ฝากขัง3คนค้ากามแม่ฮ่องสอนข้อหาค้ามนุษย์พรากผู้เยาว์

ตำรวจ ปคม. คุมดาบตำรวจ'ยุทธชัย' พร้อมพวกฝากขังศาล คดีค้าประเวณีในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน โดนข้อหาค้ามนุษย์พรากผู้เยาว์ - ค้านประกัน

ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ หรือ ปคม. นำตัว ดาบตำรวจยุทธชัย ทองชาติ ตำรวจภูธรน้ำเพียงดิน จ.แม่ฮ่องสอน /นางสาวปิยวรรณ หรือ เจ๊เมย์ สุขมา และนางสาวปิยะทัสน์ หรือ เจ๊ฟ้า เทียนสุวรรณ 3 ผู้ต้องหา ในคดีร่วมกันตั้งแต่สามคนขึ้นไปค้ามนุษย์เพื่อแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากการค้าประเวณี /สมคบตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์ / ร่วมกันเป็นธุระจัดหา ล่อไปหรือชักพาไปซึ่งบุคคลใดเพื่อให้บุคคลนั้นทำการค้าประเวณีแม้บุคคลนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม / พรากผู้เยาว์ อายุต่ำกว่า 15 ปี แต่ไม่เกิน 18 ปี โดยทั้งหมดเป็นเครือข่ายคดีค้าประเวณีขบวนการ "นกฮูกน้ำเพียงดิน" ในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน ก่อนจะถูกนำตัวจากสถานีตำรวจนครบาลทุ่งสองห้อง มาฝากขังที่ศาลอาญารัชดา เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้คัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเป็นคดีที่ประชาชนสนใจ อีกทั้งยัง เกรงว่าผู้ต้องหาจะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับพยานหลักฐาน และทำการหลบหนี 

ทั้งนี้ ดาบยุทธชัย ได้เตรียมทนายความ เพื่อเตรียมนำหลักทรัพย์เป็นโฉนดที่ดิน มูลค่า 1 ล้านบาท มายื่นขอประกันตัว ส่วนนางสาวปิยวรรณกับนางสาวปิยะทัสน์ ไม่ได้เตรียมทนายและหลักทรัพย์มายื่นขอประกันตัว

"ศรีวราห์" ยันมีหลักฐานชัดมัดคนผิดคดีค้ากามแม่ฮ่องสอน

พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงความคืบหน้าการดำเนินคดีกับกลุ่มขบวนการค้ามนุษย์ในพื้นที่ จ.แม่ฮ่องสอน ว่า เรื่องนี้ตนได้สั่งให้ พล.ต.ท.พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ ผบช.ภ.5 ดำเนินการไปหมดแล้ว ส่วนกรณีที่เหยื่อ อ้างถึง นายสืบศักดิ์ เอี่ยมวิจารณ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ว่าเกี่ยวข้องด้วยนั้น ตำรวจมีพยานหลักฐานชัดเจน แต่ไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด เกรงจะกระทบการทำงาน ตอนนี้ยังไม่จำเป็นที่จะต้องนำตัวมาสอบปากคำ เนื่องจากกระทรวงทางมหาดไทย ได้ตั้งกรรมการสอบ สำหรับตำรวจ 3 นาย ที่มีตั้งแต่ระดับ รองผกก. รองสว. และผู้บังคับหมู่ ถูกตั้งกรรมการสอบไปแล้ว แต่ยังไม่มีหลักฐานเพียงพอออกหมายจับ มีมูลเพียงแค่ซื้อบริการเท่านั้น แต่ยังไม่พบว่าเข้าไปร่วมในขบวนการค้ามนุษย์ อย่างไรก็ตาม หากการสอบสวนพบข้อมูลเพิ่มเติมต้องดำเนินการ พร้อมระบุจากการสืบสวนยังไม่พบนายตำรวจระดับสูงเข้าไปเกี่ยวข้อง แต่ถ้าหากพบก็ต้องดำเนินการสืบสวน ไม่ว่าจะเป็นข้าราชการหน่วยไหน ก็ไม่มีข้อยกเว้น ยืนยันคดีนี้ไม่มีการจับแพะแน่นอน ขอให้ประชาชนมั่นใจได้

รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวด้วยว่าสำหรับกรณีที่มารดาของเหยื่อได้ร้องขอให้คดีอยู่ในความรับผิดชอบของกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ พร้อมทั้งให้มีการคุ้มครองพยานนั้น เป็นสิทธิ์ที่สามารถทำได้ ยืนยันไม่กระทบการการทำงาน ซึ่งคดีดังกล่าวสามารถอยู่ในความรับผิดชอบของดีเอสไอได้ ถ้าหากคณะกรรมดีเอสไอรับ ตำรวจไม่มีสิทธิ์ไปทักท้วงอยู่แล้ว เพราะอยู่ในอำนาจของดีเอสไอ ส่วนมารดาของเหยื่ออ้างว่า ผู้ซื้อบริการรุมโทรมเหยื่อและใช้ยาเสพติดนั้น ต้องขยายผลเช่นกัน ยืนยันว่าไม่ได้นิ่งนอนใจ โดยเรื่องนี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. กำชับให้ดำเนินการอย่างเด็ดขาด