โดนัท ลำดับเหตุการณ์ พ่อปั่นจักรยานแต่ถูกรถเฉี่ยวแล้วหนี

โดนัท ลำดับเหตุการณ์ พ่อปั่นจักรยานแต่ถูกรถเฉี่ยวแล้วหนี

โดนัท ลำดับเหตุการณ์ พ่อปั่นจักรยานแต่ถูกรถเฉี่ยวแล้วหนี
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ถึงแม้เหตุการณ์จะผ่านมาเกือบอาทิตย์แล้ว แต่นักแสดงสาว "โดนัท มนัสนันท์" ก็ยังไม่ได้เจอคู่กรณี โดยล่าสุดเจ้าตัวได้ออกมาเปิดเผยกับสื่อมวลชนให้ฟังถึงเหตุการณ์ที่คุณพ่อปั่นจักรยานออกกำลังกายจนถูกรถยนต์เฉี่ยวแต่คู่กรณีหนีและไม่ได้ติดต่อกลับมาแสดงความรับผิดชอบ จนถึงเมื่อช่วงเช้าเพิ่งได้รับการติดต่อมา พร้อมบอกเข้าใจว่าเป็นอุบัติเหตุแต่ควรมีความรับผิดชอบร่วมกัน

โดยงานนี้สาวโดนัทยังได้ฝากขอบคุณทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ที่ช่วยคุณพ่อและตามรถคันนี้จนเห็นเลขทะเบียนได้ชัดเจน

"ช่วงประมาณ 4 ทุ่มคุณแม่โทรเข้ามาว่าคุณพ่อโดนรถเฉี่ยวอยู่โรงพยาบาล ก็รีบตามไปดูค่ะ คุณพ่อเขาลำดับเหตุการณ์ไม่ได้ว่าเกิดอะไรขึ้น เบื้องต้นมีเย็บที่หัวเข่า กล้ามเนื้ออักเสบ คุณหมอให้กลับบ้านได้ไม่มีอะไร ส่วนเรื่องดำเนินคดีคุณแม่กับน้าเป็นคนไปแจ้งความไว้ตามปกติที่โรงพักค่ะ คือจริงๆ เราก็ทราบชื่อรถคันที่ชนตั้งแต่วันนั้นแล้ว แต่เราก็รอให้มันเป็นไปตามกระบวนการของกฎหมายค่ะ จริงๆ โดนัทเข้าใจว่ามันเป็นอุบัติเหตุ มันไม่มีใครหรอกที่จะตั้งใจอยู่ๆ ขับรถมาชนคุณพ่อ คือเราเข้าใจ แต่เหมือนทุกวันเราก็จะคุยกันว่าทำไมพอเขาชนแล้วเขาถึงไปเลย ทำไมไม่จอด ไม่ลงมาดู แต่ก็โชคดีตรงที่มันเป็นเวลาที่ทุกคนชอบออกไปปั่นจักรยานอยู่แล้ว และระหว่างที่คุณพ่อปั่นอยู่แล้วล้มก็ได้มีแก๊งคนปั่นจักรยานด้วยกันมาเจอ และโชคดีอีกที่คุณพ่อไม่ได้ล็อคโทรศัพท์ เขาเลยเอาโทรศัพท์คุณพ่อโทรบอกคุณแม่ และก็โชคดีอีก (ยิ้ม) ที่มีคนเห็นเหตุการณ์และขับตามรถยนต์คันนั้นให้ค่ะ"

เห็นบอกว่าตอนนี้ทางคู่กรณีได้ติดต่อกลับมาแล้ว?
"รู้สึกว่าเขาจะติดต่อมากับทางโรงพักเมื่อเช้านะคะ ซึ่งเอาจริงๆ แล้วมันกี่วันแล้วอ่ะ มันหลายวันแล้ว พอข่าวออกเขาถึงเพิ่งติดต่อมา เราก็ยังไม่ได้คุยอะไรเพราะทำงานอยู่ที่นี่เมื่อเช้า เห็นว่าก็โทรหาคุณแม่ค่ะ เบื้องต้นมันก็เป็นไปตามกฎหมายแหละ อย่างที่บอกเราไม่ได้ต้องการอะไร แต่เราแค่ไม่เข้าใจว่าทำไมชนคนแล้วถึงไม่หยุดดู อุบัติเหตุมันเกิดขึ้นได้ แต่ว่ามันก็ต้องรับผิดชอบด้วยกัน คือเราก็ไม่ได้บอกว่าเราถูก โดนัทจะกังวลมากเลยเรื่องคุณพ่อปั่นจักรยาน จะเข้าใจว่าประเทศเราไม่ได้มีเลนสำหรับคนปั่นจักรยาน แต่คนที่ปั่นจักรยานมันเป็นชีวิตจิตใจของเขา เขาก็ออกไปปั่นกันทุกวัน ห้ามก็ไม่ได้ แต่คุณพ่อจะมีติดไฟไว้ค่ะ และวันนั้นหมวกกันน็อคก็แตก โดนัทว่าน่าจะหนักอยู่เหมือนกัน ทุกวันนี้เวลาถามว่าป๋าจำได้ไหมโดนชนยังไง เขาก็ยังลำดับเหตุการณ์ไม่ได้ค่ะ เขาก็เพิ่งจะรู้ว่ารถที่ชนคือข้างขวา เพราะโดนัทมานั่งดูว่าหูกระจกข้างไหนมันหลุดไป เราเองก็ไม่อยากจะมาสรุปอะไรเอง รอให้มันเป็นเรื่องทางกฎหมายไป"

ส่วนตัวคิดว่ามันช้าไปไหมที่คู่กรณีเพิ่งติดต่อมา?
"เอาจริงๆ ก็คิดนะ เราก็ไม่ได้โลกสวย ถ้าเราไม่โพสต์แล้วจะยังไงต่ออ่ะ เขาก็คงจะไม่ได้ติดต่อมา อย่างที่บอกว่าอุบัติเหตุมันเกิดขึ้นได้แต่เราต้องช่วยกันรับผิดชอบ"

ก่อนที่เขาจะติดต่อกลับมา เราได้แจ้งความไว้ ทางตำรวจได้ตามตัวคู่กรณีให้บ้างไหม?
"เขาก็อาจจะติดวันหยุด (หัวเราะ) วันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ วันจันทร์วันแรงงานอีก (หัวเราะ) อย่างที่บอกค่ะโดนัทไม่ได้บอกนักข่าวเลย ไม่ได้โทรหาผู้ใหญ่เลย ก็รอมาเรื่อยๆ จนถึงคืนวันอาทิตย์ถึงโทรถามคุณตำรวจว่ากระจกข้างที่หลุดของเขาคือข้างไหน เพราะเราดูในคลิปเพิ่งเห็น และอีกอย่างเผื่อเขาจะซ่อมรถ เราเลยบอกไปว่าอยู่ที่โรงพักนะ บางทีก็คิดว่าหรือคนที่เฉี่ยวพ่อไม่มีอยู่จริง (หัวเราะ) แต่อย่างที่บอกค่ะโดนัทโชคดีมากที่คุณพ่อไม่เป็นอะไร แต่เราคิดตลอดว่าถ้าไม่มีคนมาเจอ ถ้าพ่อล็อคโทรศัพท์เขาจะติดต่อใครยังไง มันคงไม่ใช่เป็นครั้งแรกสำหรับเหตุการณ์ที่มีรถชนจักรยานหรือคน แต่มันก็ต้องมีความรับผิดชอบด้วยกันอ่ะ"

ทางคู่กรณีได้บอกมาหรือยังว่าทำไมวันนั้นถึงหนี?
"ตอนนี้คงเป็นเรื่องของทางกฎหมายแล้วค่ะ ซึ่งเราก็เข้าใจว่าเขาหนีไปแล้วอ่ะ (หัวเราะ)"

จะมีโอกาสได้เจอคู่กรณีไหม?
"เดี๋ยวโดนัทรอคุยกับที่บ้านและทางตำรวจอีกทีว่าเป็นยังไง แต่อย่างที่บอกเราไม่ได้อยากจะใช้ความที่เราเป็นคนที่มีคนรู้จักมาตามเรื่องนี้ แต่ตอนนี้คือทุกคนมีกล้องในรถ ซึ่งเป็นความโชคดีมาก โดนัทต้องขอบคุณพี่คนที่ขับตามรถคันนั้นไป แต่คือเขาดูก่อนจนแน่ใจแล้วว่ามีคนช่วยพ่อค่ะ เขาก็ขับตามไป ตอนแรกยังเห็นไม่ชัด เขาก็ขับไปอีกจนได้เห็นทะเบียนที่ชัดถึงได้วนกลับมาค่ะ และโดนัทต้องขอบคุณแก๊งจักรยานที่คอยช่วยดูแลกันด้วย"

ตอนนี้อาการคุณพ่อเป็นยังไงบ้าง?
"เบื้องต้นคุณหมอไม่ได้เป็นห่วงเรื่องสมองนะคะ เป็นแค่เรื่องกล้ามเนื้ออักเสบ อย่างที่บอกเรื่องมันก็เกิดหลายวันจนคุณพ่อจะตัดไหมแล้วอ่ะ (หัวเราะ)"

ได้กำชับเรื่องการปั่นจักรยานหรือห้ามคุณพ่ออีกไหม?
"คุณพ่อโดนดุเลย ทุกคนบ่นหมด คือคนขี่จักรยานเขาก็จะระวังของเขาค่ะ อย่างไฟที่ติดให้เห็นสัญลักษณ์เขาก็มีสองดวงเผื่อไว้อันไหนดับ และโดนัทก็เพิ่งดูหมวกกันน็อคเขาจะติดสติ๊กเกอร์เรืองแสงที่เราซื้อให้ คือเขาก็กังวลแหละ แต่คนขี่จักรยานเราห้ามเขาไม่ได้ เพราะใจมันอยากจะไปขี่ นี่ก็คุย ก็ขอร้องให้ไปขี่ในที่ที่เขาจัดไว้ให้ เราก็อยากจะฝากคนขับขี่นะคะ บางทีพอมันเกิดอุบัติเหตุเราจอดดูเขาก่อน เพราะมันก็มีหลายๆ กรณีที่เขาน่าจะรอดแต่กลับไม่รอดเพราะไม่มีคนช่วย"

ถ้าคู่กรณีอ่านข่าวนี้อยู่ เราอยากจะบอกอะไรเขาไหม?
"ก็มารับหูกระจกคืนด้วยค่ะ (หัวเราะ) ตอนนี้เรายังไม่ได้คุยกับเขาเลย คือโดนัทก็รอมาหลายวันนะ ไม่ได้ทำอะไรผลีผลามเลย รอด้วยความใจเย็นมาก พี่สาวยังโทรมาหาโดเลยว่า เราไม่รู้ว่าเขาใช่คนที่ชนจริงหรือเปล่า อย่าไปโพสต์แบบนั้น เดี๋ยวเขาจะเสียหาย แต่เราก็ไม่ได้เขียนอะไรที่เราไปว่าเขา แต่อยากให้เห็นใจค่ะว่าถ้าเกิดมันเกิดขึ้นในครอบครัวของตัวเองล่ะ และก็ฝากให้พี่ๆ ตำรวจช่วยติดตามเรื่องต่อให้ด้วย"

ถ้าเขาขอโทษ และขอรับผิดชอบ เรายินดีที่จะให้อภัยไหม?
"ตอนนี้คือมันไม่ได้เป็นเรื่องขอโทษแล้วไง มันเป็นเรื่องความรับผิดชอบ และถ้าโดนัทไม่ได้ตัดสินใจโพสต์คลิป ถ้าพี่ๆ นักข่าวไม่เขียนและช่วยติดตาม มันจะเป็นยังไงต่อ ตอนนี้ก็ให้เป็นไปตามกฎหมายแล้วกัน"

อัลบั้มภาพ 8 ภาพ

อัลบั้มภาพ 8 ภาพ ของ โดนัท ลำดับเหตุการณ์ พ่อปั่นจักรยานแต่ถูกรถเฉี่ยวแล้วหนี

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook