หนุ่มป่วยตัวหดเท่าเด็ก 2 ขวบ ซ้ำเนื้องอกบังหน้า มีชีวิตสุดทรมาน

หนุ่มป่วยตัวหดเท่าเด็ก 2 ขวบ ซ้ำเนื้องอกบังหน้า มีชีวิตสุดทรมาน

หนุ่มป่วยตัวหดเท่าเด็ก 2 ขวบ ซ้ำเนื้องอกบังหน้า มีชีวิตสุดทรมาน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ชีวิตเลือกไม่ได้ หนุ่มอายุ 18 นอนป่วยเป็นโรคกระดูกพรุน ตัวหดลงเท่าเด็ก 2 ขวบ ช่วยเหลือตัวไม่ได้ หนำซ้ำยังมีก้อนเนื้องอกบนใบหน้า ทำให้ตามองไม่ค่อยเห็น-หายใจลำบาก ทรมานเป็นแรมปี วอนขอความช่วยเหลือ

(11 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านบ้านม่วงเหนือ หมู่ 4 ต.ป่าชัน อ.พลับพลาชัย จ.บุรีรัมย์ ว่ามีชายหนุ่มป่วยด้วยโรคกระดูกพรุน ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ และยังไม่มีหน่วยงานใดยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือ จึงได้เดินทางไปตรวจสอบตามที่ได้รับแจ้ง

เมื่อไปถึงบ้านเลขที่ 49 หมู่ 4 บ้านม่วงเหนือ ตำบลป่าชัน ซึ่งเป็นบ้านไม้ชั้นเดียวและมีเพิงเล็กๆ พบ นายวินาจ ชำนิจ อายุ 56 ปี ผู้เป็นพ่อคอยเฝ้าดูแล นายณัฐพล ชำนิจ หรือ น้องจู อายุ 18 ปี ลูกชายที่ป่วยด้วยโรคกระดูกพรุนอยู่ไม่ห่าง ทั้งคอยเช็ดอุจจาระ-ปัสสาวะ หาข้าวหาน้ำและยาให้กิน น้องจู ป่วยเป็นโรคกระดูกพรุนมานานกว่า 5 ปีแล้ว ซึ่งระยะแรกก็ยังพอช่วยเหลือตัวเองลุกเดินไปมาได้ แต่สภาพร่างกายก็จะไม่ปกติเหมือนคนทั่วไปเพราะกระดูกจะเปราะบาง

กระทั่งเมื่อปีที่ผ่านมา น้องจู มีอาการทรุดหนักร่างกายหดตัวปัจจุบันเหลือเท่ากับเด็ก 2 ขวบ อีกทั้งกระดูกยังมีสภาพบิดงอจนไม่สามารถเดินไปไหนมาไหนหรือขยับตัวได้ ต้องนอนอยู่บนที่นอนมานานกว่า 1 ปีแล้ว ซ้ำร้ายยังมีก้อนเนื้องอกออกมาบริเวณใบหน้าโดยไม่ทราบสาเหตุและมีขนาดโตขึ้นเรื่อยๆ จนปิดตาข้างซ้ายทำให้มองไม่เห็น และปิดจมูกจนหายใจไม่ได้ต้องหายใจทางปากแทน ต้องใช้ชีวิตอยู่อย่างทุกข์ทรมาน

ที่ผ่านมายังไม่มีหน่วยงานใดเข้ามาช่วยเหลือ มีเพียงเจ้าหน้าที่จากทางโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลเข้ามาตรวจสุขภาพและให้ยาแก้ไอ แก้ปวดให้รับประทานและยานวดใช้สำหรับนวดเวลาที่ปวดและนำเครื่องอ๊อกซิเจนมาไว้ให้สำหรับยามฉุกเฉินเท่านั้น

น้องจู บอกว่า มีอาการป่วยด้วยโรคกระดูกพรุนมากว่า 5 ปีแล้ว แต่ที่ผ่านมายังสามารถช่วยเหลือตัวเองได้ไปเรียนหนังสือได้ตามปกติ กระทั่งจบชั้น ม.3 ก็เริ่มมีอาการผิดปกติกระดูกเปราะหักง่ายต้องทำอะไรด้วยความระมัดระวัง กระทั่งร่างกายเริ่มหดตัวกระดูกบิดงอผิดรูปจนไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้

ทั้งยังมีเนื้องอกออกมาที่บริเวณใบหน้าจนปิดตาและจมูก ต้องใช้ชีวิตอยู่ด้วยความทรมาน แม้แต่จะขยับตัวก็ยังทำไม่ได้ จึงอยากให้มีผู้ใจบุญพาไปรักษาให้กลับมาใช้ชีวิตได้เป็นปกติอีกครั้ง

ทางด้านพ่อของน้องจู เปิดเผยว่า ตนแยกทางกับภรรยาหลายปีแล้ว มีลูกด้วยกัน 2 คน คนโตอายุ 25 ปี อาศัยอยู่กับตนเองมีอาชีพรับจ้างก่อสร้าง ส่วนคนเล็กคือ น้องจู ก่อนหน้านี้อาศัยอยู่กับแม่ช่วงแรกที่ป่วยเป็นโรคกระดูกพรุน แม่เขาก็พาไปรักษาที่โรงพยาบาลบุรีรัมย์แต่ก็ไม่ดีขึ้น

กระทั่งมีอาการทรุดหนักจนไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ จึงเอากลับมาให้ตนเองเลี้ยงแต่ด้วยที่ฐานะยากจน รับจ้างก่อสร้างวันละ 300-400 บาท แต่ช่วงไหนไม่มีงานก็ไม่มีรายได้ จึงไม่ได้พาลูกไปรักษาเพียงดูแลตามสภาพ ปัจจุบันสภาพร่างกายของลูกชายหดตัวลงเหลือเท่ากับเด็ก 2 ขวบ

ทั้งกระดูกยังบิดตัวคดงอช่วยเหลือตัวเองไม่ได้และมีเนื้องอกบริเวณใบหน้าจนตาข้างซ้ายมองไม่เห็นและต้องหายใจทางปากแทน แต่ยังพูดสื่อสารรู้เรื่องทุกอย่าง ทุกวันนี้ตนต้องคอยดูแลลูกไม่ห่าง เพราะต้องคอยเช็ดอุจจาระ ปัสสาวะหาข้าวหายาให้กิน และเวลาที่ลูกปวดก็จะคอยนวดให้จึงไม่ได้ไปทำงานรับจ้างก่อสร้างมาเป็นเวลาร่วมปีแล้ว เพราะต้องคอยดูแลลูก เมื่อเห็นสภาพลูกก็แอบร้องไห้เพราะสงสารลูกมาก

ปัจจุบันก็ไม่มีรายได้อะไรมีเพียงเงินรับจ้างก่อสร้างจากลูกชายคนโตที่ได้บ้างไม่ได้บ้าง และเพื่อนบ้านมีเมตตาสงสารคอยหยิบยื่นความช่วยเหลือให้บ้างตามกำลังที่มี จึงอยากวิงวอนผู้ใจบุญช่วยเหลือพาลูกไปรักษาเพื่อให้ลูกชายสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างปกติ หรือสามารถช่วยเหลือตัวเองได้

หากผู้ใจบุญหรือผู้มีจิตศรัทธาต้องการช่วยเหลือสามารถติดต่อได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 098-9027193 หรือบริจาคได้ที่หมายเลขบัญชี 959-235901-6 ชื่อบัญชี นายวินาท ชำนิจ บัญชีออมทรัพย์ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาปราสาท จังหวัดสุรินทร์

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook