ประวิตรโยนจนท.ดูหมุดคณะราษฎรคุมศรีสุวรรณป้องป่วน

ประวิตรโยนจนท.ดูหมุดคณะราษฎรคุมศรีสุวรรณป้องป่วน

ประวิตรโยนจนท.ดูหมุดคณะราษฎรคุมศรีสุวรรณป้องป่วน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

'พล.อ.ประวิตร' แจงลางานช่วงสงกรานต์ไปธุระส่วนตัว ไม่รู้ปรับ ครม. พร้อมระบุไม่รู้หมุดคณะราษฏรถูกเปลี่ยน โยนตำรวจหา แจงคุม 'ศรีสุวรรณ' ป้องป่วน - ยังต้องปรับมาตรการดูแลปชช.ช่วงเทศกาล

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการเดินทางไปต่างประเทศ ช่วงวันหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์ ว่า เป็นการลางาน ไปทำธุระส่วนตัว ไม่จำเป็นต้องแจ้งใคร และไม่ขอเปิดเผยในรายละเอียดว่าเดินทางไปประเทศใด แต่ยืนยันไม่ได้ทำให้ประเทศชาติได้รับความเสียหายอย่างแน่นอน 

ส่วนกรณีที่กระแสข่าวว่าจะมีการปรับคณะรัฐมนตรีในช่วงนี้ โดยเฉพาะทีมเศรษฐกิจ นั้น รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ระบุว่า ไม่ทราบและนายกรัฐมนตรีไม่ได้มาหารือเรื่องนี้ ซึ่งส่วนตัวมองว่า ทีมงานด้านเศรษฐกิจของรัฐบาล สามารถทำงานได้ดี ไม่ได้ทำเรื่องใดที่เสียหาย ตัวเลขภาพรวมเศรษฐกิจยังดี ส่วนการทำงานของคณะรัฐมนตรีจะเต็มที่หรือไม่ ขอให้ประชาชนเป็นผู้พิจารณาเอง 

พล.อ.ประวิตร กล่าวถึงกรณีมีการเปลี่ยนหมุดคณะราษฎรที่บริเวณลานพระบรมรูปทรงม้า ว่า ไม่ทราบว่ามีการปรับเปลี่ยนไปเมื่อใด และไม่มีการแจ้งว่า จะมีการเปลี่ยนหมุด ส่วนการดำเนินการตามหากลับคืนมานั้นเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ไม่สามารถยืนยันได้ว่าจะสามารถนำกลับมาได้หรือไม่ และรัฐบาลก็ไม่สามารถสั่งการอะไรได้ ซึ่งส่วนตัวมองว่าเรื่องนี้ไม่ได้ใช่เรื่องสำคัญ เพราะไม่เกี่ยวกับปากท้องของประชาชน

ส่วนกรณีที่ทางเจ้าหน้าที่ทหารเข้ารวบตัวนายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคม เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญ นั้นพล.อ.ประวิตร ระบุว่า ไม่ทราบเรื่อง แต่มองว่าเรื่องใดที่จะก่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมืองก็ไม่สมควรทำ เพราะประเทศกำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่าน

พล.อ.ประวิตร ยังกล่าวถึงมาตรการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน ในช่วง 7 วันอันตรายช่วงเทศกาลสงกรานต์ ว่า รัฐบาลไม่ได้ให้ความสำคัญกับตัวเลขมากนัก แต่มุ่งเน้นการลดผู้เสียชีวิตเป็นศูนย์ ซึ่งแม้ในปีนี้จะลดน้อยลง แต่ก็ยังเกิดการสูญเสียขึ้น แม้จะใช้กำลังเจ้าหน้าที่ดูแลกว่า 2 แสนนาย เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ จากนี้จึงต้องบูรณาการร่วมกับทุกหน่วยงานเพื่อนำผลการดำเนินการมาประเมินไปพิจารณาอีกครั้ง ว่ามีเรื่องใดที่ต้องปรับแก้ไขบ้าง ซึ่งจากข้อมูลพบว่า สาเหตุเกิดจากเมาสุราและขับรถเร็วกว่ากำหนด โดยจะมีการประชุมกันอีกครั้ง


แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook