ผู้ว่าฯสตง. ยังไม่พบทุจริตซื้อเรือดำน้ำ

'พิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส' มองเนื้อหาร่าง พ.ร.ป.ใหม่ เพิ่มหน้าที่-พร้อมปรับลดบางเรื่องเพื่อไม่ให้ล่าช้า ยัน เปิดกว้างรับฟังความเห็นทุกฝ่าย - ยังไม่พบทุจริต ตรวจสอบซื้อเรือดำน้ำ

นายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน หรือ สตง. กล่าวในการสัมมนา รับฟังความคิดเห็นร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการตรวจเงินแผ่นดิน โดยระบุว่า สาระสำคัญในร่างกฎหมายนี้ ได้เพิ่มหน้าที่ให้คณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน หรือ คตง. ต้องวินิจฉัยผลการตรวจสอบทุจริตเกี่ยวกับการใช้เงินงบประมาณแผ่นดิน แต่ได้ปรับลดหน้าที่ของ คตง.ลงในบางส่วน เพื่อไม่ให้เกิดความล่าช้า 

ทั้งนี้ ความเป็นอิสระในการทำหน้าที่ของทั้ง คตง. และผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน จะยังต้องคงไว้ในกฎหมายฉบับนี้ แต่รายละเอียดต่างๆ จะเปิดกว้างรับฟังความเห็นจากผู้ปฏิบัติงานอย่างละเอียด เพื่อให้ร่างกฎหมายนี้เป็นที่ยอมรับและสอดคล้องกับรัฐธรรมนูญ

อย่างไรก็ตาม ตามร่างกฎหมายนี้ จะตรวจสอบครอบคลุมถึงเรื่องนำเงินแผ่นดินไปหาเสียง หรือนโยบายประชานิยมด้วย

ขณะเดียวกัน เสนอให้กำหนดมาตรการในกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญให้ชัด เพื่อให้เกิดผลในทางปฏิบัติ กรณีที่รัฐดำเนินนโยบายที่ก่อให้เกิดผลเสียหรือก่อให้เกิดความเสียหายต่อประเทศชาติ

นายพิศิษฐ์ กล่าวถึงการตรวจสอบการจัดซื้อเรือดำน้ำของกองทัพเรือว่า เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้น แต่เป็นการคิดมานานแล้ว จนได้ข้อสรุปว่าควรซื้อจากประเทศจีน และจากการตรวจสอบขณะนี้ ยังไม่พบข้อสังเกตที่มีความผิดปกติ โดยเป็นไปตามระเบียบที่สำนักงบประมาณชี้แจง อีกทั้งเป็นการใช้งบของกองทัพเรือ ที่จ่ายเงินผูกพันแบบทยอยจ่ายปีละไม่เกิน 2,000 ล้านบาท และไม่ได้กระทบกับหน่วยงานหรือการพัฒนาด้านอื่นๆ ตลอดจนการจัดซื้อมีการรับประกันทั้งอะไหล่และยุทโธปกรณ์

ส่วนกรณีที่ นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ร้องต่อผู้ตรวจการแผ่นดินว่า อาจขัดรัฐธรรมนูญในเรื่องการทำสนธิสัญญา นายพิศิษฐ์ กล่าวว่า เป็นประเด็นที่นำมาพิจารณาด้วย ซึ่งต้องพิจารณาเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ และยังไม่ฟันธงว่าขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ เพราะที่ผ่านมาการซื้อขายในแบบรัฐต่อรัฐ ก็ไม่ได้ดำเนินการตามขั้นตอนเหมือนกับการทำสนธิสัญญา