ถือว่าเป็นเวรกรรม พ่อแม่เด็ก ม.4 ถูก ม.2 ฆ่า อโหสิกรรมให้

พ่อแม่เด็ก ม.4 ถูกเด็ก ม.2 ทำร้ายแทงถึงตาย ไม่ติดใจและไม่ถือเป็นแค้น ขออโหสิกรรมให้ ถือว่าเป็นวิบากกรรมของกัน ปล่อยให้กฎหมายจัดการ

จากกรณีเหตุเด็กนักเรียนชายชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ใช้มีดสปาต้ายาวประมาณ 6 นิ้ว แทงเด็กนักเรียนชายรุ่นพี่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ได้รับบาดเจ็บสาหัส ข้างศาลาพักร้อน สนามหน้าอาคารเรียนในสถานศึกษาแห่งหนึ่งในเขต ต.น้ำร้อน อ.วิเชียรบุรี จ.เพชรบูรณ์ เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2560 ที่ผ่านมา

หลังเกิดเหตุ ทางโรงเรียนได้โทรศัพท์แจ้งรถกู้ชีพขององค์การบริหารส่วนตำบลยางสาว มารับไปส่งโรงพยาบาลวิเชียรบุรี แต่เด็กนักเรียนชายชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ทนพิษบาดแผลไม่ไหวสิ้นใจ และหลังเกิดเหตุเด็กนักเรียนชายที่ก่อเหตุได้วิ่งหลบหนีหายเข้าไปในป่าข้าวโพดข้างโรงเรียน กระทั่งถูกจับกุมตัวได้ในช่วงค่ำวันเดียวกัน

ส่วนสาเหตุการเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว จากการสอบถามผู้อยู่ในที่เกิดเหตุทราบว่า เด็กนักเรียนชายชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่ก่อเหตุ ได้มีเรื่องมีปากเสียงทะเลาะกับเด็กนักเรียนในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ด้วยกัน แต่ผู้ตายเห็นว่าตนเองเป็นรุ่นพี่ จึงเดินเข้าไปหาเพื่อหวังที่จะเคลียร์ แต่กลับถูกแทงจนเสียชีวิตดังกล่าว

ล่าสุด ผู้อำนวยการโรงเรียนดังกล่าว ได้เรียกประชุมครูฝ่ายปกครอง เพื่อเตรียมหามาตราการป้องกันไม่ให้เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นอีก โดยกล่าวว่า ทางโรงเรียนเปิดสอนมาหลายสิบปี ไม่เคยมีเหตุการณ์รุนแรงลักษณะดังกล่าวเกิดขึ้น ซึ่งช่วงนี้ทางโรงเรียนพึ่งเปิดเรียนมาได้เพียง 2 สัปดาห์ ทำให้การตรวจสอบคัดกรองประวัติเด็กนักเรียนยังไม่แล้วเสร็จ

โดยเฉพาะเด็กนักเรียนที่ก่อเหตุ เป็นเด็กนักเรียนที่พึ่งย้ายมาจากโรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งได้เพียง 2 สัปดาห์ ซึ่งต่อไปนี้ทางโรงเรียนได้เตรียมมาตราการเข้ม ในการตรวจสอบไม่ให้เด็กนักเรียนนำอาวุธและของมีคมเล็ดรอดเข้ามาในโรงเรียน

ส่วนศพของเด็กนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ที่เสียชีวิต พ่อแม่ของเหยื่อผู้เสียชีวิต ได้นำศพมาตั้งเพื่อบำเพ็ญกุศลที่บ้านเลขที่ 7 หมู่ 2 ต.น้ำร้อน อ.วิเชียรบุรี ท่ามกลางบรรยากาศที่โศกเศร้า

แม่ของผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ทันทีที่ทราบข่าวแทบตกใจช็อค ไม่กล้าไปดูหน้าลูก กระทั่งหมอต้องพาไปพักในห้อง ส่วนเรื่องเด็กที่ก่อเหตุตนไม่ได้คิดแค้นอะไร ปล่อยให้เป็นไปตามกฏหมาย คิดว่าเป็นวิบากกรรมระหว่างเขากับลูกของเรา ตอนนี้ก็บอกที่หน้าศพลูกว่าไม่ให้จองเวรให้อโหสิกรรมกัน และไม่อยากให้มาขอขมา เพราะอาจจะทำให้เกิดความเคียดแค้นกันไม่จบ

นางสาวิตรี บุญนะ นักพัฒนาสังคมชำนาญการพิเศษ หัวหน้ากลุ่มการพัฒนาสังคมและสวัสดิการ สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่งคงของมนุษย์จังหวัดเพชรบูรณ์ กล่าวว่า ขณะนี้ได้ส่งทีมนักสังคมสงเคราะห์และนักจิตวิทยาลงพื้นที่เยี่ยมเยือน เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งครอบครัวของเด็กที่ก่อเหตุและเด็กที่ถูกกระทำ ซึ่งทราบว่าผู้กระทำมีฐานะยากจน ส่วนผู้ถูกกระทำมีฐานะยากจนและมีพี่สาวที่กำลังศึกษาอยู่อีก 1 คน

เบื้องต้นพัฒนาสังคมได้เยียวยาทั้ง 2 ฝ่าย ครอบครัวละ 3,000 บาท และในระยะยาว จะมีงบประมาณกองทุนคุ้มครองเด็กจากทางกระทรวงฯ จัดสรรงบประมาณไว้ให้เยียวยาเด็กที่ครอบครัวประสบปัญหา โดยจะพิจารณาจากกองทุนคุ้มครองเด็ก ที่จะให้เป็นทุนการศึกษาหรือเป็นทุนประกอบอาชีพให้กับครอบครัว ซึ่งจะอยู่ที่ดุลพินิจของนักสังคมสงเคราะห์และคณะกรรมการ ซึ่งขณะนี้กำลังรอฟังรายละเอียดจากทีมที่ลงพื้นที่ เพื่อพิจารณาให้การช่วยเหลือต่อไป