ปริศนาสาวโรงงานถูกบีบคอตาย แม่เผยผลตรวจมีกระสุนในคอ

ปริศนาสาวโรงงานถูกบีบคอตาย แม่เผยผลตรวจมีกระสุนในคอ

ปริศนาสาวโรงงานถูกบีบคอตาย แม่เผยผลตรวจมีกระสุนในคอ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (8 มิ.ย.) จากกรณีมีคนร้ายรอบเข้าไปบีบคอฆ่าสาวโรงงานแห่งหนึ่งในอำเภอบ้านโป่ง ที่จังหวัดราชบุรี ตายคาห้องเช่า หลังเมื่อเวลาประมาณ 17.45 น. ของวันที่  7 มิ.ย. ที่ผ่านมา ทราบชื่อคือ น.ส.ณัฐวรีย์ อายุ 25 ปี โดยสภาพนอนคว่ำหน้า เสียชีวิตอยู่บนที่นอน ดั้งจมูกยุบมีเลือดไหลนองเต็มที่นอน ลำคอมีรอยเขียวช้ำ และมีเขม่าคราบน้ำมันติดอยู่ คาดเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 5 ชม. ไม่พบร่องรอยการต่อสู้ภายในห้องและการรื้อค้นข้าวของใดๆ

จากการการสอบสวน นายสุชาติ อายุ 30 ปี สามีผู้ตายทราบว่า ผู้ตายทำงานอยู่โรงงานเซรามิก อ.บ้านโป่ง ก่อนเกิดเหตุวันนี้ผู้ตายไม่ได้ไปทำงาน ส่วนตนออกไปทำงาน ขับรถส่งของที่ร้านวัสดุขายสิ่งก่อสร้างแห่งหนึ่งตามปกติ ช่วงเที่ยงโทรเข้ามาหาภรรยายังรับโทรศัพท์อยู่ บอกนอนอยู่ในห้อง ตกเย็นกลับมาเห็นประตูไม่ได้ล็อก เมื่อเปิดเข้ามาก็พบว่าถูกทำร้ายเสียชีวิตจมกองเลือดอยู่บนที่นอน จึงแจ้งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบดังกล่าว

ความคืบหน้า ล่าสุด วันนี้ เมื่อเวลา 14.00 น. ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่เพื่อติดตามความคืบหน้าของคดี โดย นางชันญชิตา แม่ของ น.ส.ณัฐวรีย์ (ผู้ตาย) พร้อมด้วยนายสุชาติ สามีผู้ตาย และญาติได้เดินทางไปเพื่อรอฟังผลชันสูตรพลิกศพ และรับศพของ น.ส.ณัฐวรีย์ เพื่อกลับไปบำเพ็ญกุศลทางศาสนา ที่อาคารศูนย์นิติเวช โรงพยาบาลราชบุรี อำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี หลังพนักงานสอบสวนได้ส่งศพของน.ส.ณัฐวรีย์ มาผ่าพิสูจน์เพื่อหาสาเหตุการตายที่แท้จริง

 โดยที่ นางชันญชิตา แม่ของผู้ตาย เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ปกติผู้ตายจะอยู่กับแฟน เพราะอยู่กินมาด้วยกัน 6 ปีแล้ว และมีลูกด้วยกัน 1 คน ซึ่งลูกสาวของตนเป็นคนที่มีผู้ชายมาติดพันธ์เยอะ และคล้ายๆ ว่าไม่เล่นด้วย และแม่ก็ได้ห้ามไว้ว่าอย่าไปยุ่งเกี่ยวกับเขา ซึ่งคนที่ติดพันก็ทำงานอยู่ด้วยกัน ซึ่งตอนนี้ก็เสียใจเป็นอย่างมากพูดอะไรไม่ถูก อยากให้ตำรวจช่วยจนถึงที่สุดจับคนร้ายมาให้ได้แม่ก็พอใจแล้ว ตนเองก็ไม่คิดว่าลูกสาวจะมาตายทรมานแบบนี้

นางชันญชิตา ยังกล่าวอีกว่า จากการชันสูตรพลิกศพของหมอ ได้แจ้งให้ตนทราบว่า ลูกสาวไม่ได้ถูกทำร้ายหรือทุบตี ส่วนที่ตายเพราะเกิดจากการถูกยิงมีกระสุนอยู่ตรงท้ายทอย ซึ่งแพทย์ก็ได้ชี้ให้ตนดูลอยกระสุนที่อยู่บริเวณท้ายทอย ส่วนหน้าตาลูกก็จำไม่ได้แล้วเพราะใบหน้าบวมมาก แต่ก็ไม่มีการทุบตีทำร้ายแต่ทีแรกคิดว่าเป็นการทุบตีแต่ก็ไม่ใช่ ซึ่งหมอยืนยันว่ามีกระสุนอยู่ในคอจริงๆ กระสุนคาที่ลำคอช่วงท้ายทอย และมีคราบน้ำมัน เสียชีวิตจากการโดนยิง

โดยปกติแล้วลูกสาวของตนจะเป็นคนที่มีบุคลิกนิสัยดี เป็นคนขี้เล่นคุยสนุก แต่อยู่ห่างจากแม่นานแล้วซึ่งเขามาอยู่กับแฟนได้ 6 ปีแล้ว ตนทำงานอยู่จังหวัดระยอง ส่วนลูกสาวทำงานที่ราชบุรี อยู่กับแฟน มีลูกและปู่กับย่าเป็นคนเลี้ยงลูกให้ ซึ่งก็ได้โทรติดต่อกันตลอดเวลา ล่าสุด ยายเสียก็ได้ไปเจอกันที่บ้านคือต่างคนต่างไม่มีเวลา ก็ใช้อาศัยโทรศัพท์ติดต่อกันตลอดเวลา นางชันญชิตา กล่าว

เมื่อผู้สื่อข่าวถามกลับไปว่า ครั้งสุดท้ายได้มีการพูดคุยกับผู้ตายเมื่อไหร่ นางชันญชิตา กล่าวว่า ครั้งสุดท้าย น.ส.ณัฐวรีย์ บอกว่าเขาอยากพักเขาเหนื่อย และเขาได้โพสตที่หน้า facebook ว่าเขา “อยากพักอยากนอนหลับที่ยาวๆไปเลย” คือเขาจะได้ไม่เหนื่อย ตนเองก็ได้บอกกลับไปว่าทำไมลูกถึงพูดแบบนี้ กำลังว่าจะด่าลูกทำไมถึงพูดแบบนี้

พอกลางคืนมาลูกสาวมีการโพสต์ว่าไปกินเลี้ยงสังสรรค์ พอตอนเช้ามา 5 โมงเย็น ลูกเขยก็โทรมาบอกว่าลูกเสียแล้ว หลังจากที่ทราบข่าว ตนเองก็น็อกไปเลย คือทำใจไม่ได้และไม่คิดว่าจะเป็นแบบนี้ ไม่คิดว่ามันจะเกิดขึ้นเร็วขนาดนี้ เพราะเราก็ติดต่อสื่อสารกับลูกตลอดเวลา

ทั้งนี้ ตนเองก็มีลูกสาวเพียงคนเดียว ส่วนอีกคนเป็นลูกชาย ส่วนสามีเสียชีวิตไปนานแล้ว ตนเองอยากจะฝากถึงคนร้ายว่า “ทำไมถึงต้องทำแบบนี้ทำกับลูกสาวตนทำไม โกรธแค้นอะไรนักหนาถึงต้องฆ่ากันแบบนี้”

พร้อมกันนี้ ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังบริเวณห้องพักของผู้ตาย ซึ่งเป็นห้องเข่าชั้นเดียวที่สร้างเป็นห้องแถวติดกันภายในซอยทางเข้าโรงงานน้ำตาลราชบุรี โดยห้องของผู้ตายอยู่ติดกับห้องของพี่สาวของสามีผู้ตาย โดยที่วันนี้มีแม่ของนายสุชาติ สามีของผู้ตาย มาอยู่เป็นเพื่อนและช่วยเลี้ยงดูลูกสาววัย 4 ขวบ

โดยที่แม่ของนายสุชาติ เล่าให้ฟังว่า ตนเองก็เพิ่งจะทราบข่าวและตกใจมาก เพราะลูกสะใภ้เป็นคนที่ดี พูดดีนิสัยดี อยู่กันมาก็ 4-5 ปีแล้วที่มาอยู่บ้านด้วยกันมีลูกวัย 4 ขวบ และปกติก็จะอยู่ด้วยกันที่ห้องเช่าที่ดี และจะกลับไม่ตรงเวลาบางทีลูกสะใภ้กลับก่อนเพราะไม่มีโอที ส่วนลูกชายสามีผู้ตายมีโอทีก็จะกลับดึก แต่เขาก็รักกันดี ก็ไม่คิดว่าจะมาถูกฆ่าให้ตายแบบนี้

ส่วนศพของลูกสะใภ้ทางญาติทั้งสองฝ่ายก็ตกลงกันว่าให้นำศพของ น.ส.ณัฐวรีย์ กลับไปบำเพ็ญกุศลศพทางศาสนา และประกอบพิธีฌาปนกิจศพที่วัดหินแท่น อำเภอด่านมะขามเตี้ย จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งเป็นบ้านของตนเองและเป็นบ้านสามีผู้ตาย ซึ่งมีญาติพี่น้องส่วนใหญ่อยู่ที่นี่

ขณะที่ พ.ต.อ.ณรงค์เดชศ์ ศักดิ์สมบูรณ์ รอง ผบก.ภ.จว.ราชบุรี รรท.ผกก.สภ.บ้านโป่ง ได้เรียกเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้อง พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน รวมประชุมในการติดตามคนร้าย ซึ่งทราบแล้วว่าเป็นเพื่อนชาย รุ่นน้อง ทำงานอยู่ที่เดียวกับผู้ตาย และจากผลการชันสูตรศพ แพทย์ระบุว่า ผู้ตายนั้นมีบาดแผลถูกกระสุนปืน ขนาด.22 เข้าที่บริเวณใต้คาง กระสุนทะลุไปฝังตรงบริเวณโพรงจมูกด้านในจนถึงท้ายทอย ทำให้จมูกยุบ มองคล้ายเหมือนถูกตี คาดว่าอาวุธปืนที่คนร้ายใช้น่าจะเป็นอาวุธปืนปากกา

ส่วนในการสืบสวนสอบปากคำพยานซึ่งเพื่อนที่ทำงานของ น.ส.ณัฐวรีย์ ผู้ตาย ทราบว่า ช่วงที่ทำงานได้มีเพื่อนร่วมงานเป็นชายอยู่แผนกเดียวกัน เป็นรุ่นน้องทราบชื่อ นายปอ (นามสมมุติ) อายุ 19 ปี ได้แอบชอบพอกับผู้ตายมานาน ในวันเกิดเหตุ น.ส.ณัฐวรีย์ ผู้ตาย ได้ลาหยุดงาน นายปอ (นามสมมุติ) ทราบ จึงได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ มาหา น.ส.ณัฐวรีย์ ที่ห้องเช่า

คาดว่าระหว่างนั้น ได้ยินผู้ตายพูดคุยโทรศัพท์กับสามี ทำให้ นายปอ เกิดความหึงหวง ด้วยความโกรธจึงบันดาลโทสะ ใช้มือบีบพร้อมกับใช้อาวุธปืนจ่อยิงที่ใต้คางยิงใส่จนเสียชีวิต จากนั้นได้ขับขี่รถหลบหนีไป และไม่กลับเข้าไปทำงานอีกเลย ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังเร่งรวบรวมพยานหลักฐาน และจะจับกุมตัวคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook