นายกรัฐมนตรี ขอทุกฝ่ายช่วยแก้ปัญหาประเทศ ห่วงคนไทยไม่ยอมรับการเปลี่ยนแปลง ยกกระทรวงวิทยาศาสตร์มีความสำคัญกับโลกในอนาคต
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานการประชุมคณะหัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวงหรือเทียบเท่า ครั้งที่ 3/2560 โดยมีนางอรรชกา สีบุญเรือง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ผู้บริหารกระทรวงและหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมการประชุม
โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวก่อนการประชุมว่า กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเป็นกระทรวงที่มีความสำคัญกับโลกในอนาคต ในการช่วยวางรากฐานการพัฒนาประเทศ โดยเฉพาะงานด้านการวิจัยที่อยากให้ทุกคนให้ความสำคัญ และนำผลงานการวิจัยต่างๆ ไปสู่การใช้งานให้ได้จริง ไม่ว่าจะเป็นงานวิจัยด้านยาเวชภัณฑ์ การศึกษา การเกษตร พร้อมเน้นย้ำว่าสิ่งต่างๆ ที่ทำมาแล้วต้องดำเนินการให้เห็นผลภายในปีนี้
สำหรับการประชุมหัวหน้าส่วนราชการครั้งนี้เป็นการประชุมครั้งแรกหลังผ่านพ้นเทศกาลสงกรานต์ และขอบคุณการทำงานที่ผ่านมาช่วง 2 ปี อย่างไรก็ตาม ปัญหาของประเทศสั่งสมมานาน และคนไทยไม่ยอมรับการเปลี่ยนแปลง จึงต้องสร้างความเข้าใจ และให้ช่วยกันแก้ปัญหา ขับเคลื่อนพัฒนาประเทศไปสู่อนาคตอย่างยั่งยืน โดยจะต้องสร้างระบบราชการให้มีศักดิ์ศรี เพื่อให้ได้รับความเชื่อมั่นจากประชาชนซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด ด้วยการเน้นการทำงานเชิงรุก บูรณาการทำงานระหว่างหน่วยงานภาครัฐ เอกชน รวมทั้งกฎหมาย รัฐธรรมนูญ พร้อมย้ำให้ทุกคนทำความดีเป็นข้าราชการที่ดี ทำงานให้เกิดความคุ้มค่า
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงการเดินทางเยือนบาห์เรนที่ผ่านมา ทำให้พบว่าบาห์เรนมีประชากรเพียง 12 ล้านคน และ มีรายได้จากน้ำมันถึงร้อยละ 80 แต่รัฐบาลได้ให้การดูแลประชาชนในด้านต่างๆ แต่ขณะนี้บาห์เรนเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงด้วยการเก็บภาษี สำหรับประเทศไทยได้รายได้น้อยกว่า และยังติดปัญหาไม่ยอมเปลี่ยนแปลง จึงเป็นสิ่งที่ต้องช่วยกันทำความเข้าใจ
สำหรับการประชุมครั้งนี้ได้มีการจัดเมนูอาหารเสิร์ฟนายกรัฐมนตรีและผู้เข้าร่วมประชุม ซึ่งเมนูส่วนหนึ่งมาจากผลการวิจัยพัฒนาโดย สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ หรือ สวทช. โดยมีหุงข้าวหอมชลสิทธิ์ เสิร์ฟคู่กับกุ้งกุลาดำโอเมก้าผัดพริกเกลือกับผักกึ่งสำเร็จรูป มะเขือเทศสมูทตี้ มะคาเดเมีย และเบเกอรีจากลาวแป้งมันสำปะหลังด้วย
ทั้งนี้ ในส่วนของการจัดนิทรรศการ ได้มีการนำเสนอผลงานต่าง ๆ ของหน่วยงานภายใต้สังกัดกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ ที่น่าสนใจคือ ความก้าวหน้าการดำเนินโครงการเมืองนวัตกรรมอาหาร หรือ ฟู้ดอินโนโพลิส โดย สำนักงานคณะกรรมการนโยบายวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมแห่งชาติ (สวทน.) ซึ่งมีบริษัทอาหารชั้นนำทั้งในประเทศ และประเทศญี่ปุ่น เข้าร่วมโครงการ และตั้งห้องปฏิบัติการในพื้นที่ฟู้ดอินโนโพลิส รวมทั้งได้โชว์ผลการพัฒนากรรมวิธีในการเลี้ยงถั่งเช่า ของบริษัทเซโก้ ซึ่งการพัฒนาดังกล่าวจะช่วยพัฒนาคุณภาพของผลิตภัณฑ์จากวัตถุดิบในประเทศ และเป็นการส่งเสริมอาชีพเกษตรกร “Smart farmer” ใน 3 จังหวัดชายแดนใต้อีกด้วย
ขณะเดียวกัน ยังนำเสนอผลิตภัณฑ์อาหารทางการแพทย์ของ บริษัทไทยโอซูก้า บริษัทในเครือ โอซูกะ ฟาร์มาซูติคอล แฟคตอรี่ จำกัด ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเข้าร่วมเครือข่ายเมืองนวัตกรรมอาหาร และมีแผนในการพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารทางการแพทย์ชนิดใหม่ ที่เหมาะสมกับผู้สูงอายุและผู้ป่วยในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง