จากสาขาแรกสู่ 10 สาขา อยากรู้ไหมว่าเจ๊จงหมูทอดทำได้อย่างไร

จากสาขาแรกสู่ 10 สาขา อยากรู้ไหมว่าเจ๊จงหมูทอดทำได้อย่างไร

จากสาขาแรกสู่ 10 สาขา อยากรู้ไหมว่าเจ๊จงหมูทอดทำได้อย่างไร
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

    หลังจากได้บอกเคล็ดลับเรื่องของความสำเร็จกับรสชาติของหมูทอดที่ใครๆ ก็ต้องติดใจกันไปแล้ว Sanook! เลยขอเจาะลึกเปิดใจกับเจ๊จงอีกสักนิด ว่าการบริหารจากร้านเดียวสู่ 10 สาขาทุกวันนี้ ความเป็นมานั้นเป็นอย่างไร เพราะขนาดสาขาแรกที่เราได้เข้าไปนั่งอยู่นี่ ก็ต้องยอมรับเลยว่าตลอดเวลากว่าสามชั่วโมงที่ได้อยู่กับเจ๊จงนั้น มีลูกค้าเข้ามาอย่างต่อเนื่องไม่ขาดสายเลย แถวต่อยาวไปหลายสิบเมตร

     ใช้ความสนุกเป็นตัวช่วยในการรับมือ

     ตัวช่วยแรกสุดที่ช่วยในการบริหารร้านเมื่อครั้งที่ยังมีร้านเดียว แต่ลูกค้าเยอะขึ้นอย่างมากนั้น เจ๊จงบอกกับเราว่ามันคือความสนุกในการทำงานนี่เอง

     “ด้วยที่เราเป็นคนที่แบบชอบทำด้วย ใช่ไหม มันก็กลายเป็นสนุกสนานไป จากตอนแรกที่เราเริ่มทำคนเดียว ทุกอย่างคนเดียว หุงข้าว อย่างสมัยก่อนหุงข้าวแบบรินหม้อ สองหูแล้วก็ริน เอาไม้คัด พอเราขายดีปุ๊บ เรารู้ละเราต้องหาคนมาช่วย คนแรกที่เราเข้ามาช่วยเรา ช่วยหุงข้าว ล้างจาน พอเราเริ่มขายดีมาอีกปุ๊บ เราก็หาคนเข้ามาอีก จนเริ่มทำๆ ทีละสเต็ป ถึงตอนนี้ 20 กว่าคนแล้วรวมแล้วในนี้”

     ที่ปรึกษาดีมีชัยไปกว่าครึ่ง!!!

     ถ้าใครติดตามเจ๊จงน่าจะทราบกันดีว่า เราได้เห็นเจ๊ครั้งแรกจากรายการข่าวรายการหนึ่ง จนเป็นกระแสสังคม และหลังจากนั้น เจ๊ก็มีโอกาสได้ไปออกรายการหนึ่ง จนทำให้หมูทอดเจ๊จงกลายเป็นกระแสที่ใครๆ ก็ต้องมาชิมกันสักครั้ง ซึ่งถือว่าเป็นผลที่มีมูลค่ามหาศาล นอกจากนี้ชัยชนะจากรายการนั้น ทำให้เจ๊ได้ที่ปรึกษาในเรื่องของการทำธุรกิจจนประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก จนตอนนี้เจ๊จงหมูทอดนั้นขยายไปถึง 10 สาขา ซึ่งมีเหล่าลูกๆ ของเจ๊นี่ล่ะ ที่เป็นผู้ดูแลในแต่ละสาขาของตัวเอง

     “ถามว่าเจ๊รู้เรื่องไหม เจ๊ไม่รู้เรื่องหรอก แต่เจ๊ก็อาศัยวิธีการดูเขา แล้วเจ๊ก็เป็นคน อย่างที่เจ๊บอกและ เจ๊เป็นคนที่มีความรู้น้อยใช่มะ เจ๊เป็นคนที่โชคดีอยู่อย่างหนึ่งตอนไปออกรายการ ได้รู้จักกับอาจารย์ธันยวัชร์ แล้วเขาก็รักเจ๊เหมือนเป็นน้องสาวเขาใช่มะ เขาก็จะฝากฝังให้คนนู้นคนนี้มาดูแลเจ๊ ก็กลายเป็นว่าเจ๊ไม่ได้เป็นคนเก่ง แต่เจ๊แม่งโคตรโชคดีเลยที่มีแต่คนเก่งๆ อยู่รอบตัวเจ๊”

     โดยเจ๊จงได้บอกต่อถึงโครงการ “UFS ปรุงชีวิต พิชิตฝัน” จาก ยูนิลีเวอร์ ฟู้ด โซลูชั่นส์ ที่เปิดโอกาสให้เจ้าของร้านอาหารทั้งหลาย ไม่ว่าจะมีขนาดร้านแบบไหน ขอแค่มีความฝันและอยากพัฒนาได้ส่งร้านตัวเองเข้าในโครงการ เพื่อรับคำปรึกษาและโปรดักต์ สำหรับพัฒนาให้ร้านนั้นมีโอกาสทางการขายที่มากขึ้น

     “เจ๊อิจฉามาก จากโครงการนี้ เรามานึกถึงสมัยก่อน เราไม่มีเงินทุน แต่อันนี้ถ้าเราคิดว่าเรามีฝีมือจริงว่ารสชาติอาหารเราโอเค แล้วเรามีเป้าหมายที่ชัดเจนว่า เราต้องการจะขยายร้านให้ยิ่งใหญ่ขนาดไหน อันนี้เจ๊ว่ามันไม่ยากเลยนะ แล้วมันโชคดีเลยล่ะ ถ้าเป็นเจ๊สมัยก่อน เจ๊กระโดดเข้าใส่เลย แล้วเราอยากจะพัฒนาร้านเราให้มันดีอย่างที่เป็นอยู่โดยเราไม่ต้องไปหยิบยืมหรือกู้เงินใคร มันก็น่าที่จะลอง มันไม่ได้เสียหายด้วย แล้วมันก็เป็นผลดีกับเราด้วย ถูกต้องไหม”

     และเจ๊จงหมูทอดยังเดินหน้าต่ออย่างไม่ยอมไม่หยุดนิ่ง

     ก่อนที่ Sanook! จะปิดท้ายการสัมภาษณ์ เราถามถึงแพลนข้างหน้าของหมูทอดเจ๊จง ซึ่งเจ๊ก็ได้บอกเราว่ายังมีแพลนอื่นๆ อีกมากมาย สำหรับหมูทอดของเจ๊ และไม่ยอมที่จะหยุดอย่างแน่นอน

     “ไม่หยุด คือจริงๆ แล้วถ้าเรามองว่าขายของมันง่ายๆ ตื่นมาทำๆ ขายแต่สำหรับเจ๊ เจ๊ว่ามันไม่ใช่ มันต้องค่อยคิด ค่อยพัฒนาต่อไป”

     สำหรับเราแล้วได้อ่านแบบในฐานะลูกค้าของเจ๊จงขอยกให้เจ๊จงเป็น “ฮีโร่ผู้อยู่เบื้องหลังจานอร่อย” ตัวจริง

     ส่วนใครที่อยากได้ที่ปรึกษาดีๆ อย่างเจ๊ ก็อย่าลืมสมัครเข้าร่วมกับโครงการ “UFS ปรุงชีวิต พิชิตฝัน” จะได้มีโอกาสดีๆ เหมือนอย่างเจ๊จง!!! โดยคลิกสมัครที่นี่ได้เลย http://bit.ly/2mHfywK




[Advertorial]

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook