กลุ่มทวงคืนหมุดคณะราษฎรร้องตร.ดุสิตตามหา

กลุ่มคัดค้านหมุดคณะราษฎรหาย เข้าแจ้งความ สน.ดุสิต ชี้ ผิด ม.4 พรบ.โบราณสถาน ขอเจ้าหน้าที่เร่งติดตามตัวคนร้าย - เตรียมออกหมายเรียก 'วัฒนา เมืองสุข' รับทราบข้อหาผิดพรบ.คอมฯ หลังโพสต์เฟซบุ๊ก

นายอภิสิทธิ์ ทรัพย์นภาพันธ์ เครือข่ายภาคประชาชนที่ไม่เห็นกับกรณีหมุดคณะราษฎรสูญหายไปจากตำแหน่งเดิม เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลดุสิต เพื่อให้เจ้าหน้าที่ติดตามคนร้ายมาดำเนินคดี ฐานการกระทำผิดเบียดบังเอาโบราณวัตถุเป็นของตน เนื่องด้วยหมุดคณะราษฎรถือเป็นโบราณวัตถุ ตามมาตรา 4 พระราชบัญญัติโบราณสถาน ผู้ที่ขโมยไปจึงมีความผิดตามมาตรา 31 คือต้องโทษจำคุกไม่เกินเจ็ดปีหรือปรับไม่เกินเจ็ดหมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ รวมทั้งกระทำผิดฐานลักทรัพย์ ที่ใช้หรือมีไว้เพื่อประโยชน์สาธารณะ เพราะหมุดของคณะราษฎร์เป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ของการอภิวัฒน์สยามเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2475

โดยความผิดทั้ง 2 ข้อ เป็นอาญาแผ่นดิน กระทบจิตใจและได้รับความสนใจจากประชาชนในวงกว้าง ตนเองจึงได้เข้ามาแจ้งความกล่าวโทษ เพื่อให้พนักงานสอบสวนดำเนินการสสอบสวนหาตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายโดยด่วน และให้นำเอาของปลอมมารักษาไว้เพื่อเป็นของกลางประกอบการดำเนินคดี

กลุ่มค้านหมุดคณะราษฎรหายขอทำเรื่องดูกล้องCCTV

ภายหลังจาก นายอภิสิทธิ์ ทรัพย์นภาพันธ์ เครือข่ายนักกิจกรรมและนิสิตนักศึกษาและภาคประชาชนที่ไม่เห็นกับกรณีหมุดคณะราษฎรสูญหายไปจากตำแหน่งเดิม เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลดุสิต แล้ว เปิดเผยว่า จากกำหนดการเดิม หลังแจ้งความจะเดินทางไปที่หมุด เพื่อเดินสำรวจพื้นที่โดยรอบ และจดเลขกล้อง cctv แต่เมื่อมีการพูดคุยกับตำรวจแล้ว ได้รับการชี้แจงว่า ที่ศาลาว่าการ กทม. จะเป็นศูนย์ข้อมูลกลางกล้อง cctv ทั้งหมด จึงเปลี่ยนไปที่ศาลาว่าการ กทม. จุดเดียว เพื่อทำเรื่อง ขอดูกล้อง cctv ทั้งนี้ เชื่อว่าหมุดได้หายไปช่วงสัปดาห์แรกของเดือนเมษายน ระหว่างวันที่ 2-8 เมษายน เพราะก่อนหน้านั้น มีกลุ่มนักศึกษาไปทำรายงานก็ยังมีหมุดเดิมอยู่

ขณะที่บรรยากาศโดยรอบพื้นที่พระลานพระราชวังดุสิต มีเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบ สลับสับเปลี่ยนกำลัง คอยเฝ้าดูแลความสงบเรียบร้อยตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งเจ้าหน้าที่ไม่อนุญาตให้ประชาชนเข้าไปถ่ายรูปหรือเซลฟี่กับหมุดคณะราษฎร โดยอ้างว่าเป็นพื้นที่เขตพระราชฐาน และไม่ต้องการให้เกิดความวุ่นวาย

"ยุทธภัณฑ์"ชี้CCTVดูหมุดคณะราษฎรถูกถอดตั้งแต่31มี.ค.

เจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาลดุสิต ได้นำ นายอภิสิทธิ์ ทรัพย์นภาพันธ์ และประชาชนที่ไม่เห็นด้วยกับกรณีหมุดคณะราษฎรสูญหายไปจากตำแหน่งเดิม ประมาณ 20 คน ขึ้นรถตู้มายังศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร เพื่อทำเรื่องขอดูกล้องวงจรปิดบริเวณลานพระบรมรูปทรงม้า โดยมี นายยุทธภัณฑ์ มีชัย เลขานุการ พลตำรวจเอกอัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นผู้รับเรื่อง

ทั้งนี้ นายยุทธภัณฑ์ กล่าวว่า กรุงเทพมหานครยินดีให้ความร่วมมือในการขอดูกล้องวงจรปิดอย่างเต็มที่ แต่เนื่องจากกล้องที่ติดต่อขอดูทั้ง 11 ตัว บริเวณลานพระบรมรูปทรงม้า ถูกถอดออกทั้งหมด เพราะทางตำรวจจราจรได้ประสานขอความร่วมมือในการปิดซ่อมไฟจราจรบริเวณดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ 31 มีนาคม ส่วนสาเหตุที่ต้องถอดออก เนื่องจากกล้องวงจรปิดทั้ง 11 ตัวพ่วงกับสัญญานไฟจราจร โดยจะนำกลับมาติดตั้งเหมือนเดิม หลังจากซ่อมสัญญานไฟจราจรเสร็จ แต่ทำไมต้องซ่อมสัญญานไฟจราจรช่วงเวลาดังกล่าว จึงต้องไปถามทางตำรวจจราจรเอง

ขณะที่หมุดของคณะราษฎรหายไป ช่วงวันที่ 2 - 8 เมษายน หลังจากนี้จะดำเนินการขอดูกล้องวงจรปิดบริเวณใกล้เคียงแทน

จ่อหมายเรียกวัฒนาผิดพรบ.คอมฯFBปมหมุดคณะราษฎร

พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า เมื่อเย็นวันที่ 18 เมษายนที่ผ่านมา ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ ปอท. ได้ร้องทุกข์กล่าวโทษ ให้ดำเนินคดีนายวัฒนา เมืองสุข อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ฐานนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จผิดพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ กรณีโพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก ระบุว่า หมุดคณะราษฎร์ ที่ติดตั้งที่ลานพระบรมรูปทรงม้าเป็นโบราณวัตถุ และให้คนไทยเรียกร้องทวงคืน ซึ่งเป็นเท็จ ทำให้ประชนบางส่วนเข้าใจผิด ออกมาเคลื่อนไหว ซึ่งอาจเข้าข่ายยุยงปลุกปั่นด้วย 

ทั้งนี้คาดว่าเร็วๆ นี้จะมีการออกหมายเรียก นายวัฒนา รับทราบข้อกล่าวหาความผิดพ.ร.บ.คอมฯต่อไป

"วิษณุ"แจงปมแจ้งความติดตามหมุดคณะราษฎร

นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการแจ้งความของกลุ่มต่างๆ ในการติดตามหมุดคณะราษฎรกลับมาคืนไว้ที่เดิมว่า ขณะนี้มีการแจ้งความไปแล้ว และสามารถทำได้หากเป็นการแจ้งความกล่าวโทษในฐานะพลเมืองดี ไม่ใช่ผู้เสียหาย ส่วนที่ พลตำรวจเอกศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาตำรวจแห่งชาติ บอกว่าถ้าไม่ได้เป็นผู้เสียหายไม่สามารถแจ้งความได้นั้น นายวิษณุ ชี้แจงว่า เป็นเรื่องของการร้องทุกข์ เพราะการร้องทุกข์จะกระทำได้ต่อเมื่อเป็นเจ้าของทรัพย์สินนั้นๆ

คสช.ขอหยุดทวงหมุดคณะราษฎรย้ำเร่งปรองดอง

พ.อ.ปิยพงศ์ กลิ่นพันธุ์ ทีมโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงกรณี นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญ ยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี เพื่อขอให้ตามหาหมุดคณะราษฎรที่หายไป ว่า การออกมาเคลื่อนไหวในขณะนี้ ถือว่าไม่เหมาะสม เพราะกระบวนการการปรองดองที่รัฐบาลกำลังเดินหน้า ถือเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด ขณะเดียวกันขอความร่วมมือ นิสิต นักศึกษา และ อาจารย์ ที่ออกมาเคลื่อนไหวทวงคืนหมุดคณะราษฏร ขอให้นึกถึงบ้านเมือง ที่กำลังก้าวเดินไปสู่รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ สิ่งใดที่เป็นกระแสที่ทำให้เกิดความไม่เรียบร้อย ก็ต้องขอความร่วมมือกัน เช่นเดียวกับ กรณีนายวัฒนา เมืองสุข แกนนำพรรคเพื่อไทย ที่โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ถึงกรณีดังกล่าว ที่อาจเรียกมาปรับทัศนคติอีกครั้งนั้น เป็นเพียงเรื่องที่ลือกันไป และยืนยันว่าไม่มีการเรียก นายวัฒนา มาปรับทัศนคติ 

ส่วนมาตรการบังคับใช้กฏหมายที่กับกลุ่มที่ออกมาเคลื่อนไหวในขณะนี้นั้น คสช. และรัฐบาล มีขั้นตอนและมาตรการต่างๆ อยู่แล้ว โดยเริ่มจาก การขอความร่วมมือ และชี้แจงทำความเข้าใจ เพราะบางเรื่อง สามารถคลี่คลายได้ด้วยการพูดคุย ดังนั้น คสช. จะพยายามจะไม่ใช้การแก้ปัญหาด้วยหลักนิติศาสตร์ เพราะถือว่า ทุกคนเป็นคนไทยด้วยกัน และ เป็นเรื่องภายในประเทศ คสช. จะพยายามทำให้ปัญหาต่างๆ คลี่คลายให้ดีขึ้น