เคราะห์ซ้ำ! แม่ป่วยมะเร็งระยะสุดท้าย วอนช่วยลูกชายทรมานโรคพุ่มพวง

เคราะห์ซ้ำ! แม่ป่วยมะเร็งระยะสุดท้าย วอนช่วยลูกชายทรมานโรคพุ่มพวง

เคราะห์ซ้ำ! แม่ป่วยมะเร็งระยะสุดท้าย วอนช่วยลูกชายทรมานโรคพุ่มพวง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

(4 พ.ค.) เมื่อเวลา 11.00 น. นายวิเชียร จูห้อง นายอำเภอท่าตะโก จ.นครสวรรค์ พร้อมด้วยนายวิฑูร บุญเพ็ชร ผู้ช่วยสาธารณสุข อ.ท่าตะโก รวมถึงหน่วยพยาบาล และทหาร ร่วมเข้าเยี่ยมเยียนและตรวจสอบอาการ นายคณาวุฒิ อายุ 21 ปี ซึ่งนอนป่วยเป็นโรคพุ่มพวง หรือโรคแพ้ภูมิตนเอง โดยมีบิดา คือ นายสายม่าน อายุ 49 ปี และนางอรุณี อายุ 44 ปี มารดาซึ่งมีอาการป่วยเป็นมะเร็งที่สมองระยะสุดท้าย คอยเฝ้าดูแลบุตรชายอยู่ไม่ห่าง

จากการตรวจสอบ พบว่า นายคณาวุฒิต้องนอนซมอยู่ในห้องที่ติดเครื่องปรับอากาศ ไม่สามารถลุกเดินออกไปไหนได้ เนื่องจากสภาพตามร่างกายมีแผลกดทับขนาดใหญ่จากการเป็นแผลพุพองมาก่อนหลายแห่ง และต้องอยู่อย่างทรมานในสภาพนี้มานานกว่า 3 ปีแล้ว เพราะรักษาไม่หายขาด จึงทำให้กลุ่มเพื่อนของนายคณาวุฒิ ตัดสินใจนำเรื่องอาการป่วยดังกล่าว ไปประกาศโพสต์บนเฟซบุ๊กบนหน้าเพจข่าวต่างๆ ของชาวนครสวรรค์ เพื่อขอคำแนะนำจากผู้รู้ ให้ช่วยหาสถานที่รักษาให้หายขาด กระทั่ง ผู้นำเรื่องไปแชร์กันเป็นวงกว้าง จนนายอำเภอทราบเรื่อง จึงได้นำทีมเข้าตรวจเยี่ยมอาการ พร้อมกับเตรียมนำตัวนายคณาวุฒิส่งไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์

จากการสอบถามนางอรุณี เล่าว่า บุตรชายของตนป่วยด้วยโรคพุ่มพวงมานานกว่า 3 ปี ช่วงแรกๆ ยังสามารถเดินไปไหนมาไหนได้ และช่วงที่เป็นโรคนี้ใหม่ๆ เคยพาไปรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์มาแล้ว โดยแพทย์ตอนนั้นระบุว่า บุตรป่วยเป็นโรคแพ้ภูมิตนเอง มีอาเหมือนกับคุณพุ่มพวง ดวงจันทร์ อดีตนักร้องชื่อดัง แต่อาการจะรุนแรงกว่า ต้องคอยรักษาไปเรื่อยๆ แต่ไม่ระบุว่าโรคนี้จะรักษาให้หายขาดได้ ซึ่งก็อยู่รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลได้สักระยะหนึ่ง จนอาการเริ่มดีขึ้น ก่อนจะกลับมารักษาตัวอยู่ที่บ้าน อาการก็เริ่มทรุดลงอีก เพราะบุตรไม่สามารถโดนสภาพอากาศที่ร้อนจัดได้ จะเกิดแผลพุพองและแผลกดทับทันที จึงต้องติดเครื่องปรับอากาศเพื่อช่วยเหลือไม่ให้มีแผลพุพองเกิดใหม่เกือบตลอดเวลา

อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ตนได้พาบุตรชายไปเกณฑ์ทหารตามหมายเรียก เมื่อต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา ปรากฏว่า อาการของลูกกลับทรุดหนักลงอย่างมาก ถึงกับไม่สามารถเดินได้ จึงทำให้ตนและสามีจะคอยผลัดเปลี่ยนกันดูแล ทำความสะอาดร่างกาย ล้างแผล ให้อาหารและยาแก่ลูกทุกวัน ส่วนค่าใช้จ่ายในการรักษา ถือว่ายังไม่หนักมาก เพราะบุตรยังใช้สิทธิ อสม.ของตนอยู่ จึงมียาทาและยากินฟรี แต่ก็จะต้องเสียค่าใช้จ่ายในส่วนของแผ่นอนามัย ที่ต้องใช้ถึงวันละ 4 แผ่น

เมื่อสอบถามอาการป่วยมะเร็งสมองระยะสุดท้ายกับนางอรุณี ได้รับตอบว่า เนื่องจากเมื่อหลายปีก่อน ตนเคยเดินไปชนคานไม้อย่างแรง จนเกิดเป็นเนื้องอก และลุกลามมาจนเป็นมะเร็ง ซึ่งที่ผ่านมาก็เคยรักษาโดยการผ่านตัด ฉายแสงแล้ว ทุกวันนี้ต้องใส่กะโหลกเทียม และก็ต้องกลับมารักษาตัวอยู่ที่บ้านตามมีตามเกิด ไม่มียากิน เพราะแพทย์ไม่สามารถรักษาอะไรได้แล้ว มีเพียงแต่การสวดมนต์ฝึกสมาธิเพียงเท่านั้น

บอกตรงๆ ตนรู้สึกกลัวอย่างมาก กลัวว่าหากตนสิ้นลมหายใจจากไป จะทำให้สามีลำบากต้องอยู่ดูแลบุตรโดยลำพัง และตนก็เป็นห่วงลูกอย่างมาก ไม่อยากให้เค้าต้องทุกข์ทรมาน เหมือนตายทั้งเป็นด้วยอาการป่วยโรคพุ่มพวงไปตลอดชีวิต ตนจึงอยากอ้อนวอนขอหน่วยงานรัฐ หรือแพทย์ที่สามารถรักษาบุตรให้หายขาดได้ โปรดให้ความช่วยเหลือบุตรชายตนด้วย

ทั้งนี้ หากผู้ใจบุญท่านใดต้องการให้ความช่วยเหลือแก่ครอบครัวของนายคณาวุฒิ ทั้งค่าใช้จ่าย หรือให้คำแนะนำในการรักษา สามารถติดต่อนางอรุณีได้ที่เบอร์โทรศัพท์  093-2296617.

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook