“หนิง ปณิตา” ควง “เสือ นวพล” เปิดใจหลังโดนแจ้งหมิ่นฯ ไลฟ์พาดพิงค่ายลูกทุ่ง

“หนิง ปณิตา” ควง “เสือ นวพล” เปิดใจหลังโดนแจ้งหมิ่นฯ ไลฟ์พาดพิงค่ายลูกทุ่ง

“หนิง ปณิตา” ควง “เสือ นวพล” เปิดใจหลังโดนแจ้งหมิ่นฯ ไลฟ์พาดพิงค่ายลูกทุ่ง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

สำหรับประเด็นดาราสาว “หนิง ปณิตา” ถูกทนายความค่ายเพลงบ้านไทยลูกทุ่ง ฟ้องร้องฐานหมิ่นประมาท จากกรณีที่หนิง ได้ทำการไลฟ์สดผ่านเฟซบุ๊ก และอ้างว่าเจ้าของค่ายเพลง ได้หลอกเก็บเงินรายหัวกับคนที่อยากเป็นนักแสดง

ทางดาราสาว หนิง ปณิตาได้ออกมาแถลงอย่างเป็นทางการพร้อมกับผู้เสียหาย “เสือ นวพล ข้อยุ่น” ว่า จริงๆ แล้ว ตนไม่ได้รู้เรื่องนี้เลยในตอนแรก มารู้เรื่องทั้งหมดหลังจากน้องเขาได้โอนเงินไปแล้ว และทางด้าน เสือ ผู้เสียหาย ได้เปิดใจต่อผู้สื่อข่าวเล่าความจริงทั้งหมดว่าตนเข้ามาในค่ายนี้ได้อย่างไร มาเจอกับ พี่ใหม่ ได้อย่างไร แล้วทำไมถึงไปเชื่อว่าโอนเงิน 5 หมื่นแล้ว ถึงได้เข้าเป็นนักแสดง

“ที่เข้ามาในตอนแรกคือ ผมทำงานเครือข่ายครับ ขายตรงนี้แหละครับผม มีโอกาสมาช่วยดาราที่กรุงเทพครับ ก็คือ แม่ใหม่ เขาจัดเวทีลูกทุ่ง ผมเลยเข้าไปช่วยดารา ก็ปกติครับ ไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่แม่ใหม่ก็บอกว่าด้วยรูปร่างเบื้องต้นแล้ว บุคลิกภาพเบื้องต้นของเรา พอจะทำเป็นศิลปินได้ ร้องเพลงได้ไหม ก็บอกว่าได้ครับ ทำอะไรได้บ้าง ก็เลยบอกไปว่าเป็นพิธีกรครับ แกก็บอกโอเคเลย แม่รู้จักหนึ่งคนที่เขาสามารถพาเข้าวงการได้ เป็นเจ้าของค่ายเพลง"

"ซึ่งผมก็ไม่ได้สนใจเพราะจุดประสงค์ของผมคือ มาหาดารา เพื่อมาช่วยดาราครับ ไม่ได้อยากเป็นนักแสดง แต่เขาก็มาเล่าให้เราฟังว่าเขาสามารถผลิตนักแสดงได้ ปั้นเด็กในวงการได้ โดยการที่เอาผลงานของเขามาเปิดให้เราดู เขาก็ถามว่าเนี้ยสนใจบ้างไหม ผมก็บอกว่าผมเฉยๆครับ เขาก็คุยกับผมหลายๆเรื่อง ทำให้ผมรู้สึกว่าอยากเข้าวงการ โดยการบอกว่าจะมีละครของช่อง 3 นะ ของพี่คนนั้นคนนี้นะ ให้เราส่งโปรไฟล์เรามาในรูปแบบหลายๆอย่าง ผมก็เฉยๆ"

"พอวันที่สอง เขาก็มาคุยกับพี่ที่พาผมไปช่วยงานครับว่า ทำไม น้องเขาไม่อยากเข้าวงการหรอ น้องเขาไม่อยากทำงานหรอ ถามหลายๆอย่าง ผมก็คิดว่าการเข้าวงการรู้จักกันวันเดียว สองวัน พาเข้าวงการได้เลยหรอ ผมก็คิดในใจนะว่ามันไม่น่าจะน่าจะใช่มั้ง เราก็ถือใจซื่อคุยไปเรื่อยๆ ครับ แล้วเขาก็พาผมไปร่วมงานครับ"

"ก่อนที่จะพาผมไปร่วมงาน เขาก็พาผมไปเทสเสียงก่อน พาผมไปร้านคาราโอเกะแห่งนึง ให้ผมไปร้องเพลงนึง เขาก็บอกว่าร้องเพลงยังไม่โอเคนะ แต่เราก็สามารถทำอย่างอื่นได้ ก็อย่างแสดงละครนี้ไง เขาก็เรียกผมมาคุยสองต่อสอง พี่มีละครเยอะแยะ พี่รู้จักคนนั้นคนนี้เยอะแยะ พี่เคยทำงานกับคนนี้ๆนะ ปั้นคนนี้มาดังแล้วนะ ก็เกิดความน่าเชื่อถือเบื้องต้น ก่อนที่ผมจะเข้าใจก็คือ"

"งานแรกที่ผมไป คืองาน แอคติจูสครับ เป็นงานของนิตยสารฉบับนึงครับ ผมไปกับน้องในค่ายแล้วก็ศิลปินอีกคนนึง ก็คือพาผมไปรู้จักกันคนนั้นคนนี้ สร้างความน่าเชื่อถือให้ผมรู้สึกว่า รู้สึกเป็นเกียรตินะ อยู่ดีๆได้ร่วมงานจากเด็กบ้านนอกมาไกลอะไรแบบนี้ครับ เสร็จเขาก็มาบอกว่าพี่คนจริงไหม เห็นไหมพี่รู้จักคนนั้นคนนี้"

"ส่วนงานที่ 2 เป็นงานมอบถ้วยรางวัลของ สสส. ที่ศูนย์วิจัย ก็พาผมไปร่วมงาน ก็มีศิลปินของค่ายไป ส่วนผมก็ไปเชิญถ้วย ก็เกิดความว่าเออเราก็ได้มาร่วมงานนะ มันก็ดีเหมือนกันนะ เขาก็บอกว่าให้ทำงานเป็นยังไง เราก็ทำแบบนี้ก่อน พอจุดๆนึงก็ค่อยสร้างโปรไฟล์ขึ้นมาเรื่อยๆ"

"งานที่ 3 ที่ได้ไปร่วมคืองาน ลูกทุ่งมหานครอวอร์ด คือได้ไปเดินพรมแดงครับ ในงานเลย เขาก็บอกกับเราเสมอว่าเขาเป็นคนจริง เขาเป็นนักการเมือง เราก็เกิดความน่าเชื่อถือ"

"หลังจากวันนั้น กลับมาที่ห้อง เด็กที่ค่ายก็กลับบ้านกันหมด ผมก็อยู่กับเขาที่ห้อง เขาก็พยายามคุยกับผมครับ คุยประโยคแรกผมก็ไม่สนใจ เขาก็บอกว่า ทำไมไม่สนใจล่ะ ไม่อยากรู้หรอว่าคุยอะไร ไม่อยากรู้หรอว่าทำอะไรอยู่ ผมก็บอกว่าก็เรื่องของพี่ไง ผมไม่สนใจ"

"เขาก็บอกว่าเสือต้องการอะไร เขาก็ถามว่าพูดให้พี่ฟังสิว่าเสืออยากได้อะไร ผมก็บอกว่าอะไรก็ได้ที่ได้เงินผมก็ทำ จุดประสงค์แรกคือผมมาหาเครือข่าย ขยายเครือตัวเอง แต่พอเรามีโอกาสมาแสดงตรงนี้ ให้เรามาร่วมงาน ผมก็เกิดความดีใจว่าเอออย่างน้อยก็ไปวัดไปวาได้ อย่างน้อยก็ค่อยๆสานต่อไป ผมตั้งใจแค่นี้"

"แล้วเขาก็ถามว่าเสือต้องการเป็นนักแสดงไหม พี่รู้จักกับพี่ “หนิง ปณิตา” รู้จักเป็นการส่วนตัวเลย โทรกริ๊งเดียวรู้เรื่อง แล้วพอตกเย็นเป็นคืนวันที่ โอนเงิน ประมาณ 27 มีนา เขาก็บอกว่า เสือมีละครเข้านะ ละครของพี่หนิงอ่ะ เขาก็หานักแสดงอยู่เลย แล้วเขาก็เอาคู่สัญญาตัวนึงมาให้ผมดูครับ แล้วก็คุยกับผมเหมือนสร้างบรรยากาศหลายๆ อย่าง"

"แล้วที่ผมเชื่อใจประเด็นแรกก็คือ เป็นสัญญาที่เขียนลงนามว่า นีโน่บราเดอร์ส บนหัวชัดเจน เป็นสัญญาชัดเจนที่เขียนว่าอ้างจากบุคคลที่หนึ่ง ว่าจ้างคนนี้ มีเงินจำนวนนี้ แล้วที่สำคัญด้านหลังเป็นลายเซ็นจริงๆ แบบลงปากกา ผมเลยเชื่อว่านี้เป็นของจริง เชื่อว่าเขารู้จักพี่หนิงจริงๆ แต่ประเด็นสำคัญที่มันเกิดขึ้นที่ทำให้เราต้องจ่ายตัง คือละครมัน 5 หมื่น ผมเลยถามไปว่า 5 หมื่นมาจากอะไรพี่ เขาบอก 5 หมื่นมาจากเก็บ 10 เปอร์เซ็นต์จากค่าละคร ซึ่งสัญญาฉบับนั้นเป็นของคุณ แคทลียา มารศรี”

หนิง ปณิตา: "คือจริงๆ จะบอกว่าในคู่สัญญาฉบับนั้น เป็นคู่สัญญาที่เกิดขึ้นจริง ทำจริงระหว่างบริษัท นีโน่บราเดอร์ส กับ บริษัทคู่กรณีหนิง ทำสัญญาด้วยกันที่รับเงินจากบริษัทนีโน่บราเดอร์ส เรื่องละคร มนต์รักเพลงผีบอก ซึ่งหนิงเช็คแล้วเป็นของจริงค่ะ"

เสือ: "จำนวนนั้นก็มากโข รวมๆแล้ว 5 แสนครับ ได้บทละครตอนละหมื่นห้า 10 เปอร์เซ็นต์ก็เก็บจากนั้นแหละ 5 หมื่น แต่แป๊ปนึงนะ เขาก็ทำเป็นโทรคุยกับพี่หนิง เขาทำเหมือนคุยกับพี่หนิงจริงๆเลยครับ คุยกันประมาณลดจาก 5 หมื่นเป็น 3 หมื่นได้ไหมอะไรแบบนี้ครับ ผมก็เตรียมหาเงิน เลยโทรหาแม่ ยืมคนนู้นคนนี้ให้มันได้ 3 หมื่น เสร็จแล้วเขาก็เดินมาบอกผม 3 หมื่นไม่ได้ พี่คุยกับ พี่โน่ พี่หนิงแล้ว เขาก็บอกเอา 5 หมื่นเหมือนเดิม ผมก็วิ่งไปหาเงินอีก ให้ครบจำนวน 5 หมื่น เขาก็บอกว่าถ้าโอนเข้าบัญชีเขา เขาจะโอนเข้าให้กับบุคคลที่ 3 ผมก็โอนเสร็จ ก็ดีใจได้งานทำ
หลังจากวันนั้นเขามีการประชุมกันในค่ายเพลง มีศิลปินประมาณ 2-3 ท่าน เขาก็บอกว่าอยากให้เด็กในค่ายกระตือรือร้นในการทำงาน ไม่อยากให้เบื่อหน่าย เพราะเขาทุ่มทุนไปเยอะ เขาก็ให้ผมพูดความในใจว่าทำไมถึงอยากทำงาน แล้วก็มีน้องคนนึงมาถามผมว่า พี่เสือเงิน 5 หมื่นคืออะไร ก็เงินซื้อบทละครไง ผมตอบน้องไป มันมีด้วยหรอพี่ มันไม่มีหรอกพี่ที่เข้าวงการแล้วต้องจ่ายเงิน 5 หมื่น"

หนิง ปณิตา: "ก็คือทางคุณยุ้ย รู้จักกับทางคุณนีโน่ ทางคุณยุ้ยเองได้ติดต่อมาทางเลขาคุณนีโน่ แล้วก็มาถามกับบริษัทว่ามันจริงหรือเปล่า ที่จะต้องจ่ายเงิน 5 หมื่นบาท มันก็เลยเกิดเหตุการณ์ในคลิปที่เราฟังกันสักครู่นี้ค่ะ"

“ทางหนิงเอง เราก็ตกใจ เพราะเสือจ่ายเงินไปวันที่ 27 มีนา แต่หนิงทราบเรื่องวันที่ 3 เมษา ตอนเย็นๆ ก็เลยให้คุณยุ้ยติดต่อทางคุณเสือเข้ามาในออฟฟิศ ก็คือเรามาคุยกันในออฟฟิศวันที่ 4 ซึ่งมาคุยกันแล้ว มันไม่มีแน่นอนค่ะว่า บริษัท นีโน่บราเดอร์ส จะมารับเงินใครใดๆทั้งสิ้น ฉะนั้นสิ่งที่เราจะทำก็คือไปลงบันทึกประจำวัน และแจ้งความ แต่ทางเราตอนนี้ยังไม่มีหลักฐานก็เลยอยู่ด้วยกันที่ออฟฟิศ และได้โทรคุณกับทาง คุณใหม่ ซึ่งเป็นเหตุการณ์ในคลิปที่ให้ฟังไป ซึ่งหนิงกับเพื่อนจะอยู่ด้วยกันนะคะ”

“ส่วนจะฟ้องกลับไหม ก็ต้องพิจารณากันอีกที เขามีการโทรกลับมาหรือเปล่า อันนี้หนิงไม่ทราบค่ะ เพราะตั้งแต่เป็นข่าวหนิงไม่ได้รับโทรศัพท์ใครเลย แล้วหนิงไม่ได้เมมเบอร์ส่วนตัวของเขาเอาไว้ คนโทรมาเยอะมาก เพราะหนิงยุ่งกับห้องตัด อันนี้เรื่องจริงค่ะ หลังจากนี้ ถ้าเขาโทรมาไกล่เกลี่ย ก็ให้คุยกับทางทนายค่ะ”

จากทาง คุณใหม่ ได้ให้สัมภาษณ์บอกว่าน้อง เสือ เล่าให้พี่หนิงฟังไม่หมด จริงหรือเปล่า
เสือ: "มันไม่หมดครับ ที่ไม่หมดคือผมไม่อยากจะเอ่ยนามให้พูดถึง มันจะทำให้เสียหายทั้งสองฝ่าย แต่มันมีเรื่องเงินเพิ่มอีกครับ เขาขอเพิ่ม 2 หมื่น แล้วก็จ่ายเขาไปแล้ว แล้วเขาก็โอนคืนกลับมาแล้ว ทั้งหมดเป็น 7 หมื่น แต่เขาคืนครบแล้วครับ (เงิน 2 หมื่นค่าอะไร?) พูดแล้วเหมือนตัวเองจะโง่มากเลยตอนนี้ (หัวเราะ) 2 หมื่นคือเขาบอกว่าสามารถฝากเป็นข้าราชการได้ครับ สามารถเป็นดาราได้ เป็นข้าราชการได้ ทำงานทั้ง 2 อย่างได้พร้อมกัน อย่างวันที่เขามาเจอผมวันแรก เขาบอกว่าวงการบันเทิงไม่เสียตังก็เสียตัว เป็นเหตุผลที่ผมจ่าย 5 หมื่น เพราะเขาขอผมนอนด้วย แต่ผมไม่อยากนอน เลยจ่ายไป"

อัลบั้มภาพ 8 ภาพ

อัลบั้มภาพ 8 ภาพ ของ “หนิง ปณิตา” ควง “เสือ นวพล” เปิดใจหลังโดนแจ้งหมิ่นฯ ไลฟ์พาดพิงค่ายลูกทุ่ง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook