ไขความกระจ่าง! เม็ดกระท้อนมรณะกลืนลงท้องอาจถึงตาย

ไขความกระจ่าง! เม็ดกระท้อนมรณะกลืนลงท้องอาจถึงตาย

ไขความกระจ่าง! เม็ดกระท้อนมรณะกลืนลงท้องอาจถึงตาย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

จากกรณีข่าวการเสียชีวิตของนางบังเอิญ  วัย 68 ปี เนื่องจากติดเชื้อในกระแสเลือดอย่างรุนแรง ซึ่งมีสาเหตุมาจากการกินเม็ดกระท้อน และแพทย์ได้ผ่าตัดเอาเม็ดกระท้อนออกมา 4 เม็ด  หลังจากจากพบว่าลำไส้ทะลุพร้อมมีอุจจาระปะปนในช่องท้องอันเป็นสาเหตุทำให้ติดเชื้อทางกระแสโลหิตอย่างรุนแรง

โดยแพทย์เจ้าของไข้คือ นพ.พรชัย สินคณารักษ์ ได้เปิดเผยว่าเม็ดกระท้อนที่มีปลายแหลมเข้าไปขูดลำไส้ จนเกิดเป็นผลให้ ลำไส้มีบาดแผลฉีกขาด จนทะลุและติดเชื้อทางกระแสเลือด คุณหมอจึงฝากเตือนทุกคนอย่ากลืนเม็ดกระท้อนหรือเม็ดผลไม้ใดๆ เป็นอันขาดและกรณีเช่นนี้เกิดขึ้นทุกปีถึงปีละ 2-3 ราย

ยายกินเม็ดกระท้อนไส้ทะลุเสียชีวิต

1acpptv

ทั้งนี้จากข่าวที่เกิดขึ้นทำให้สังคมไทยตื่นตัวและสงสัยว่าเมล็ดกระท้อนสามารถทำอันตรายได้ถึงเพียงนี้หรือ.!!

เพื่อความกระจ่างทาง Sanook! News จึงได้ติดต่อขอสัมภาษณ์คุณหมอท่านหนึ่งที่ทำงานในโรงพยาบาลต่างหวัด ได้แสดงความคิดเห็นว่า “เม็ดกระท้อนมีขนาดใหญ่กว่าเม็ดผลไม้ทั่วไปและปลายเม็ดมีส่วนที่แหลมคม ซึ่งเมื่อเรากลืนเม็ดลงบนกระเพาะส่วนที่เป็นปุยเนื้อจะถูกกระบวนการย่อยสลายไปจนหมดเหลือแต่ส่วนที่แข็งที่ไม่สามารถย่อยได้

จากนั้นเมื่อลำไส้ทำการบีบตัวปลายแหลมของเม็ดกระท้อนก็อาจจะทิ่มแทงหรือบาดผนังลำไส้ทำให้ลำไส้เกิดบาดแผลหรือถ้าหนักสุดอาจจะทำให้ลำไส้ทะลุหรือฉีกขาดได้ หากลำไส้ฉีกขาดหรือมีแผลทะลุอุจจาระก็จะไหลออกมาปนเปื้อนและอาจก่อให้เกิดการติดเชื้อในช่องท้อง หรือ ติดเชื้อในกระแสเลือดได้ ซึ่งเพียงแค่ 1-2 วัน ก็สามารถทำให้คนไข้เสียชีวิตได้

1ac3top news

ด้านภาวะติดเชื้อในกระแสเลือด อธิบายง่ายๆคือ อาการที่ร่างกายติดเชื้อโรคทางใดทางหนึ่ง ก่อนที่เชื้อโรคจะวิ่งเข้าสู่กระแสเลือดก่อให้เกิดอาการอักเสบ โดยปกติแล้วเมื่อเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกาย จะมีเม็ดเลือดขาวคอยทำหน้าที่จับเชื้อโรคนั้นๆ ได้อยู่แล้ว แต่เมื่อใดที่ร่างกายอยู่ในภาวะอ่อนแอ ไม่สามารถต่อสู้กับเชื้อโรคได้ เชื้อโรคก็จะเข้าสู่กระแสเลือดจนมีอาการติดเชื้อได้นั่นเอง

ทั้งนี้วิธีการรักษาผู้ป่วยที่ลำไส้ทะลุหรือลำไส้อุดตันต้องใช้วิธีการผ่าตัดสถานเดียว โดยแพทย์จะทำการผ่าตัดยกลำไส้ใหญ่มาไว้ที่หน้าท้องเพื่อให้อุจจาระผ่านหน้าท้องระยะเวลาหนึ่ง และช่วยให้การอักเสบในช่องท้องดีขึ้น จากนั้นทำการเอาเม็ดกระท้อนที่ตกค้างออกให้หมด ทั้งนี้ช่วงระยะเวลาดังกล่าวต้องระวังความเสี่ยงต่อการติดเชื้อจึงต้องดูแลอย่างใกล้ชิด

ท้ายนี้คุณหมอยังฝากเตือนอีกว่าผู้ที่ชอบกลืนเม็ดกระท้อนควรหยุดพฤติกรรมนี้เพราะจะเป็นอันตรายอย่างมากกับตัวเอง ที่สำคัญไม่ว่าคุณจะอยู่ในช่วงอายุไหนก็มีสิทธิ์ที่จะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ด้วยเช่นกัน”

การกลืนเม็ดกระท้อนถือว่าอันตรายอย่างมากเพราะจะเป็นอันตรายต่อลำไส้ของเราที่ไม่สามารถย่อยหรือขับถ่ายออกมาได้

1ac2

อุทาหรณ์! ลุงกินกระท้อนกลืนเม็ด ลำไส้ทะลุหวิดดับ

ซึ่งเมื่อปี 2557 ที่ผ่านมามีเคสกลืนกระท้อนจนลำไส้ทะลุมาแล้ว คือกรณีนายดวงดี ธรรมวัง อายุ 51 ปี ชาว ต.บ่อนอก อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ ที่ได้กินกระท้อนไปจำนวน 6 ลูก และกลืนเม็ดไปทั้งหมดประมาณ 25-30 เม็ด จนกระทั่งรู้สึกปวดท้องอย่างรุนแรงจนทนไม่ไหว

ต้องรีบไปพบแพทย์และถูกพาเข้าห้องผ่าตัดทันที โดยแพทย์ได้ผ่าตัดเป็นแผลยาวประมาณ 15 เซนติเมตร เพื่อรักษาสำไส้ที่ทะลุ และนำสำไส้ส่วนดีมาไว้หน้าท้องเพื่อให้ถ่ายทางหน้าท้องก่อน นอกจากนี้พบเม็ดกระท้อนตกค้างอยู่ตรงจุดที่ทะลุ 10 เม็ดด้วยกัน และโชคดีที่อาการปลอดภัยไม่เกิดการติดเชื้อแทรกซ้อน

จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดพอจะเห็นภาพออกแล้วว่าการกินเม็ดกระท้อนนั้นเป็นอันตรายอย่างยิ่ง หากชอบรับประทานจริงควรกินเฉพาะเนื้อที่เป็นปุยสีขาวและคายเม็ดออกเท่านั้น หากเผลอกลืนหรือกลืนอย่างตั้งใจ อาจจะเป็นอันตรายถึงชีวิตได้

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook