น้ำท่วมอ.คีรีมาศสูง 1ม.,เลยจม11อ.ตาย1-มท.สั่งปภ.ช่วย

น้ำท่วมอ.คีรีมาศสูง 1ม.,เลยจม11อ.ตาย1-มท.สั่งปภ.ช่วย

น้ำท่วมอ.คีรีมาศสูง 1ม.,เลยจม11อ.ตาย1-มท.สั่งปภ.ช่วย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

จ.สุโขทัย น้ำป่าจากพรานกระต่ายไหลเข้าท่วม 10 ตำบลของ อ.คีรีมาศ สูงกว่า 1 เมตร บ้านกว่า 700 หลังคา จมบาดาล ขณะที่จ.เลยอ่วม! ท่วมแล้ว 11 อำเภอ พบตายแล้ว 1 ราย ด้าน มท.1 สั่งปภ.ช่วยน้ำท่วมหลายพื้นที่ เร่งระบายเก็บใช้ยามขาด

น้ำป่าสะสม จาก อ.พรานกระต่าย จ.กำแพงเพชร และน้ำป่าจากเทือกเขาหลวงสุโขทัย ได้ไหลหลากลงมาสมทบพื้นที่ อ.คีรีมาศ จ.สุโขทัย ล่าสุดนอกจากบ้านเรือนหลายหมู่บ้านถูกน้ำท่วมขังสูงกว่า 1 เมตรแล้ว ถนนสายหลักเส้น 101 สุโขทัย-คีรีมาศ บริเวณหมู่ 3 ต.ทุ่งหลวง น้ำท่วมผิวจราจร สูงประมาณ 40 ซม. เป็นระยะทางยาวช่วงละประมาณกว่า 2.5 กิโลเมตร รถเล็กสัญจรลำบาก ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยงานท้องถิ่น จึงได้นำป้ายเตือนมาติดตั้ง พร้อมจัดกำลังเฝ้าดูแลความปลอดภัย และล่าสุดน้ำป่าได้ไหลหลากเข้าสู่พื้นที่ ต.บ้านป้อม ทำให้บ้านเรือนประชาชนในหมู่ที่ 1-5 ของ ต.บ้านป้อม อ.คีรีมาศ จ.สุโขทัย บางพื้นที่มีน้ำท่วมสูงกว่า 1 เมตร ราษฎรได้รับความเดือดร้อนอย่างหนักกว่า 700 หลังคาเรือน ถนนหลายสายในหมู่บ้านมีน้ำท่วมสูงจนต้องใช้เรือแทนรถในการสัญจรไปมา 

อย่างไรก็ตาม นายกองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านป้อมและเจ้าหน้าที่ผู้นำท้องถิ่นได้ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายเพื่อให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยเป็นการเร่งด่วนแล้ว สำหรับมวลน้ำนี้จะไหลลงสู่ตำบลปากพระ อ.เมืองสุโขทัย และไหลลงสู่แม่น้ำยม ทั้งนี้ อปท. ทุกแห่งในเขตอำเภอคีรีมาศได้ตั้งศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยแล้ว ซึ่งอำเภอคีรีมาศ มีราษฎรได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมในครั้งนี้จำนวน 10 ตำบล 5,536 ครัวเรือน


มท.1สั่งปภ.ช่วยน้ำท่วมเร่งระบายเก็บใช้ยามขาด-จ.เลยอ่วม

พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ระยะนี้มีฝนตกหนักต่อเนื่อง ส่งผลให้เกิดสถานการณ์น้ำท่วมในหลายพื้นที่ รัฐบาลและคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ห่วงใยประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ภัย กระทรวงมหาดไทย จึงได้นำนโยบายการแก้ไขปัญหาของนายกรัฐมนตรีไปสู่การปฏิบัติในระดับพื้นที่ โดยสั่งการให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยประสานหน่วยทหาร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ไขปัญหาและให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างเต็มที่ รวมถึงให้จังหวัด และกรุงเทพมหานคร จัดตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ระดับจังหวัดอำเภอ และศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินในระดับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่ออำนวยการและประสานสั่งการช่วยเหลือผู้ประสบภัย โดยได้กำหนดแนวทางการแก้ไขปัญหาภัยพิบัติด้านน้ำทั้งระบบใน 3 ด้านหลัก ประกอบด้วย กรณีมีน้ำท่วมขัง ให้เร่งระบายน้ำอย่างรวดเร็ว,จัดเตรียมแผนการกักเก็บน้ำ เพื่อสำรองน้ำไว้ใช้ยามขาดแคลน และวางแผนแก้ไขปัญหาและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนอย่างทั่วถึงและเป็นธรรม 

ทั้งนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้สั่งกำชับให้ ปภ. ประสานการเตรียมความพร้อมด้านเครื่องจักรกลร่วมกับส่วนราชการและองค์กรมูลนิธิที่เกี่ยวข้อง รวมถึงดำเนินการสำรวจ จัดทำทะเบียนเครื่องจักรกลของภาคเอกชน กรณีสถานการณ์ภัยรุนแรง จะได้ประสานสั่งการ สั่งใช้สนับสนุนการแก้ไขปัญหาและช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้อย่างทันท่วงที ทั้งนี้ ให้จังหวัดร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นสำรวจความเสียหายและเร่งให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยตามระเบียบกระทรวงการคลังต่อไป


เลยท่วมแล้ว11จาก14อ.กระทบกว่า2,000ครัวเรือน

นายคุมพล บรรเทาทุกข์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย เปิดเผยกับสำนักข่าวไอ.เอ็น.เอ็น. ถึงเหตุน้ำท่วมว่า วันนี้ (20พ.ค.) สถานการณ์น้ำในแม่น้ำเลยเริ่มทรงตัว มีแนวโน้มลดลงตามระดับ และการระบายน้ำเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ คาดว่าประมาณ 3 วัน น่าจะคลี่คลาย ใกล้สู่สภาวะปกติ แต่เนื่องจากปริมาณฝนที่ตกในพื้นที่ 100-200 มิลลิเมตร ทำให้หลายพื้นที่ได้รับผลกระทบ แต่ที่ต้องจับตาเป็นพิเศษมี 3 อำเภอ คือ ด่านซ้าย เมืองเลย และ เชียงคาน 

ทั้งนี้ จากข้อมูล ล่าสุดได้รับผลกระทบ 11 อำเภอ จาก 14 อำเภอ ประกอบด้วย อำเภอเมืองเลย วังสะพุง นาด้วง เชียงคาน ปากชม ด่านซ้าย นาแห้ว ท่าลี่ ภูกระดึง ภูหลวง ผาขาว ซึ่งเป็นอำเภอที่อยู่ที่ติดกับลำน้ำสายหลัก และในขณะนี้ ทั้งจังหวัดมีประชาชนได้ผลกระทบ 287 ชุมชน ประมาณกว่า 2,000 ครัวเรือน ส่วนผลกระทบในเรื่องพื้นที่เกษตร และปศุสัตว์ ต้องรอน้ำลดถึงจะเข้าไปสำรวจความเสียหายได้ 

อย่างไรก็ตาม จะมีการประกาศพื้นที่ภัยพิบัติ ในเร็วๆนี้เพื่อให้มีการสำรวจตรวจสอบว่ามีพื้นทื่ตรงไหนได้รับผลกระทบบ้าง ส่วนในการดูแลประชาชนในเบื้องต้น ทางตนเองรวมทั้งฝ่ายปกครอง ทหาร ตำรวจ และทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องระดมพลลงพื้นที่เยี่ยมเยียนให้การช่วยเหลือ ทั้งในเรื่องการขนย้ายสิ่งของให้พ้นจากระดับน้ำ การนำกระสอบทรายมากั้นพื้นที่บางส่วนเพื่อสูบน้ำออก รวมไปถึงจัดทำข้าวกล่อง แจกจ่ายให้ประชาชน จัดเรือให้ใช้สัญจรชั่วคราวในช่วงเวลานี้


น้ำท่วมเมืองเลยสังเวยแล้ว1ศพทหารยศสิบเอก

พ.ต.ต.เรืองยศ  ภูดานุ สว.(สอบสวน) สภ.เมืองเลย จ.เลย ได้รับแจ้งจากนายอัศวิน หินเธาร์ ปลัดอำเภอฝ่ายปกครอง อ.เมืองเลย ว่ามีคนจมน้ำที่บ้านท่าบุ่ง ต.ศรีสองรัก อ.เมืองเลย เมื่อรับแจ้งประสานไปยังแพทย์จาก รพ.เลย  กู้ภัยสว่างคีรีธรรม จ.เลย หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไปยังที่เกิดเหตุพบผู้เสียชีวิตชื่อ ส.อ.บุญพิทักษ์ ประทุมรัตน์ อายุ 24 ปี สังกัดวงดุรุยางค์มทบ.28 ค่ายศรีสองรัก จ.เลย

จากการสอบสวน นายสุทธิเกียรติ สิงห์อุดม อายุ 24 ปี เล่าว่า ตนเองพร้อมด้วย สอ.บุญพิทักษ์ ประทุมรัตน์ ผู้ตาย ไปเอารถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ที่จมน้ำอยู่ที่ฟาร์มเลี้ยงกุ้งตั้งแต่เมื่อวาน ขณะเดินไปที่บ่อกุ้งติดแม่น้ำเลย น้ำไหลแรงมากจนถูกกระแสน้ำพัดพาร่างจมหายไปต่อหน้าต่อตา ส่วนตนเองรอดมาได้  จนกระทั่ง จนท.กู้ภัยมาช่วยจนสามารถงมหาร่าง ส.อ.บุญพิทักษ์จมใต้น้ำในสภาพที่เสียชีวิตแล้ว นำร่างส่ง รพ.เมืองเลย ประสานติดตามหาญาติต่อไป


พิจิตรอพยพของขึ้นสูงหลังน้ำยมน่านจ่อล้นตลิ่ง

นายธีรพงศ์ เพ็ชรพงศ์ นายกอบต.รังนก อ.สามง่าม จ.พิจิตร ซึ่งมีที่ตั้งของหมู่บ้านอยู่ริมแม่น้ำยมและเป็นพื้นที่ลุ่มที่มักจะถูกน้ำท่วมขังก่อนตำบลอื่นๆในจังหวัดพิจิตร เปิดเผยว่า จากการที่มีฝนตกหนักในภาคเหนือและในพื้นที่จังหวัดพิจิตรในช่วง 3-4 วันที่ผ่านมา ส่งผลให้ขณะนี้มีน้ำป่าไหลหลากมาจากทางจังหวัดกำแพงเพชร ไหลเข้าสู่ตำบลรังนก ส่งผลให้นาข้าวกว่า 200 ไร่ในหมู่ 7 บ้านเนินยุ้ง ต้องถูกน้ำท่วม ชาวบ้านช่วยกันเปิดประตูระบายน้ำ 3 บาน เพื่อเร่งระบายน้ำลงสู่แม่น้ำยม ซึ่งก็พบว่าระดับน้ำในแม่น้ำยมมีระดับสูงซึ่งระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่งเพียงแค่ 3-4 เมตร  ซึ่งตอนนี้สั่งการให้ชาวบ้านที่มีบ้านเรือนอยู่ในที่ลุ่มต่ำเร่งเก็บสิ่งของเครื่องใช้ให้ไปอยู่ในที่สูง เนื่องจากคาดการณ์ว่าจะมีมวลน้ำจำนวนมากจากภาคเหนือจะไหลหลากมาเพิ่มเติมอีก ซึ่งอาจก่อให้เกิดน้ำท่วมได้ โดยเฉพาะที่ หมู่ 11 บ้านปากคลอง ต.รังนก ซึ่งเป็นที่ลุ่ม

ในส่วนของระดับน้ำในแม่น้ำยม ล่าสุด นายทินกร รัตนพัวพันธ์ ผอ.โครงการชลประทานพิจิตร ได้สั่งยุบฝายยางสามง่ามที่ก่อนหน้านี้เคยพองตัวขวางแม่น้ำยมเพื่อเก็บกักน้ำ แต่ ณ วันนี้ระดับน้ำในแม่น้ำยมมีปริมาณน้ำล้นฝายยางแล้ว จึงต้องยุบฝายางสามง่ามเพื่อระบายน้ำให้ไหลไปสู่ อ.โพธิ์ประทับช้าง และ อ.โพทะเล ซึ่งเป็นผลดีต่อการเกษตร แต่ก็เฝ้าจับตาระดับน้ำในท้องทุ่งนากับระดับน้ำในแม่น้ำยม ซึ่งคาดการณ์ว่า ถ้าฝนเว้นช่วงเพียงแค่ 1-2 วัน ระดับน้ำตามท้องทุ่งนาก็จะเข้าสู่สภาวะปกติ ส่วนระดับน้ำในแม่น้ำน่านก็ยังคงมีปริมาณน้ำเพิ่มขึ้น



แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook