หัวหินสั่งยุติมูลนิธิดัง หลังพ่อบ้านเอี่ยวคดีอนาจารเด็กในสาขา

หัวหินสั่งยุติมูลนิธิดัง หลังพ่อบ้านเอี่ยวคดีอนาจารเด็กในสาขา

หัวหินสั่งยุติมูลนิธิดัง หลังพ่อบ้านเอี่ยวคดีอนาจารเด็กในสาขา
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

คณะกรรมการจังหวัดฯ เข้าตรวจสอบมูลนิธิดังสาขาหัวหินหลังพ่อบ้านมูลนิธิตกเป็นผู้ต้องหาคดีอนาจารเด็กหญิง พร้อมเสนอผู้ว่าฯขอคุ้มครองเด็กชั่วคราว และให้มูลนิธิยุติบทบาทระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริง

(20 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยงานได้บูรณาการลงพื้นที่ตรวจสอบ มูลนิธิชื่อดัง สาขาหัวหิน หลังเกิดกรณีพ่อบ้านหรือคนดูแลมูลนิธิ ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีอนาจารเด็กหญิง อายุ 12-13 ปี ตามที่เป็นข่าวไปแล้วนั้น

นางฉวีวรรณ สัญญา พัฒนาความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พร้อมด้วย นายรุจน์ประทีป ธรรมรพีภัทร์ นายอำเภอหัวหิน,นายไพศาล แต้มช่วย หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ,พ.อ.กรกานต์ นาเวชวนิชกุล รอง ผอ.กอ.รมน.จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารในพื้นที่ เดินทางลงพื้นที่ตรวจสอบการดำเนินงานของมูลนิธิชื่อดัง สาขาหัวหิน ที่หมู่บ้านเขาเต่า ต.หนองแก อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์

โดยอาศัยอำนาจตามพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ.2560 ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้มีหนังสือสั่งการให้จัดตั้งคณะกรรมจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบ หลังเกิดเหตุการณ์ผู้ปกครองเด็กเข้าแจ้งความผู้ดูแลเด็กกระทำอนาจารเด็กหญิงที่อยู่ในการดูแลของมูลนิธิและนอกการดูแล เบื้องต้น 2 ราย ซึ่งเหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นภายในมูลนิธิดังกล่าว

ทางเจ้าหน้าที่พัฒนาความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์และ นักสังคมสงเคราะห์เทศบาลเมืองหัวหิน ได้เข้าไปพูดคุยกับเด็กหญิงที่อยู่ในความดูแลของมูลนิธิฯ ทั้งหมด โดยได้สอบถามถึงประวัติเบื้องต้น สภาพความเป็นอยู่ กิจวัตรประจำวัน รวมถึงสอบถามถึงพฤติกรรมการดูแลของผู้ดูแล ทุกคน และพ่อบ้านหรือผู้ดูแลมูลนิธิ ที่ตกเป็นผู้ต้องหา ภายหลังเกิดเหตุการณ์ตามที่เป็นข่าวทางสื่อต่างๆ ขณะนี้พ่อบ้านและภรรยา ได้ย้ายออกจากมูลนิธิดังกล่าวแล้ว

นายรุจน์ประทีป ธรรมรพีภัทร์ นายอำเภอหัวหิน กล่าวว่า นอกจากการพูดคุยกับเด็กแล้ว ทางคณะทำงานได้เข้าพูดคุยกับซิสเตอร์เอสเธอร์ ถึงการตรวจสอบหลักฐานเกี่ยวกับการจัดมูลนิธิฯ ซึ่งทราบว่ามีการจดทะเบียนถูกต้องที่มูลนิธิสำนักงานใหญ่ที่กรุงเทพ แต่ในส่วนของสาขาที่อำเภอหัวหิน เบื้องต้นพบว่ายังไม่มีการจดทะเบียน ซึ่งได้มีการแนะนำให้รีบดำเนินการให้ถูกต้อง

ทางคณะกรรมการมีความเป็นห่วงในสวัสดิภาพและความปลอดภัยของเด็ก จึงจะเสนอผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ดำเนินการตามพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก โดยการสั่งคุ้มครองสวัสดิภาพเด็กเป็นการชั่วคราว นำเด็กทั้งหมดไปอยู่ในความดูแลของบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์เป็นการชั่วคราว เพื่อรอตรวจสอบมูลนิธิแห่งนี้ให้ชัดเจนถูกต้องก่อน ในระหว่างนี้หากมีการขอจดทะเบียนเป็นมูลนิธิถูกต้อง และเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบอีกครั้ง หากดำเนินการถูกต้อง ก็สามารถนำเด็กๆ กลับมาดูแลได้ตามเดิมได้

อย่างไรก็ตาม ทางคณะกรรมการฯจะพิจารณาในส่วนประกอบอื่นๆ ด้วย ทั้งการใช้อาคารว่าผิดประเภทหรือไม่ เพราะมีลักษณะของการจัดแบ่งห้องพักลักษณะคล้ายโรงแรม สถานที่หรือห้องพักเหมาะสมกับความเป็นอยู่ของเด็กหรือไม่ ซึ่งในระหว่างการตรวจสอบของคณกรรมการจังหวัดฯ ก็จะต้องยุติบทบาทความเป็นมูลนิธิไปก่อนเป็นการชั่วคราว

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ส่วนความคืบหน้าด้านการดำเนินคดีกับพ่อบ้านมูลนิธินั้น เมื่อวานนี้ พนักงานสอบสวน สภ.หัวหิน ได้นำตัวผู้ต้องหา ฝากขังต่อศาลจังหวัดหัวหิน โดยภรรยาได้ยื่นขอประกันตัวในชั้นศาล เป็นเงินสด 120,000 บาท โดยศาลได้พิจารณาอนุญาตให้ประกันตัวได้ โดยนัดรายงานตัวนัดแรก วันที่ 31 พฤษภาคมนี้

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook