แม่ชาวพม่าร้องสื่อช่วยตามหาลูกสาวหวั่นน้องสะใภ้นำไปขาย

แม่ชาวพม่าเดินทางจากบ้านเกิดร่วม 6 วัน ข้ามฝั่งมาที่อ.แม่สาย จ.เชียงราย ร้องสื่อช่วยตามหาลูกสาววัย 12 ปี เกรงน้องสะไภ้ นำไปขายให้กับกลุ่มขบวนการค้ามนุษย์ ภายหลังน้องชาย มาขอให้มาช่วยดูเมียที่ท้องแก่ และเลี้ยงลูกวัย 3 ขวบ แล้วหายตัวไป

(12ก.พ.) เวลา 09.00 น. นางลาลาเมง อายุ 36 ปี ชาวพม่าเชื้อสายจีน อาศัยอยู่ในจังหวัดลาเสี่ยว ประเทศพม่า เข้ามาร้องขอความช่วยเหลือจากกลุ่มเพื่อนผู้สื่อข่าว อ.แม่สาย จ.เชียงราย ว่าได้เดินทางโดยรถยนต์จาก จังหวัดลาเสี่ยวเป็นเวลา 6 วัน เพื่อที่จะขอร้องความช่วยเหลือจากผู้สื่อข่าวช่วยเหลือตามหาลูกสาว ชื่อ ด.ญ.จิงเหมย อายุ 12 ปี ที่ไปอาศัยอยู่กับน้องชายของตนชื่อ นายหยางหยงชาง อายุ 21 ปี ที่กรุงเทพฯ โดยน้องชายทำงานเป็นช่างทำเฟอร์นิเจอร์

นางลาลาเมง เล่าให้ฟังว่า อาศัยอยู่ที่จังหวัดลาเสี่ยว ประเทศพม่า กับลูก 4 คน โดยด.ญ.จิงเหมย ป็นคนที่ 2 ซึ่งต่อมาเมื่อประมาณ 1 ปี 3 เดือนก่อน ได้มีนายหยางหยงชาง น้องชาย ซึ่งไปทำงานที่กรุงเทพฯ ได้เดินทางกลับมาบ้านและได้ขอลูกสาวไปเพื่อที่จะให้ไปช่วยดูแลนางลู่หวยชิง ภรรยาที่กำลังท้องแก่ใกล้คลอดและให้เลี้ยงบุตรอีกคนอายุ 3 ขวบ ซึ่งตนเห็นแก่น้องชายก็อนุญาตให้ลูกสาวไป ซึ่งก็ไม่มีเหตุการณ์น่าเป็นห่วง

จนกระทั่งเมื่อ 2 เดือนที่แล้ว ตนได้โทรศัพท์เพื่อไปพูดคุยกับลูกสาวตามปกติ แต่ก็ได้รับคำตอบจากน้องชายว่าลูกสาวของตนไม่อยู่และหนีออกจากบ้านไปแล้ว และจากการฟังน้ำเสียงของน้องชายพบว่าผิดสังเกตไม่มีอาการเป็นห่วงหรืออยากที่จะออกติดตามหาลูกสาวของตนแต่อย่างใด ตนจึงเป็นห่วง ด.ญ.จิงเหมย เป็นอย่งมาก เพราะรู้ว่าลูกสาวเป็นเด็กที่เรียบร้อยและไม่น่าที่จะคิดหนีออกจากบ้านไปไหน

อย่างไรก็ตาม ตนเกรงว่าลูกสาวของตนอาจจะถูกนางลู่หวยชิง ซึ่งเป็นน้องสะใภ้นำบุตรสาวของตนขายให้กับกลุ่มขบวนการค้ามนุษย์ เพราะหลังจากที่ลูกสาวหายไปตนก็ได้โทรศัพท์ติดต่อตามหาลูกสาวเป็นประจำ บางครั้งสองสามีภรรยาก็พูดไม่ตรงกันบ้างทำให้มีพิรุธหลายอย่างจนที่สุดก็ปิดโทรศัพท์ไปทำให้ไม่สามารถติดต่อได้ ตนมีแค่ที่อยู่ของน้องชายที่เคยให้ไว้ คือ เลขที่ 111-1 หมู่ 9 ต.หัวลำโพง อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา

นางลาลาเมง กล่าวว่า ตอนนี้ตนอยากพบตัวลูกสาวมากและอยากจะพากลับไปอยู่ที่บ้านประเทศพม่าเหมือนเดิมตนจึงออกเดินทางจากพม่ามาที่ อ.แม่สาย ซึ่งต้องใช้เวลาในการเดินทาง 6 วัน จึงขอวิงวอนผู้ที่พบเห็นหรือรู้จักบุตรสาวของตนก็ขอให้โทรศัพท์มาติดต่อที่หมายเลข 053-642384 หรือจะประสานผ่านทางผู้สื่อข่าวก็ได้

ทั้งนี้ เป็นที่น่าสังเกตว่ากลุ่มแรงงานต่างด้าวที่หลบหนีเข้าเมืองไปหางานทำในประเทศไทยสามารถเดินทางไปกลับได้อย่างสบายโดยมีกลุ่มขบวนการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวที่เป็นคนไทยเป็นคนรับส่ง ซึ่งขบวนการนี้มักจะมีกลุ่มคนมีสีในพื้นที่คอยอำนวยความสะดวกให้ถือว่าเป็นภัยความมั่นคงเป็นอย่างมาก