ลิฟท์ เปิดใจยอมรับ เคยเจ้าชู้หนัก..แต่หยุดเพราะครอบครัว

หลังจากที่ควงแขนภรรยาไปเปิดใจถึงเรื่องราวความรักผ่านรายการโทรทัศน์ถึงพฤติกรรมสุดเจ้าชู้ในอดีต จนกลายเป็นที่สนอกสนใจในหมู่แฟนๆ ล่าสุด แถมหลายคนยังอดสงสัยไม่ได้ว่าทุกวันนี้อดีตนักร้องดูโอ้ “ลิฟท์ สุพจน์” จะยังคงมีพฤติกรรมเจ้าชู้ติดตัวอยู่บ้างหรือเปล่า!?

ล่าสุดในงานบวงสรวงละคร “เงาอาถรรพ์” ทางช่อง 8 เจ้าตัวก็ได้ออกมาไขข้อข้องใจกับบรรดาสื่อแล้วว่า จริงๆ แล้วสิ่งที่เล่าในรายการเป็นเพียงแค่เรื่องที่เคยเกิดขึ้นในอดีตก่อนจะเริ่มต้นชีวิตแต่งงานเท่านั้น ซึ่งทุกวันนี้ทั้งชีวิตครอบครัวและชีวิตคู่ก็ถือได้ว่าลงตัวมีความสุขดี ไม่ได้มีอาการวอกแวกแบบเมื่อสมัยก่อนแน่นอน…

ล่าสุดที่เราไปออกรายการและให้สัมภาษณ์ว่าในอดีตเคยเจ้าชู้ ?
“จริงๆ มันก็เป็นเรื่องของการแชร์ประสบการณ์ชีวิตครอบครัวมากกว่า มันเป็นเหมือนกับการที่เรานำเรื่องเก่าขึ้นมาเล่าอีกทีหนึ่งและเสริมด้วยการขยายประเด็นเท่านั้นเอง เพราะเอาจริงๆ แล้วประเด็นนี้ผมเองก็เคยพูดมาในรายหลายการแล้วเหมือนกัน แค่บังเอิญว่ารายการนี้อาจจะเป็นรายการหนึ่งที่เขาขยายประเด็นขึ้นมาเท่านั้นเอง”

แสดงว่าในยุคนั้นเราเองก็มีปัญหามากมายพอสมควร ?
“ไม่มีนะครับ ก็ตามที่เล่าไปเลยว่ามันเป็นแค่เรื่องของเหตุการณ์ที่มันเคยเกิดขึ้น และมันก็เป็นการตัดสินใจของแฟนผมเองว่าเขาจะทำยังไง ซึ่งส่วนมากแล้วมันเป็นการเล่าในมุมมองของแฟนผมเองมากกว่า”

แต่ตอนนี้สถานการณ์ของครอบครัวเราก็ยังเป็นปกติดี ?
“ปกติครับ ปกติมานานแล้วครับ จริงๆ เรื่องนี้มันไม่มีอะไรเลยด้วย แต่ที่อยู่ๆ มันก็กลายเป็นที่สนใจของคนขึ้นมาก็อาจจะเป็นเพราะว่ามันคือเรื่องที่ต่างคนต่างความคิด อย่างครอบครัวเราเราก็มีการพูดคุยกันตลอด ซึ่งมันอาจมีบางครอบครัวที่เข้าใจ หรือบางครอบครัวอาจจะไม่ชอบก็ได้ คือมันก็แล้วแต่ความคิดของแต่ละคนครับ”

หลังจากที่รายการออกอากาศและมีฟีดแบคแบบนี้ตามนี้ ครอบครัวเราได้มีการพูดคุยกันถึงเรื่องนี้บ้างไหม ?
“เราคุยกันตั้งแต่ก่อนที่จะออกรายการแล้วครับ คือมันเป็นแค่การแชร์ประสบการณ์การใช้ชีวิตครอบครัวแค่นั้นเอง เพราะผมเชื่อว่าไม่ว่าครอบครัวไหนมันก็ต้องมีเรื่องดีเรื่องร้ายทั้งนั้นแหละ และสุดท้ายทุกครอบครัวก็จะมาคุยกันเองว่าต้องการอะไร พูดกันตรงๆ เพื่อจะที่ได้ไม่มีปัญหาต่อเนื่อง”

แต่ ณ ตอนนี้ตัวเราเองก็ไม่ได้มีอาการวอกแวกหรืออะไรแล้วใช่ไหม ?
“ไม่มีครับ ไม่มี”

พอจะบอกได้ไหมว่ายุคนั้นเราหนักขนาดไหน ?
“อันนั้นมันตั้งแต่ก่อนแต่งงานแล้วครับ ตั้งแต่สมัยที่เรายังเป็นวัยรุ่นปลายๆ และด้วยความที่ตัวตนเราเป็นแบบนั้นด้วยมั้ง มันก็เลยทำให้เราต้องค่อยๆ ปรับกัน และสุดท้ายพอมันปรับได้เราก็ตัดสินใจแล้วว่าเขาคือคนที่เราจะใช้ชีวิตอยู่ด้วยไปจนแก่จนเฒ่า เพราะว่าหลังแต่งงานแล้วเราก็ไม่เคยมีปัญหากันเลย หรือถ้ามีเราก็คุยกันตรงๆ”

อะไรคือจุดเปลี่ยนที่ทำให้เราตัดสินใจว่าเลิกเจ้าชู้ ?
“ครอบครัวครับ คือพอเราเริ่มมีครอบครับ พอเรามีลูก นั่นมันก็เลยกลายประเด็นสำคัญที่ทำให้เราต้องมีความมั่นคงของครอบครัว ความรักที่เรามีให้กันต้องมาเป็นอันดับหนึ่งครับ”

ตอนนี้ครอบครัวของของพี่ลิฟท์เป็นยังไงบ้าง ?
“แฮปปี้ดีครับ ทุกคนมีความสุขดี ปู่ย่าตายายมีความสุข ลูกสาวก็แฮปปี้ ตอนนี้เขาเองก็อายุ 7 ขวบแล้ว ขึ้น ป.2 แล้ว นิสัยเขาก็ร่าเริงตามวัยของเด็ก”

น้องมีแววร้องเต้นเก่ง แสดงเก่งเหมือนกับคุณพ่อบ้างไหม ?
“เขาก็ดูจะชอบนะครับ เรื่องการร้องเพลง เรื่องการเต้น แต่ถ้าจะให้เจาะลึกว่าเขาชอบอะไร อันนี้คงต้องรอให้เขาโตกว่านี้หน่อยและให้เขาเป็นคนเลือกเองดีกว่า”

จริงๆ ตัวเราเองได้มีการแอบคิดไว้บ้างไหมว่าอยากจะพาลูกเข้าวงการ ?
“อันนี้ต้องถามออยก่อนครับ ถ้าลูกเขาโอเค ลูกผมก็โอเค (หัวเราะ) ให้เขาเลือกเองดีกว่าครับ คือทุกวันนี้เวลาถามเขาว่าเขาอยากเป็นอะไร เขายังตอบว่าเขาอยากเป็นเจ้าหญิงอยู่เลย ดังนั้นรอให้เขาโตกว่านี้อีกหน่อยดีกว่าครับ แต่เราในฐานะพ่อแม่เราก็พร้อมสนับสนุนเขาทุกอย่างเหมือนกัน”