พ่อขอโทษสังคม พร้อมเผยปมไลฟ์สดขู่จะผูกคอลูกสาว

พ่อขอโทษสังคม พร้อมเผยปมไลฟ์สดขู่จะผูกคอลูกสาว

พ่อขอโทษสังคม พร้อมเผยปมไลฟ์สดขู่จะผูกคอลูกสาว
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

จากกรณีที่มีการเผยแพร่คลิปวีดีโอในโลกออนไลน์ ซึ่งที่โพสต์ลงในเฟซบุ๊กเป็นภาพของการตัดพ้อภรรยาที่หนีไปมีชายอื่น พร้อมทั้งทำลักษณะท่าทางจะใช้เชือกผูกคอลูกสาวแล้วฆ่าตัวตายตาม ซึ่งทราบต่อมาว่า ผู้ที่เป็นเจ้าของเฟซบุ๊กและไลฟ์วีดีโอสดดังกล่าวคือ นายวิชัย ชาวบ้าน ต.ซับเปิบ อ.วังโป่ง จ.เพชรบูรณ์

ล่าสุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (1 พ.ค.) พ.ต.ท.กฤษณพงษ์ แพทย์สิทธิ์ รอง ผกก.ป.สภ.วังโป่ง จ.เพชรบูรณ์ ได้เดินทางไปยัง หมู่ 9 บ้านคลองน้ำคันเหนือ ต.ซับเปิบ อ.วังโป่ง จ.เพชรบูรณ์ ซึ่งเป็นบ้านที่เกิดเหตุและนำตัว นายวิชัย มาที่ สภ.วังโป่ง เพื่อทำการพูดคุยทำความเข้าใจ สงบสติอารมณ์ และปรับทัศนคติ

โดย นายวิชัย รับว่าทำไปด้วยอารมณ์ชั่ววูบ เพื่อประชดภรรยา ไม่มีเจตนาที่จะทำร้ายบุตรหรือทำร้ายตัวเอง เพียงแต่เรียกร้อง ความสนใจจากภรรยาเท่านั้น ส่วน ด.ญ.กิ่งการ ได้นำมาฝากให้ นางสมถวิล อายุ 41 ปี ซึ่งเป็นพี่สาวและมีตำแหน่งเป็น อบต.ซับเปิบ ดูแล

และเวลา 17.00 น.วันนี้ นายชาครินทร์ อินอิ่ม นายอำเภอวังโป่ง ได้เข้าไปตรวจสอบ โดยนายวิชัย กล่าวว่า ตนกับภรรยาคือ น.ส.ปรางค์ทิพย์ หรือ อี๊ด อายุ 25 ปี มีลูกสาวด้วยกัน 1 คน แต่ด้วยฐานะยากจน ตนจึงเดินทางไปทำงานอยู่ที่กรุงเทพฯ ให้แฟนเลี้ยงลูกอยู่ที่บ้าน โดยจะส่งเงินมาให้ใช้โดยตลอด

กระทั่งล่าสุดตนส่งมาให้ 4,000 บาท แต่หลังจากนั้นเพียงอาทิตย์เดียว แฟนบอกว่าเงินหมดแล้ว และที่ผ่านมาได้ระแคะระคายข่าวว่าแฟนไปคบกับผู้ชายคนอื่น จึงกลับมาที่บ้านพบลูกสาวอยู่บ้านเพียงคนเดียว และทราบว่าแฟนได้หนีไปอยู่กับชายอื่นแล้ว

จึงเกิดความเครียด และได้จัดฉากเพื่อที่จะใช้เชือกผูกคอลูกสาวเพื่อเรียกร้องความสนใจ หวังว่าแฟนจะกลับมา ซึ่งจริงๆแล้วตนไม่มีเจตนาที่จะฆ่าหรือผูกคอลูกสาวแต่อย่างใด

นายวิชัย กล่าวต่อว่า ในขณะนี้หลังจากได้กำลังใจจากญาติๆ ทำให้มีกำลังใจพร้อมที่จะสู้เพื่อลูกสาว และไม่คิดจะทำเช่นนั้นอีก จึงอยากขอโทษสังคมขอโทษญาติๆที่เป็นห่วง และทำไปโดยไม่ยั้งคิด

ด้าน นายชาครินทร์ กล่าวว่า หลังจากทราบข่าว ก็ได้ประสานให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาตรวจสอบเบื้องต้น พร้อมทั้งนำปัสสาวะไปตรวจหาสารเสพติด ซึ่งก็ไม่พบแต่อย่างใด ซึ่งการที่นายวิชัยกระทำดังกล่าว เนื่องมาจากความเครียดและรักลูกรักแฟนมาก ซึ่งตนก็พูดให้กำลังใจและข้อคิดต่าง ๆ และจากนี้ไปนายวิชัยได้รับปากว่าจะไม่กระทำการดังกล่าวอีก และจะเลี้ยงลูกให้ดีที่สุด

อย่างไรก็ตาม ทางอำเภอก็จะได้เฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด หากมีปัญหาไม่ว่าจะด้านใด ก็จะเข้าไปให้การช่วยเหลือเพื่อไม่ให้เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นอีก

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook