เบนซ์รายงานตัวศาล-ปปส.ชี้หลักฐานยังอ่อนเอาผิดแพท

เบนซ์รายงานตัวศาล-ปปส.ชี้หลักฐานยังอ่อนเอาผิดแพท

เบนซ์รายงานตัวศาล-ปปส.ชี้หลักฐานยังอ่อนเอาผิดแพท
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

'เบนซ์ เรซซิ่ง' เข้ารายงานตัวต่อศาลฝากขังนัดสุดท้าย ยืนยันไม่คิดหลบหนี ศาลนัดอีก 29 พ.ค.นี้ - ปปส. ชี้หลักฐานยังไม่พอที่จะเอาผิด 'แพท ณปภา' ข้อหาสนับสนุนช่วยเหลือ

นายอัครกิตติ์ วรโรจน์เจริญเดช หรือ เบนซ์ เรซซิ่ง นักแข่งรถชื่อดัง อายุ 30 ปี ผู้ต้องหา คดีร่วมกันสมคบฟอกเงินกับ นายณัฐพล นาคคำ หรือ บอย เครือข่ายนักค้ายาเสพติดไซซะนะ พร้อมด้วย นายสิทธิโชค ตรีเนตร ทนายความ เดินทางมายังศาลอาญารัชดา เพื่อรายงานตัวต่อศาลครั้งที่ 7 ซึ่งเป็นผัดสุดท้าย ตามเงื่อนไขการปล่อยชั่วคราว 

โดยวันนี้ นายอัครกิตติ์ เดินทางมาด้วยสีหน้าเรียบเฉยไม่ได้ให้สัมภาษณ์ใดใดต่อสื่อมวลชน และภายหลังรายงานตัวแล้วเสร็จเพียงไม่ถึง 5 นาที ได้ลงมาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน โดย นายสิทธิโชค ทนายความ ระบุว่า วันนี้เดินทางมารายงานตัว เนื่องจากครบฝากขังครั้งที่ 7 ซึ่งศาลได้นัดให้มารายงานตัวอีกครั้งในวันที่ 29 พฤษภาคมนี้ ส่วนกรณีที่พนักงานสอบสวน กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ได้แจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมนั้น เดิมทีพนักงานสอบสวนแจ้งให้ไปพบเมื่อวันที่ 15 พ.ค. 2560 ซึ่งเป็นวันเดียวกับวันที่ น.ส.ณปภา ตันตระกูล หรือ แพท ดารานักแสดงชื่อดัง (ภรรยา) เข้าไปพบพนักงานสอบสวนเช่นกัน จึงได้ขอเลื่อนวันเข้าพบ เป็นวันที่ 16 พ.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งได้เข้าพบตามนัด

ขณะที่ ข้อเท็จจริงและพฤติการณ์ที่นำมาสู่ข้อกล่าวหาตาม พ.ร.บ.มาตรการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดก็เป็นข้อเท็จจริงเดียวกันกับข้อเท็จจริงที่แจ้งข้อกล่าวหาสมคบกันฟอกเงิน ซึ่งข้อหานี้ มีอัตราโทษสูงกว่า ข้อหาฟอกเงิน และหลังจากได้รับหมายเรียกแล้ว นายอัครกิตติ์ ก็ได้เข้ารายงานตัว และยืนยันว่าไม่มีเจตนาที่หลบหนี

นอกจากนี้ ทนายยังกล่าวถึงขั้นตอนการดำเนินคดีต่อไปจากนี้ว่า พนักงานสอบสวนจะต้องมายื่นคำร้องต่อศาลแจ้งให้ทราบว่า ในระยะเวลาการฝากขังครั้งที่ 6 มีการแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติม ดังนั้น พนักงานสอบสวนและอัยการก็จะมีระยะเวลาในการพิจารณาสำนวนคดี 12 วันให้ทันภายใน 29 พ.ค.นี้

ขณะเดียวกัน ยืนยันว่า จะไม่ยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมต่อพนักงานอัยการเนื่องจากตั้งแต่ครั้งแรกที่พบพนักงานสอบสวน ได้ยื่นเอกสารที่มีทั้งหมดไปแล้ว พร้อมกับพูดข้อเท็จจริง ดังนั้นไม่ว่าจะมีการแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติม ก็จะไม่ยื่นเอกสารใดเพิ่มเติมอีก ส่วนข้อต่อสู้ทางคดีจะแตกต่างกันหรือไม่ต้องดูพยานหลักฐาน เนื่องจาก นายอัครกิตติ์ ยืนยันมาโดยตลอดว่าไม่มีส่วนรู้เห็นเรื่องยาเสพติด

อย่างไรก็ตาม ก่อนที่ นายอัครกิตติ์ จะถูกแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติม พนักงานสอบสวนได้เรียกสอบพยานบุคคลต่างๆ ทั้ง ญาติ ลูกน้อง และบุคคลที่มีความสัมพันธ์ทางธุรกิจ กว่า 10 ปาก มาสอบสวนโดยไม่เคยไปยุ่งเกี่ยวกับการเรียกบุคคลต่างๆ เข้าพบและพนักงานสอบสวนก็ไม่เคยแจ้งว่าได้เข้าไปยุ่งวุ่นวายกับพยานหลักฐานหรือพยานบุคคลต่างๆ ที่จะก่อให้เกิดอุปสรรคต่อการสอบสวน ดังนั้นแสดงให้เห็นว่า เจตนาของนายอัครกิตติ์ว่า แม้จะถูกแจ้งข้อหาในอัตราโทษสูงแต่ นายอัครกิตติ์ ก็พร้อมที่จะเดินเข้าสู่กระบวนการรับทราบข้อกล่าวหาทันทีโดยไม่มีการหลบเลี่ยงหรือหลีกหนี

"เราเชื่อมั่นในศาล ในกระบวนการยุติธรรม ว่าเป็นที่พึ่งที่ดีที่สุดของเรา ซึ่งเราจะใช้พยานหลักฐานไปต่อสู้ในชั้นศาล โดยผมยังไม่ขอระบุถึงรายละเอียดเพราะเป็นแนวทางในการต่อสู้คดี"

นอกจากนี้ ทนายความ ยังได้กล่าวถึงเรื่องหลักประกัน หากมีการยื่นฟ้องคดี ว่า เป็นดุลยพินิจของศาล ซึ่งหากศาลจะมีข้อกำหนดใดเพิ่มเติมก็พร้อมจะปฏิบัติตามทุกอย่าง ส่วนมูลค่าหลักทรัพย์โดยหลักก็เป็นไปได้ที่อาจจะมีการเพิ่มขึ้นไปจากเดิม แต่ทุกอย่างก็ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศาล

ส่วนด้าน นายอัครกิตติ์ หรือเบนซ์ เรซซิ่ง กล่าวเพียงสั้นๆ ว่า จริงๆ แล้วไม่ได้คิดจะหลบหนี และที่ผ่านมาก็ให้ความร่วมมือที่ดีมาโดยตลอด จากนี้จะรอเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมอย่างเต็มที่ เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานต่อสู้คดีในชั้นศาล


ปปส.ชี้หลักฐานยังไม่พอเอาผิดแพทข้อหาสนับสนุน

นายศิรินทร์ยา สิทธิชัย เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด หรือ ป.ป.ส. เปิดเผย สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ถึงความคืบหน้าการดำเนินคดี กับ นายอัครกิตติ์ วรโรจน์เจริญเดช หรือ เบนซ์ เรซซิ่ง และ น.ส.ณปภา ตันตระกูล หรือ แพท ณปภา ผู้ต้องหาคดีร่วมกันฟอกเงินและสมคบกันฟอกเงินเครือข่ายยาเสพติดว่าในส่วนของทรัพย์สินที่อายัดไว้มีจำนวน 22 รายการ เป็นของ เบนซ์ เรซซิ่ง 4 ราย และเงินสดที่ เบนซ์ โอนให้ แพท ณปภา อีก 1 รายการ โดยสำนวนคดีในส่วนของทรัพย์สินคาดว่าจะสรุปได้ภายใน 2-3 เดือนนี้ ส่วนรถลัมโบกินี เจ้าหน้าที่จะนำขายทอดตลาดอีกครั้ง เนื่องจากต้องนำเงินส่วนหนึ่งไปให้กับเจ้าของที่ถือกรรมสิทธิ์ โดยมั่นใจว่าในส่วนของสำนวนที่เกี่ยวกับทรัพย์สินทางอัยการจะพิจารณาสั่งฟ้องทั้งหมด 

เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวด้วยว่า สำหรับ ข้อหา "สนับสนุนหรือช่วยเหลือและสมคบกันกระทำความผิด" ตาม พ.ร.บ.มาตราการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดนั้น ทางพนักงานสอบสวน ปส.ได้เสนอมาให้ ป.ป.ส.พิจารณาทั้ง 2 คน คือ เบนซ์ เรซซิ่ง และ แพท ณปภา แต่ ป.ป.ส.ได้อนุมัติให้แจ้งข้อหาเพิ่มกับ เบนซ์ เรซซิ่ง เพียงคนเดียวก่อน เพราะมีหลักฐานที่เชื่อได้ว่ามีส่วนในการกระทำผิดจริง ส่วน แพท ณปภา หลักฐานยังไม่เพียงพอ โดยมีเพียงเรื่องการโอนเงินจาก เบนซ์ ซึ่งเป็นสามี จำนวน 1.9 ล้านบาท ซึ่งก็ต้องให้ความเป็นธรรมเพราะ แพท ณปภา รับโอนมาในฐานะทีเป็นภรรยาและยินดีให้ทาง ป.ป.ส. ยึดไว้ แต่อย่างไรก็ตาม หากพนักงานสอบสวน ปส.มีพยานหลักฐานเพิ่มเติมก็สามารถเสนอให้ ป.ป.ส.พิจารณาได้อีก 

เลขาธิการ ป.ป.ส.กล่าวเพิ่มเติมว่าขณะนี้ พนักงานสอบสวน ปส. อยู่ระหว่างการขยายผลไปยังบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้อง หากพยานหลักฐานสาวไปถึงบุคคลก็ต้องมีการดำเนินการเอาผิดตามกฏหมาย


อัยการ ระบุ ปส.ฝากขังเบนซ์ ข้อหา พรบ.มาตรการ ไม่ต้องนับหนึ่งใหม่ 

ร.ท.สมนึก เสียงก้อง โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวถึงขั้นตอนการฝากขัง หลังจากพนักงานสอบสวน กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด หรือ ปส. แจ้งข้อหาเพิ่มเติม นายอัครกิตติ์ วรโรจน์เจริญเดช หรือ เบนซ์ เรซซิ่ง นักแข่งรถชื่อดัง อายุ 30 ปี ผู้ต้องหาคดีร่วมสมคบกันฟอกเงินกับ นายณัฐพล หรือ บอย นาคคำ เครือข่ายนักค้ายาเสพติดไซซะนะ ว่า เดิมผู้ต้องหาถูกกล่าวหาความผิดฟอกเงิน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการฝากขังแล้ว ซึ่งการแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมตาม พ.ร.บ.มาตรการ การป้องกันและปราบปรามยาเสพติดฯ นั้น สืบเนื่องมาจากพฤติการณ์การสมคบฟอกเงิน ดังนั้นพนักงานสอบสวนจึงไม่ต้องมีการยื่นคำร้องฝากขังนับหนึ่งใหม่ในข้อกล่าวหาตาม พรบ.มาตรการการปราบปรามผู้กระผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ.2534 แต่การฝากขังจะต่อเนื่องกันไปกับข้อกล่าวหาฟอกเงินที่ยังเหลือเวลาอีก 12 วัน

นอกจากนี้ โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวว่า อัยการจะมีเวลาเร่งรัดนิดหนึ่ง แต่จะยึดหลักพิจารณาสำนวนพยานหลักฐานให้ละเอียดรอบคอบถี่ถ้วน โดยอัยการและตำรวจจะร่วมกันทำให้ดีที่สุด และยังทราบจากอธิบดีอัยการสำนักงานคดียาเสพติดว่า การพิจารณาสำนวนจะมีคณะทำงานดูแลโดยคดียาเสพติดที่เกี่ยวเนื่องกับเครือข่ายของนายไซซะนะ มีการจัดตั้งคณะทำงานอยู่แล้ว ส่วนสำนวนคดีของนายอัครกิตติ์ ขณะนี้ยังไม่ถึงพนักงานอัยการแต่อย่างใด


แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook