สาวร้องสื่อ 7 เดือนไม่เคลียร์ ลูกอดีตผู้ว่าฯ ขับรถชนลูกตาย-พ่อพิการ

สาวร้องสื่อ 7 เดือนไม่เคลียร์ ลูกอดีตผู้ว่าฯ ขับรถชนลูกตาย-พ่อพิการ

สาวร้องสื่อ 7 เดือนไม่เคลียร์ ลูกอดีตผู้ว่าฯ ขับรถชนลูกตาย-พ่อพิการ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

สาวมหาสารคามร้องลูกอดีตผู้ว่าฯ ขับรถพุ่งชน ทำลูกสาวตาย-พ่อขาขาด ผ่านมา 7 เดือน ยังเจรจาไม่ได้ โบ้ยประกันรับผิดชอบ-ขาดการติดต่อ

จากกรณีที่มีการแชร์ภาพหญิงสาวหอมแก้มศพเด็กหญิงและร่างชายนอนบนเตียงคนไข้สภาพขาขวาขาด ผ่านโลกออนไลน์ พร้อมข้อความขอความช่วยเหลือ หลังลูกสาวและพ่อถูกรถยนต์เก๋งเฉี่ยวชนที่บริเวณหน้าร้านจำหน่ายต้นไม้ ปากทางเข้าบ้านโนนเดื่อ ใกล้สี่แยกแก่งเลิงจาน ตำบลแวงน่าง อำเภอเมือง จังหวัดมหาสารคาม เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2559

โดยคู่กรณีเป็นผู้ขับขี่รถยนต์นิสันมารช์ สีเขียว หมายเลขทะเบียน กจ3183 มหาสารคาม ที่พุ่งเข้าชนรถกระบะของพ่อหญิงสาวผู้ร้องเรียน ขณะที่กำลังขนย้ายต้นมะละกอลงจากรถ ทำให้ลูกสาววัยเพียง 4 ขวบเสียชีวิต และพ่อบาดเจ็บสาหัสและต้องถูกตัดขาขวา

เบื้องต้นคู่กรณีได้ให้เงินช่วยงานศพลูกสาวและค่ารักษาพยาบาลพ่อรวม 15,000 บาท และเงินชดเชยลูกสาวเสียชีวิตจากประกันเท่านั้น ส่วนเงินชดเชยที่พ่อขาขาด ปัจจุบันผ่านมา 7 เดือนยังไม่ได้รับความช่วยเหลือใดๆ จึงเป็นที่มาของการแชร์เรี่องราวนี้ผ่านโลกโซเชียล ผู้สื่อข่าวจึงได้ติดต่อพูดคุยกับผู้เสียหาย

นางวราภรณ์ แม่ของเด็กหญิงที่เสียชีวิตและลูกสาวของผู้ได้รับบาดเจ็บ เล่าว่า เช้าวันเกิดเหตุพ่อแม่และลูกสาวตนออกไปส่งต้นมะละกอที่ร้านขายต้นไม้ในเทศบาลเมืองมหาสารคาม กระทั่งเวลาประมาณ 09.20 น. นางลำไย ผู้เป็น แม่ได้โทรศัพท์มาแจ้งว่า ลูกสาวของตนกับพ่อถูกรถพุ่งชนท้ายรถ ขณะนั้นกำลังขนต้นไม้และลูกสาวที่อยู่ท้ายกระบะไม่เห็นว่ารถได้พุ่งเข้ามาด้วยความเร็ว จึงหนีไม่ทันถูกชนเข้าอย่างจัง

ผลของแรงชนกระแทกทำให้พ่อและลูกสาวกระเด็นไป 5 เมตร อาการสาหัสทั้งคู่ ถูกเจ้าหน้าที่กู้ชีพนำตัวส่งรักษาอาการที่โรงพยาบาลมหาสารคาม ต่อมาตนพร้อมญาติได้ติดตามมาดูอาการที่โรงพยาบาล จึงได้รับแจ้งจากแพทย์ว่าลูกสาวได้เสียชีวิตแล้ว

ส่วนพ่อได้รับบาดเจ็บสาหัสถูกส่งตัวไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลขอนแก่นและต่อมาได้ถูกตัดขาข้างขวา ขาข้างซ้ายเอ็นเข่าขาด ต้องกลายเป็นผู้พิการ ร่างกายไม่แข็งแรงต้องนั่งรถเข็น ไม่สามารถกลับมาใช้ชีวิตอย่างคนปกติได้ และทำงานหาเลี้ยงครอบครัวได้เหมือนเดิม

ที่ผ่านมาได้เคยพูดคุยกับคู่กรณี ซึ่งทราบภายหลังว่าเป็นลูกชายอดีตผู้ว่าราชการจังหวัดท่านหนึ่ง จนได้รับเงินให้เงินช่วยงานศพลูกสาว 10,000 บาท และค่ารักษาพยาบาลพ่อ 5,000 บาทเท่านั้น ต่อมาได้เดินเรื่องจนได้เงินชดเชยเสียชีวิตของลูกสาวเป็นเงิน 600,000 บาท จากบริษัทประกัน ก็ได้นำเงินนี้มาจ่ายค่างานศพลูกสาวเพิ่มเติม

จากนั้นได้นำเงินมาต่อเติมบ้านให้พ่อที่พิการได้อยู่สะดวกขึ้น และเป็นเงินพาพ่อไปรักษาตัวต่อเนื่องที่ จ.ขอนแก่น ปัจจุบันเงินที่รับได้มาหมดแล้ว ตอนนี้ครอบครัวลำบากมาก ตนและสามีต้องดิ้นรนหางานทำทุกอย่างเพื่อมาเลี้ยงลูกครอบครัว ทั้งลูกชายอีกคนที่เพิ่งอายุได้ 1 ขวบ ดูแลพ่อที่ป่วยหนักและหนี้สินจากธุรกิจครอบครัวที่กู้ยืมมาทำทุน แต่ไม่สามารถผ่านจ่ายได้เพราะทุกคนต้องหยุดทุกอย่างเพื่อมาทำศพและดูแลพ่อที่ประสบอุบัติเหตุดังกล่าว

นางวราภรณ์ จึงอยากให้คู่กรณีเร่งรับผิดชอบ เพราะตลอด 7 เดือนที่ผ่านมา ทุกครั้งที่เจอกันไม่มีแม้คำขอโทษหรือการแสดงความห่วงใยว่าพ่อหรือครอบครัวตนจะเป็นอย่างไร ตอนนี้ก็ยังไกล่เกลี่ยกันไม่ได้และไม่มีการช่วยเหลืออื่นอีกเลย คู่กรณีได้แต่บ่ายเบี่ยงให้เป็นหน้าที่ของบริษัทประกันเป็นฝ่ายจัดการ เมื่อโทรศัพท์ไปถามก็ไม่รับโทรศัพท์บางครั้งปิดเครื่อง

จนล่าสุดได้แจ้งกับตนว่า ถ้าหากอยากให้ชดเชยมากกว่านี้ คงจะต้องขึ้นศาลฟ้องร้องเอา และเมื่อประมาณต้นเดือนกุมภาพันธ์ได้นัดเจรจาไกล่เกลี่ยอีกครั้งแต่ไม่เป็นผล คนขับไม่ยอมจ่ายเงินชดเชยให้ ทำให้ตนเองรู้สึกว่าคู่กรณีไม่มีความจริงใจ จึงจำเป็นต้องออกมาเรียกร้องข้อความเป็นธรรม พร้อมแจ้งความให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเสนอสำนวนแก่อัยการฟ้องศาลเพื่อเอาผิดและเรียกชดเชยการบาดเจ็บและทุพพลภาพของพ่อตนที่ยังค้างอยู่

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook