สงกานต์พาญาติด.ญ.14พบศรีวราห์ให้ข้อมูลเพิ่ม
ทนายสงกานต์ นำญาติ ดญ.14ปีถูกรุมโทรม พบรองผบ.ตร. ให้ปากคำเพิ่มปมค้ามนุษย์ เชื่อมีตัวการใหญ่กว่า เจ๊บีม
นายสงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ประธานเครือข่ายต่อต้านการ บ่อนทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ในฐานะ ทนายความ นำมารดา และญาติผู้เสียหายของเด็กหญิงวัย 14 ปี ถูกรุมโทรมที่ด่านช้าง เข้าพบ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และ พล.ต.ต.กรไชย คล้ายคลึง ผู้บังคับการตำรวจปราบปรามการค้ามนุษย์ เพื่อให้ถ้อยคำเพิ่มเติมในกรณียังมีผู้ร่วมกระทำผิดที่ยังมิได้ถูกตรวจสอบและดำเนินคดีอาญา ในความผิดที่เกี่ยวข้องและในฐานค้ามนุษย์ และให้ข้อมูลครือข่ายของ "เจ๊บีม" กับพวก
ทนายสงกานต์ กล่าวว่าได้นำข้อมูลของกลุ่มผู้ร่วมขบวนการซึ่งเป็นเจ้ใหญ่ หัวหน้าของเจ้บีม มาให้ตำรวจทำการสืบสวนสอบสวน เป็นหลักฐานเพิ่มจากเติม เพื่อขยายผลเพิ่มเติม เนื่องจากเป็นระดับใหญ่กว่าเชื่อว่ามีอีกอย่างน้อย 3-4 ราย พร้อมทั้งให้ตรวจสอบเส้นทางการเงินเพื่อพิจารณายึดทรัพย์ พร้อมระบุกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม รับตัวแม่ผู้เสียหายไปอยู่ในความคุ้มครอง พยานนับแต่วันพรุ่งนี้(21/4/2560)เป็นต้นไปจนกว่า สถานการณ์จะดีขึ้นตามมาตรการคุ้มครองพยาน
ด้าน ผบก.ปคม. กล่าวว่า วันนี้ เจ้าหน้าที่ได้รวบรวมพยานหลักฐาน เตรียมขอศาลอนุมัติออกหมายจับบุคคลที่เกี่ยวข้องในคดีค้ามนุษย์อย่างน้อยอีก 1 ราย จากการสอบสวนเจ๊บีม ยังให้การปฏิเสธ แต่เจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อ เบื้องต้นยังไม่พบตำรวจหรือคนมีสีเข้ามาเกี่ยวข้องกับกรณีนี้ สำหรับการปราบปรามการค้ามนุษย์เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งรูปแบบการค้ามนุษย์ก็ไม่แตกต่างไปจากเดิมก็คือมีคนซื้อและคนจัดหาให้ ซึ่งในกรณีนี้เข้าข่ายการค้ามนุษย์เนื่องจากเด็กอายุยังไม่ถึง 18 ปี แต่ถ้าอายุเกิน 18 ปี จะเข้าข่ายการค้าประเวณี เบื้องต้นยังไม่พบเหยื่อเป็นต่างด้าว
ด้าน พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวยืนยันจะเดินหน้าปราบปรามการค้ามนุษย์อย่างเต็มที่ เพราะทำให้ประเทศเสียหาย ส่วนการตั้งกรรมสอบ พนักงานสอบสวนในพื้นที่ ได้ตั้งดำเนินไปแล้ว แต่ยังไม่ได้รับรายงานเข้ามา ต้องให้เวลาตรวจสอบภายใน1เดือน ตามกฎ ก.ตร.