เสม็ดอินเลิฟ ครั้งที่8 ถูกระงับ แฟนๆ แนะ ขอให้ยกเป็นกรณีศึกษา

เป็นคอนเสิร์ตที่ตัดต่อเนื่องมายาวนานคอนเสิร์ตหนึ่งสำหรับ “เสม็ดอินเลิฟ” ที่ขนศิลปินมากหน้าหลายตาในยุคสมัยมาแสดงทั้ง 25 Hours / Scrubb / Singto Numchok / Tattoo Colour / Polycat / De Flamingo Paradox / Da Endorphine / Gancore Club / Boom Boom Cash / Slot Machine

แต่พอถึง “เสม็ดอินเลิฟ ครั้งที่8” ก็ถูกระงับไป หลายคนก็สงสัยว่า 7 ครั้งที่ผ่านมาทำไมจัดได้ แล้วครั้งล่าสุดทำไมเกิดปัญหา

แฟนเพลงรายหนึ่งที่คิดมาฟังวงโปรดหลายๆวงอย่างวง Scrubb หรือ สิงโต นำโชค พร้อมกับพักผ่อนที่เสม็ดไปด้วย มองเรื่องการงพจัด “เสม็ดอินเลิฟ ครั้งที่ 8”ว่า

“ในแง่กฎหมายเราก็เข้าใจนะว่ายังไงก็คงละเมิดไม่ได้ (พรบ.อุทยานฯ“ห้ามมิให้บุคคลใด” (17) ส่งเสียงอื้อฉาวหรือกระทําการอื่นอันเป็นการรบกวน หรือเป็นที่เดือดร้อนรําคาญแก่คนหรือสัตว์ และ(18) ทิ้งขยะมูลฝอยหรือสิ่งต่างๆ ในที่ที่มิได้จัดไว้เพื่อการนั้น) จริงๆ รัฐก็ให้จัดได้แต่อยู่ที่ความเหมาะสมของผู้จัดที่ให้ทำให้เหมาะสมได้ไหม แต่ก็เตรียมใจไว้แล้วว่าเป็นไปได้ยาก ก็ไม่ได้ลุ้นอะไรมากมายเพราะเราก็เข้าใจในสถานการณ์

อยากให้เป็นกรณีศึกษาว่ากฎหมายที่เอามาใช้ห้ามนี่คืออะไรให้ชัดเจน เอาความเป็นจริงมาพูด ถ้าพูดถึงสิ่งแวดล้อม อดีตเกิดอะไรขึ้นต้องย้อนกลับไปจัดการด้วยว่าที่ผ่านมาทำไมจัดได้ แล้วทำไมตอนนี้จัดไม่ได้ แล้วมองไปถึงอนาคตด้วย อยู่ดีๆมีกลุ่มหนึ่งพูดถึงสิ่งแวดล้อมมองแค่การจัดงานหรือเปล่า ปกติเสม็ดเป็นยังไง มีการจัดการที่เรียบร้อยดีหรือเปล่า ไม่จัดคอนเสิร์ตใช่ว่าสิ่งแวดล้อมจะดีขึ้น เพราะว่าเสื่อมมานานแล้ว แล้วชาวบ้านได้รับรู้แค่ไหน ถ้าเรารักเสม็ดจริงๆ ต้องทำยังไง ไม่ใช่แค่ไม่จัดคอนเสิร์ต จัดคอนเสิร์ตทำให้สิ่งแวดล้อมเสื่อมลงจริงเหรอ ถ้าไม่มีคอนเสิร์ตเกิดอะไรขึ้นกับเสม็ด

คนเสม็ดต้องรู้ว่า อะไรคือคุณค่าที่แท้จริงของเสม็ด อะไรคือธรรมชาติที่ต้องรักษาไว้ให้การเรียนรู้ตรงนี้อย่างแท้จริง ไม่มีคอนเสิร์ตแต่ยังมีขยะไม่มีคนจัดการ ไม่มีการให้ความรู้อะไรกับนักท่องเที่ยวเลย ไม่ว่าไปเที่ยวที่ไหนต้องทำยังไง ผู้ประกอบการก็ต้องรู้ว่าต้องทำยังไง ควรยกมาเป็นกรณีศึกษาเลย รัฐควรเอาจริงเอาจังในเรื่องกฎหมาย ประกาศให้สังคมรับรู้ในเรื่องนี้ไม่ใช่แค่เสม็ดอย่างเดียว ที่ไหนจัดได้ไม่ได้ถ้าอ้างกฎหมายมันก็ฉบับเดียวกันทำไมที่นั่นจัดได้ที่นี่จัดไม่ได้ จัดมา 7 ปีทำไมปีนี้จัดไม่ได้ไม่ได้ คนก็มองว่าเป็นเรื่องการเมือง ถ้าใช้บังคับทั่วถึงก็ไม่มีความสงสัย พอการเมืองเปลี่ยนอะไรก็เปลี่ยน

เรื่องสิ่งแวดล้อมก็ควรอยู่ในหลักสูตรการเรียน เรารู้แล้วว่าประชาชนไม่รู้เรื่องนี้ ทำไมไม่ทำให้ประชาชนรู้ละ ไม่ใช่ประกาศเป็นช่วงๆในบางรัฐบาล เพราะบางรัฐบาลก็ไม่อยากให้รู้เพราะไปสกัดกั้นอะไรบางอย่างของเขาหรือเปล่า”