นายกฯยันทหารไร้ผลประโยชน์พลังงานขอม็อบยึดกม.

นายกฯยันทหารไร้ผลประโยชน์พลังงานขอม็อบยึดกม.

นายกฯยันทหารไร้ผลประโยชน์พลังงานขอม็อบยึดกม.
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นายกรัฐมนตรี ยืนยัน ทหารไม่หวังผลประโยชน์ด้านพลังงาน ขู่ม็อบยึดกฎหมายหากทำผิด ขออย่าใช้กฎหมู่เหนือกฎหมาย หวัง รมว.ศธ.จะไม่ถูกถอดถอนออกจากตำแหน่ง หลังมีการคัดค้านและไล่ล่ารายชื่อ กว่า 50,000 คน

พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ยืนยันด้วยชีวิต 
ทหารไม่มุ่งหวังเข้าไปมีผลประโยชน์ด้านพลังงาน จึงขอให้เชื่อมั่นการทำงานของรัฐบาล เพราะทุกอย่างทำตามความมคิดเห็นและความต้องการที่ได้รับฟังมา หากอะไรที่ไม่สามารถทำได้ก็จะไม่ทำให้เป็นไปตามทำนองคองธรรม พร้อมขอให้ประชาชนเข้าใจว่ารัฐบาลกำลังขับเคลื่อนและพัฒนาประเทศ จึงฝาก ผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ ทำความเข้าใจกับประชาชน ว่าสิ่งใดที่ไม่ถูกต้องรัฐบาลก็จะไม่ทำ ทั้งนี้ ถ้าวันนี้ยังมีความขัดแย้งกันอยู่ก็จะไม่มีโอกาสได้ทำอีก และถ้าไม่สานต่อสิ่งที่รัฐบาลทำในวันนี้ก็จะกลับมาขัดแย้งกันเช่นเดิม

อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรี ได้ออกมาให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน ต่อกรณีที่เครือข่ายประชาชนปฏิรูปพลังงานไทย (คปพ.) ที่มาชุมนุมบริเวณหน้าอาคารรัฐสภา เพื่อเรียกร้องยุติการพิจารณา พ.ร.บ. ปิโตเลียม และ พ.ร.บ. ภาษีเงินได้ปิโตเลียม ว่า หากทำผิดกฎหมายก็ต้องกถูกดำเนินคดี เพื่อให้รู้ว่าการแก้ปัญาให้เป็นระบบนั้นเป็นอย่างไร และอย่าให้กฎหมู่อยู่เหนือกฎหมาย พร้อมได้แจกเอกสารชี้แจงรายละเอียดของกฎหมายทั้ง 2 ฉบับ ให้แก่สื่อมวลชน โดยขอให้นำเสนอข่าวตามเอกสารดังเพื่อความเข้าใจ

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงกรณีที่มีการล่าชื่อถอดถอน นายแพทย์ ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ว่า อยากให้เข้าใจว่าขณะประเทศกำลังต้องการการปฏิรูปด้านการศึกษา เนื่องจากผลคะแนนการทดสอบนักเรียนด้านต่างๆ ส่วนใหญ่อยู่ในเกณฑ์ต่ำ จึงมีแนวคิดให้บุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะสามารถสอบบรรจุได้ แต่จะต้องผ่านทดสอบจนกว่าจะผ่านเกณฑ์ที่กำหนดไว้ ซึ่งไม่ได้หมายความครูคุรุศาสตร์ไม่มีประสิทธิภาพในการสอน 

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ยังหวังว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ จะยังไม่ถูกถอดถอน เพราะทราบว่ากลุ่มที่ต่อต้านมีการล่ารายชื่อมากกว่า 50,000 รายชื่อ เพื่อขับไล่ออกจากตำแหน่ง


นายกฯแจกเอกสารชี้แจงเนื้อหาพ.ร.บ. ปิโตรเลียม

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แจกเอกสารชี้แจงเนื้อหาพ.ร.บ. ปิโตรเลียม โดยระบุว่า ที่จะต้องเสนอ พ.ร.บ.ปิโตรเลียม ก็เพื่อให้รองรับสัมปทานที่จะหมดอายุลงในเวลาอันใกล้ โดยหลักการและเหตุผลที่รัฐบาลเสนอครั้งแรก แต่เดิมก็เพื่อให้มีการดำเนินการบริหารจัดการได้ทั้งระบบสัมปทาน และ psc เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับประเทศ (หากไม่มีกฎหมายฉบับนี้จะทำได้เพียง ระบบสัมปทานแบบเดิมเท่านั้น) ต่อมารัฐบาลได้นำร่าง ดังกล่าว เสนอต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ซึ่งในขั้นกรรมาธิการของ สนช. ได้มีการรวบรวมรับฟังข้อเสนอจากภาคประชาชน ให้มีการจัดตั้ง "บรรษัทน้ำมันแห่งชาติ (NOC)" และ สนช. ได้เสนอเรื่องดังกล่าว กลับมาที่ ครม. เพื่อพิจารณา ให้ความเห็นชอบ

ทั้งนี้ ครม. ให้ความเห็นชอบ ให้เพิ่มหลักการ ได้ในขั้นกรรมาธิการ ซึ่งเดิมไม่มีในวาระแรกด้วย เหตุผล คือ รัฐบาล และ ครม. ไม่ต้องการให้เกิดความขัดแย้ง เนื่องจากเป็นการรับฟังความคิดเห็นที่กรรมาธิการศึกษาเพิ่มเติมแล้ว คณะกรรมาธิการก็ได้ทำงานต่อไป โดยมีเนื้อหา NOC ใน พ.ร.บ. ปิโตรเลียม ซึ่งจะต้องพิจารณาต่อในวาระ 3 ตามหลักการและเหตุผล ที่กล่าวมาข้างต้น ซึ่งการทำงานของคณะกรรมาธิการก็เป็นการรวบรวมความคิดเห็นจากทุกฝ่าย

นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า รัฐบาลต้องการให้ พ.ร.บ.ฉบับนี้ผ่านไป โดยปราศจากข้อขัดแย้ง ในกรณี จัดตั้ง NOC ซึ่งระบุอย่างชัดเจน ว่า ต้องมีการศึกษาในรายละเอียดก่อน และให้ดำเนินการได้ "เมื่อพร้อม" เท่านั้น จะเป็นเมื่อไหร่ ก็แล้วแต่การพิจารณาต่อไปของ สนช.


สำหรับกรณีที่มีการกล่าวหา ว่า รัฐบาล  คสช. นายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรี คณะกรรมาธิการ ทหาร 
หวังจะมีผลประโยชน์ ในเรื่องของการให้กรมพลังงานทหาร เป็นผู้ดำเนินการ ข้อกล่าวหาเหล่านี้ รัฐบาล คสช. 
นายกรัฐมนตรี ไม่ได้ทราบเรื่องดังกล่าว และหากมีก็ไม่อนุมัติอยู่แล้ว ส่วนการที่มีผู้ยกเรื่องนี้ออกมาเป็นประเด็น 
ทางรัฐบาล คณะรัฐมนตรี จะให้ฝ่ายกฎหมายได้สอบสวนว่า เกิดอะไรขึ้น เพราะทำให้เกิดความเสื่อมเสียกับรัฐบาล คสช. ทหาร อย่างร้ายแรง มีการโพสต์ข้อความสร้างการดูหมิ่นเกลียดชังรัฐบาล

อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า จะไม่ให้มีใครได้รับผลประโยชน์ นอกจากประเทศชาติ และประชาชน แต่ต้องอยู่ภายใต้กรอบของกฎหมายที่ดำเนินการ โดยการพิจารณาของสนช. และรัฐบาล คสช. จะไม่ให้หน่วยงานทหารเข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้โดยเด็ดขาด กรณีที่มีข่าวว่า เตรียมเสนอรายละเอียดการจัดตั้ง NOC เรียบร้อยแล้ว ประกอบไปด้วยรัฐบาล ทหาร ฯลฯ รัฐบาลไม่เคยรับทราบรายละเอียดเรื่องนี้ ทราบแต่เพียงว่า หากกฎหมายผ่านก็จะมีเพียงเฉพาะการจัดตั้ง NOC เมื่อพร้อมซึ่งก็หมายความว่า หากมีการผ่านเรื่อง NOC ดังกล่าวก็ต้องมีการศึกษา และรับฟังความคิดเห็น ในเรื่องนี้อีกครั้งหนึ่ง ปัจจุบันการทำหน้าที่จัดการพลังงาน เป็นหน้าที่ของกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ กระทรวงพลังงาน ซึ่งมีหน้าที่ดูแลผลประโยชน์ของชาติ และความมั่นคงด้านพลังงาน ของประเทศรวมถึงการควบคุมกำหนดการจัดหาพลังงานโดยระบบสัมปทาน (เดิม) หรือ PSC (ใหม่) อยู่แล้ว ว่าจะทำในระบบใดไม่ใช่ ปตท. ที่เป็นรัฐวิสาหกิจ โดยมีกระทรวงการคลังถือหุ้นเกินร้อยละ 50 ที่จะดำเนินการในเรื่องของธุรกิจพลังงานเพื่อเป็นการเสริมรายได้ผลตอบแทนของรัฐบาล และผู้ถือหุ้นเท่านั้น




แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook