รพ.ราชวิถีเผย "น้องมิน" อาจเป็นเจ้าหญิงนิทรา

รพ.ราชวิถีเผย "น้องมิน" อาจเป็นเจ้าหญิงนิทรา

รพ.ราชวิถีเผย "น้องมิน" อาจเป็นเจ้าหญิงนิทรา
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

โรงพยาบาลราชวิถีเผยอาการ "น้องมิน" ยังทรงตัว ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ ชี้อาจเป็นเจ้าหญิงนิทรา แต่มีโอกาสกลับเป็นปกติ แค่ต้องรอสมองฟื้นตัว

ความคืบหน้ากรณี "น้องมิน" น.ส.ระภีภรณ์ ป่วยหัวใจหยุดเต้นระหว่างท่องเที่ยวที่ประเทศเกาหลีใต้ โดยเมื่อวันที่ 8 เม.ย. 60 ได้เคลื่อนย้ายผู้ป่วยกลับมาประเทศไทย โดยความช่วยเหลือของการบินไทยและทีมแพทย์โรงพยาบาลเวชธานี ก่อนที่จะส่งตัวมารักษาต่อที่โรงพยาบาลราชวิถี

วานนี้ (9 เม.ย. 60) นพ.ธีรพล โตพันธานนท์ อธิบดีกรมการแพทย์ พร้อมด้วย นพ.มานัส โพธาภรณ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลราชวิถี และทีมแพทย์ ร่วมกันแถลงข่าวการรับตัวน้องมินมาดูแลรักษา โดย นพ.ธีรพล กล่าวว่า โรงพยาบาลราชวิถีรับตัวน้องมินเข้ามารักษาเมื่อวันที่ 8 เม.ย. 60 ในหอผู้ป่วยหนักโรคหัวใจ (ซี.ซี.ยู.) ขณะนี้อาการทรงๆ ยังไม่รู้สึกตัว มีการใส่สายสวนปัสสาวะ ให้อาหารทางสายยาง และยังมีปัญหาชัก เนื่องจากหัวใจหยุดเต้น ทำให้สมองขาดออกซิเจนไปเลี้ยง และเลือดไปเลี้ยงไตไม่พอทำให้เกิดภาวะไตวายเฉียบพลัน สำหรับค่าใช้จ่ายนั้น ตัวผู้ป่วยอยู่มีสิทธิประกันสังคมก็จะเบิกจ่ายตามนั้น แต่ไม่ครอบคลุมการรักษาทั้งหมด เพราะต้องใช้ยาที่ราคาสูง แต่ส่วนที่เกินมานั้นทางโรงพยาบาลราชวิถีเป็นผู้รับผิดชอบ

นพ.ธีรพล กล่าวว่า ที่ผ่านมามีคนไทยไปเจ็บป่วยต่างประเทศตลอด แต่ไม่เป็นข่าว ดังนั้นอยากให้คนที่เดินทางไปท่องเที่ยวประเมินตัวเองว่าไหวหรือไม่ เพราะแต่ละที่จะมีการเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง ทั้งอากาศ เวลา เป็นต้น นอกจากนี้ถ้าจะให้ดีอยากให้มีการทำประกันสุขภาพด้วย ซึ่งราคาไม่แพง แต่ครอบคลุม อย่างไรก็ตามนอกจากการท่องเที่ยวแล้วในส่วนของคนไทยที่เดินทางไปทำงานต่างประเทศโดยเฉพาะแถบอาเซียน รวมถึง กาหลีใต้ ญี่ปุ่น จีน ไต้หวัน กรมการแพทย์ได้มีการจัดส่งทีมแพทย์ไปตรวจรักษาโรคให้ด้วยปีละ 2-3 ครั้ง รวมถึงมีทีมแพทย์ติดตามผู้แสวงบุญด้วย

อย่างไรก็ตามการที่คนไข้เคยเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลือง และมีการให้คีโมก็ผ่านมานานเป็น 10 ปีแล้ว และไม่มีหลักฐานว่าคีโมเป็นสาเหตุของภาวะหัวใจหยุดเต้น ดังนั้นอาจเป็นที่วงจรไฟฟ้าหัวใจผิดปกติ ซึ่งเจอไม่บ่อยต้องหาสาเหตุต่อไป ส่วนที่ว่าลิ้นหัวใจรั่วนั้นไม่ใช่การเป็นรูรั่ว แต่เป็นเพราะกล้ามเนื้อหัวใจปิดไม่สนิท แต่ก็เป็นไม่มาก

ด้านนางบังอร นาสะอ้าน แม่ของน้องมิน กล่าวว่า ต้องขอขอบคุณทุกฝ่ายที่ให้การช่วยเหลือน้องมิน และมีความคาดหวังว่าน้องมินจะกลับมา แต่ก็ต้องใช้เวลา ทั้งนี้เงินบริจาคที่ได้รับมานั้นส่วนหนึ่งจ่ายค่ารักษาให้กับโรงพยาบาลที่เกาหลีใต้ไปแล้ว ที่เหลือก็จะนำไปผ่อนจ่ายค่ารักษาให้กับทางกงสุล และใช้เพื่อการรักษาน้องมินต่อไป ตอนนี้ได้ปิดรับบริจาคไปแล้ว ทั้งนี้อยากขอให้เพื่อนๆ ของน้องหยุดตอบโต้ทางออนไลน์เพราะเป็นการต่อความยาวสาวความยืด

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook