง แล้วรู้หรือไม่ปรองดองคืออะไร พวกเขาก็พยายามอย่างเต็มที่ มันต้องปรองดองด้วยใจเพื่อประเทศชาติ ผลประโยชน์ของชาติต้องมาก่อน ตรงนี้คือคำว่าปรองดองมันถึงจะเกิดได้