อั้มรับคุยไฮโซฟลุคโบ้ยถามฝ่ายช.จีบชมน่ารัก

อั้มรับคุยไฮโซฟลุคโบ้ยถามฝ่ายช.จีบชมน่ารัก

อั้มรับคุยไฮโซฟลุคโบ้ยถามฝ่ายช.จีบชมน่ารัก
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ซุปตาร์สาวสวย 'อั้ม พัชราภา' รับคุย 'ไฮโซฟลุค' โบ้ยไปถามฝ่ายชายจีบ ชมน่ารัก ดีใจละครเพลิงพระนางกระแสดี

กระแสละครดีจนตอนจบเลยจ้าสำหรับละครเพลิงพระนางที่ได้ซุปตาร์ อั้ม พัชรา มารวมเล่นละครทำให้ละครเรทติ้งฉุดไม่อยู่เลยจ้าซึ่งงานเปิดตัว Vivo V5s Press Conference Perfect  Selfie Every Moment สาวอั้มก็ได้มาร่วมงานนี้เลยให้อัปเดทความรู้สึกของละครพร้อมกับเรื่องหัวใจหน่อยจ้า

เรื่องเพลิงพระนางจบไปอย่างสวยงามเป็นที่เรียบร้อยแล้ว?
"ก็เสียดายนะคะที่เป็นช่วงสงกรานต์ แต่ก็ดีใจมากๆ ค่ะ"

ตอนดูฉากจบเป็นยังไงบ้าง เพราะซีนนั้นค่อนข้างหดหู่มาก?
"เราดูเองเรายังเสียใจมากเลย เสียใจทุกตัวละคร เพราะเราเองก็เคยเห็นภาพเขาสวยงาม อย่างตองนวลอั้มก็เสียใจนะ ฉากนั่งเสลี่ยงเขาก็ดูบ้าๆ คือเห็นแล้วสงสารเขาเพราะเมื่อก่อนเขาเคยรุ่งเรือง เหมือนกับตัวเราเองที่เมื่อก่อนก็เคยรุ่งเรืองแต่พอมาวันนี้ก็เป็นแค่ผู้หญิงแก่ๆ คนหนึ่ง ที่ยังนึกถึงแต่ความหลังเก่าๆ"

ฟีดแบคที่เราได้รับจากแฟนๆ สำหรับตอนจบเป็นยังไงบ้าง?
"ดีใจและก็หายเหนื่อยเลยนะ คือที่ผ่านมาจริงๆ อั้มกดดันกับเรื่องนี้มาก เพราะคนคาดหวังเยอะมาก และอั้มก็พยายามกับเรื่องนี้เยอะมากจริงๆ"

หลายคนชื่นชมเรามากโดยเฉพาะเทคนิคการใช้เสียงในแต่ละช่วงอายุ?
"แต่ตอนนี้เป็นเสียงปกตินะคะ เสียงเล็กๆ แบบนี้ค่ะ (หัวเราะ) คืออั้มโชคดีมากค่ะที่ได้ครูน้องมาช่วยสอน เพราะช่วงวัยแด่อั้มไม่เข้าใจเลยจริงๆ ว่าอั้มจะต้องเล่นยังไง โดยเฉพาะในเรื่องของท่าทาง ซึ่งอั้มก็พยายามดูแม่เป็นตัวอย่างนะคะ แต่ด้วยความที่คุณแม่ค่อนข้างเป็นคนไฮเปอร์แถมยังเดินเร็วกว่าอั้มอีก อั้มก็เลยต้องให้คุณครูมาเป็นคนช่วยสอนแทนทั้งเรื่องท่าทางและการพูด"

แสดงว่าคุณแม่ของพี่อั้มเองก็มีส่วนช่วยเหมือนกันสำหรับการแสดงเรื่องนี้?
"ไม่ได้สอนหรอกค่ะ ก็คือท่านก็เดินไปเดินมา แต่ดูแล้วไม่น่าจะใช้ได้เพราะว่าแม่เดินเร็วมาก (หัวเราะ)"

หลังจากนี้จะมีงานละครให้เห็นกันอีกเมื่อไหร่?
"ก็พยายามจะให้มีเร็วๆ นะคะ แต่ขอพักก่อนแปปเดียว แปปเดียวจริงๆ ค่ะ (ยิ้ม) คือพยายามดูบทให้เข้ากับตัวเองก่อน เพราะที่ผ่านมาคนก็คาดหวังกับเพลิงพระนางไปแล้ว ดังนั้นเรื่องต่อไปเราก็เลยต้องคิดหนัก แต่ก็คงจะเป็นคนละแนวกันเลยค่ะ"

รู้สึกยังไงบ้างหากคนเขาคาดหวังว่าจะต้องยิ่งใหญ่กว่าเดิม?
"โห...ใครจะมาทำยิ่งใหญ่กว่าเดิมคะ เรื่องนี้เขาก็ 20-30 ปี รอมาทีหนึ่ง ไม่มีหรอกค่ะ"

แสดงว่าสำหรับละครเรื่องต่อไปของเราก็อาจจะต้องรอดูกันปีหน้าเลย?
"อั้มยังไม่ทราบเลยค่ะว่าจะได้เล่นเรื่องอะไร เพราะอั้มเองก็ต้องรอผู้ใหญ่ส่งบทมาให้ดูกันก่อนว่าอะไรเหมาะสม คืออั้มเองก็อายุเลยคนอื่นเขาไปเยอะแล้ว ดังนั้นมันก็ต้องเลือกให้เหมาะกับตัวเองด้วย"

จริงๆ จะมีโอกาสเห็นอีกไหมกับการที่เราจะมารับบทเป็นแม่หรือเป็นอะไรที่ยิ่งใหญ่แบบนี้อีก?
"จริงๆ อั้มคือไม่รับบทแม่นะ แต่บังเอิญว่าเรื่องนี้อั้มต้องเล่นตั้งแต่สาวจนมาโตจนมาเป็นคุณยาย อั้มเลยรู้สึกว่ามันน่าลองมาก เพราะตอนแรกอั้มคิดว่าตัวเองทำไม่ได้ด้วยซ้ำ แต่ถามว่ามันเป็นการฉีกตัวเองไหม เอ่อ...อันนี้ฉีกหนักมากเลยค่ะ เพราะมันไกลตัวมากจริงๆ คือเราต้องมีลูก เป็นห่วงลูก เป็นคุณยายที่ต้องผิดหวัง คือไม่ใช่ตัวเองเลย แต่ก็รู้สึกสงสารเหลือเกินนะคะ คือดูแล้วสงสารมาก เอาใจช่วยตัวร้ายตลอดเวลาเลยค่ะ"

รู้สึกยังไงบ้างพอเราเล่นร้ายแล้วคนเกลียด?
"ก็ดีใจที่คนเกลียดนะ แต่เพื่อนอั้มบางคนที่เขาดูเขาก็แอบสับสนเหมือนกัน เพราะวีคนี้เชียร์ วีคหน้าเกลียด คือเขาก็ไม่เข้าใจตัวเองไงคะ ขนาดตัวอั้มเองยังเป็นเลย (หัวเราะ) แต่ถ้าถามส่วนลึกๆ เลยนะ อั้มเชียร์ตัวเองเพราะเราสงสาร"

ถามถึงเรื่องที่เราเข้าไปช่วยหมาในป่าเป็นยังไงบ้าง?
"อ๋อ...คือจริงๆ ตรงนี้อั้มไปมา 2 วันแล้วนะคะ เพราะวันแรกที่อั้มรู้จักเจ้าของ อั้มก็ทราบมาว่าเขาหากันมา 5 วันแล้ว แต่หาไม่เจอ ซึ่งถ้าน้องหมาหายไปนานๆ แบบนี้อั้มก็กลัวไงคะว่ามันจะเป็นอันตรายกับเขา อั้มก็เลยคิดว่าถ้าอั้มมีเวลาว่างอั้มลงไปช่วยหาด้วยดีกว่า ตอนนั้นก็เลยคุยกับพี่ยุ้ยและก็บอกเขาว่าเราต้องเตรียมอุปกรณ์ก่อน คือไปหาซื้อรองเท้าบู๊ท เตรียมของนู่นนี่นั่น ซึ่งวันแรกที่อั้มไปถึงอั้มรออยู่ 5 ชั่วโมงครึ่งนะคะจนได้เจอเขา เพราะเขาเดินออกมาทานข้าวหลังจากที่เขาไม่ได้ทานมาหลายวัน เนื่องจากโดนหมาเจ้าถิ่นไล่ให้เขาต้องไปหลบอยู่ในป่า คือวันนั้นเราเห็นเขาแล้วและก็ยืนรอเขาเพราะเราไม่สามารถเอาตัวเขาออกมาได้ เพราะช่วงใกล้ค่ำมันก็อาจจะมีตัวเงินตัวทองหรือมีงูออกมา คือเราก็ยืนรอแล้วรออีก รออยู่ 5 ชั่วโมงกว่า แต่ตอนนั้นก็ต้องพยายามกินน้ำน้อยๆ ด้วยนะคะเพราะว่าเราเข้าห้องน้ำไม่ได้ จนสุดท้ายพอมันเต็มที่สุดๆ แล้วเราก็ได้พี่ๆ อาสากู้ภัยเข้ามาช่วย แต่ก็ด้วยความกลัวของน้องหมาเขาก็เลยหนีเพราะเขากลัว สรุปแล้วก็คือหาไม่เจอ พอมาอีกวันเราก็ออกตามหากันใหม่ แต่ครั้งนี้ก็คิดนะว่าถ้าไม่เจอไม่ได้แล้วแหละ เราก็เลยตัดสินใจจุดธูปเพื่อขอให้เจอเขา และสุดท้ายก็เจอจริงๆ ดีใจมากค่ะ"

ณ ตอนนั้นที่เจอน้องหมาเขาไปหลบอยู่ตรงไหน?
"ก็อยู่ตรงนั้นนั่นแหละค่ะ แต่เราไม่เจอ และที่สำคัญจริงๆ วันนั้นเราได้ยินเสียงแมวร้องนะ แต่ด้วยความที่หมายังหาไม่เจอไงคะ ดังนั้นวันที่สองพอเรามากันตอนเย็นอีกครั้ง เราก็เลยตัดสินใจช่วยแมวก่อน เพราะแมวเขาร้องตั้งแต่เมื่อวานแล้วและเขาออกมาไม่ได้ ซึ่งอั้มต้องขอบคุณทีมเดอะว้อยซ์ด้วยนะคะเพราะเขาเก่งมาก มาช่วยกันระหว่างรอกู้ภัย ส่วนอั้มก็ส่งเสียงร้องเรียกแมว เหมียว เหมียว ซึ่งน้องเขาก็ตอบกลับมาบ้างเหมือนกันนะ"

ตอนแรกมีท้อไหมเพราะว่าโอกาสที่จะเจอมันยาก?
"ไม่ท้อ แต่นึกว่าต้องได้ตัวแน่นอน แต่ก็ไม่ได้ เราก็เสียใจนอนไม่หลับ ตอนแรกกะจะไปช่วยวันเดียว แต่พอไปเห็นหน้าเขาแล้วอยู่ในพุ่มไม้ก็เลยอยากที่จะช่วย"

ตอนนั้นไม่ห่วงสวยอะไรเลยใช่ไหม?
"วันนั้นก็ไม่ได้ทาครีมกันแดดไปค่ะ หน้าไหม้ไปเลย ก็โดนหญ้าบาดนิดหน่อยด้วย"

เป็นเคสที่ยากที่สุดเลยไหมตั้งแต่ช่วยสัตว์มา?
"คืออั้มไม่ค่อยได้ลงไปช่วยใครเท่าไหร่ แต่เผอิญวันนั้นเป็นช่วงสงกรานต์ว่าง ไม่รู้จะทำอะไรจริงๆ ก็เลยแบบว่าอุ้ยเราต้องช่วย"

แล้วตอนนี้ใครดูแลอยู่?
"ก็คนที่ช่วยตามหาอ่ะค่ะ ที่ไปตามหาคนแรกเขาเป็นคนดูแลเพื่อประกาศหาบ้านต่อไป ถ้าใครสนใจก็ติดต่อมาได้"

แล้วยังมีเคสแบบนี้ที่ให้เราช่วยเหลืออีกไหม?
"คือถ้าเราเห็น เราว่างและใกล้บ้าน รถไม่ติด เราไปได้ แต่ถ้าไกลๆ เราก็จำเป็นต้องส่งใจช่วยจริงๆ ถ้าเราไปไม่ได้ค่ะ"

ถามถึงภาพที่ไปกินข้าวกับไฮโซฟลุค?
"คือวันนั้นจริงๆ ก็โทรมมากเลย ก็ไปช่วยน้องหมาเสร็จแล้ว ก็แวะกินที่นั่นหน้าปากซอยเลย พี่เขามาหาพอดี"

รู้ใช่ไหมว่ามีคนแอบถ่าย?
"เจอจำหน้าได้เลยว่าหนังสือเล่มไหน จำได้เขาชอบเป็นปาปารัสซี่ตลอด กอสสิปสตาร์รู้เลย แต่ไม่คิดว่าจะถ่ายได้เร็ว เราก็พยายามหันหลังให้เขาแล้ว แต่เราจำหน้าได้เลยมีรูปด้วย เพราะให้คนแอบถ่ายไว้เหมือนกัน เจอเขาบ่อยๆ หลายปีมากแล้ว 8 ปีแล้วมั้งคนนี้"

คนก็ชมว่าติดดิน?
"กินทุกร้านค่ะ ตั้งแต่ร้านข้างทางยันร้านหรูๆ"

ตัวพี่เขามีซีเรียสไหมที่มีคนแอบถ่าย?
"แต่อั้มบอกเขาแล้วว่าคนนี้เหมือนปาปารัสซี่นะให้ระวัง เราก็บอกพี่ยุ้ยๆ ยืนไว้ ปิ้งหมูก็ยืนไว้ หน้าเราไม่ได้แต่งยืนบังๆ (หัวเราะ) หัวเราก็ยังติดกิ๊บอยู่เลยเพราะว่ามันร้อน"

แต่ไม่โกรธปาปารัสซี่ใช่ไหม?
"อั้มชินนะ ไม่ได้โกรธ แต่บางทีก็เข้าใจป่ะ คนจะอ้าปากกินข้าว เราก็อยากกินข้าวสบายๆ แล้ววันนั้นคืออารมณ์เสียมาก เพราะมันร้อนมาก และเราก็หิวข้าวมาก เรายังไม่ได้กินข้าว พอไปถึงร้านก็อยากจะกินข้าวให้มันสบายใจ แล้วก็เลือกรูปที่อั้มไม่สวยเลย"

ตกลงความสัมพันธ์เราเป็นยังไง?
"ก็ยังคุยๆ กันอยู่ค่ะ พี่เขาก็น่ารักดี"

ยังไม่ถึงขั้นคบหาดูใจเป็นแฟนใช่ไหม?
"ยังค่ะ ยังไม่แน่ใจ บางทีคนที่คิดว่าใช่มันก็ไม่ใช่เนอะ ต้องดูเรื่อยๆ ค่ะ ต้องดูให้ดี"

แต่พี่เขาเข้ามาจีบเราแน่นอนใช่ไหม?
"ต้องถามพี่เขาค่ะ"

เรียกว่าความรักตอนนี้กำลังไปได้สวย?
"เอาเป็นว่าพี่เขาก็ดีค่ะ เรียกว่าคุยๆ กันดีกว่าค่ะ ก็ลุ้นๆ ไปดีกว่าเนอะ"

เรื่องน้องไทเกอร์ที่เคยเล่นหนังกับเรา เขาขอความช่วยเหลือเรารู้สึกยังไงบ้าง?
"เพิ่งทราบข่าวจากที่คนแท็กมานะคะ น้องโตขึ้นเยอะเลยก็ดีใจที่น้องประสบความสำเร็จ แต่ก็คงมีเรื่องที่น้องไม่สบายใจและลำบาก ก็เอาใจช่วยนะคะ ก็ไม่รู้จะพูดอะไรอ่ะเนอะ บางทีเวลาเราทำอะไรก็ไม่ได้อยากให้ใครมารับรู้เท่าไหร่ เอาเป็นว่าให้คิดถึงเราเป็นคนสุดท้ายแล้วกัน สุดท้ายแล้วก็คิดถึงเราได้"

ก็ยินดีช่วยเหลือถ้าเกิดน้องมีปัญหาหนักจริงๆ ใช่ไหม?
"ใครๆ ก็ยินดีช่วยเหลือ"

เขามีช่องทางที่จะติดต่อเราโดยตรงไหม?
"มันก็ไม่ยากป่ะ แค่แท็กมาก็ต้องเห็น วันนี้ไม่เห็น อีกวันก็ต้องเห็น ไม่เป็นไรตอนนี้คงมีคนช่วยน้องเยอะอยู่แล้วเนอะ เราเห็นเราก็สงสารอยู่แล้ว แต่ยังไงเราก็ต้องแบบว่าคนสุดท้ายก็ได้ ตอนนี้ให้คนอื่นช่วยไปก่อน"

อั้มเคยช่วยน้องมาบ้างแล้วเหมือนกันใช่ไหม?
"ก็นานมากแล้วค่ะ ตอนนี้ก็ให้คนช่วยไปก่อนเลย"

เราติดโพลขวัญใจของคนใช้แรงงาน ใกล้ถึงวันแรงงานแล้วให้ฝากถึงแฟนๆ คนใช้แรงงานให้กำลังใจหน่อย?
"อั้มก็เป็นหนึ่งในคนใช้แรงงานมาทั้งปี เหน็ดเหนื่อยมาก ก็ขอให้กำลังใจตัวเองและทุกคนนะคะ ยังไงก็ต้องสู้ต่อไป ต้องทำงานต่อไป แล้วก็ขอให้เที่ยวในวันหยุดให้สนุกสนานค่ะ"


แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook