ตั้ว ศรัณยู พูดถึงฟีดแบค ภาพคู่ แอม เสาวลักษณ์

กลายเป็นอีกหนึ่งปรากฏการณ์ที่สร้างความฮือฮาให้กับแฟนๆ หนักมาก สำหรับการโคจรมาเจอกันอีกครั้ง สำหรับ “ตั้ว ศรัณยู วงศ์กระจ่าง” และ “แอม เสาวลักษณ์” จนกลายเป็นฟีดแบคเรื่องราวดีๆ ที่หลายคนต่างพร้อมใจกันแชร์ต่อในโลกโซเชียลฯ

ซึ่งล่าสุดพอมีโอกาสได้เจอกับนักแสดงรุ่นใหญ่ อย่าง “ตั้ว ศรัณยู” ในงานแถลงข่าว “Club Friday The Series 9 รักครั้งหนึ่ง ไม่ถึงตาย” บรรดาสื่อก็เลยต้องขอเข้าไปจ่อไมค์ถามเจ้าตัวถึงภาพถ่ายดังกล่าวที่ทำให้แฟนๆ ต่างพากันอมยิ้ม รวมถึงแฮชแท็ก #รู้สึกตายตาหลับที่ “แอม เสาวลักษณ์” โพสต์ลงอินสตาแกรม โดยเจ้าตัวได้เผยกับเราว่า…

"ผมว่าผมไม่ตอบเรื่องนี้ดีกว่า ผมยังมองไม่เห็นว่าคำตอบของผมจะเป็นประโยชน์กับใครตรงไหนเลย ถ้าพูดไปคนก็จะตีความกันไปเป็นข่าวต่างๆ นานา แต่ถ้ามองในมุมที่คนเห็นแล้วยิ้มตามไปกับรูป ก็ถือว่าดีครับ เห็นแล้วยิ้มก็ดีแค่นั้นพอแล้ว จะไปอธิบายอะไรให้ทุกคนฟังก็ไม่มีประโยชน์"

“ส่วนเรื่องที่ถ้ามีคนไปตามหาข่าวก่อนหน้านี้ของเราว่าเกิดอะไรขึ้น ก็เอ่อ…เป็นเรื่องของเขาครับ ผมไม่ได้ซีเรียส เพราะไม่ว่าจะตอบอะไรไปก็ไม่ได้มีประโยชน์กับใครเลย มีหรือไม่มีรูปนี้บางคนอาจจะได้รับการบอกเล่ามาก็เป็นเรื่องปกติของสังคมทุกวันนี้ ข่าวพวกนี้ไม่ได้มีผลกระทบต่อความรู้สึกของผมเลย ไม่จำเป็นต้องอธิบายหรือเคลียร์อะไร"

“ถามถึงแคปชั่นของแอมในทำนองว่าตายตาหลับแล้ว คือเห็นแล้วรู้สึกยังไงล่ะ ถ้าชอบ เห็นแล้วยิ้ม แค่นั้นก็พอแล้วแหล่ะ ไม่ต้องอธิบายอะไร ผมเองก็เห็นรูปนั้นมีน้องๆเอามาให้ดู แต่ไม่มีอะไร ขยายผลอะไรไม่ได้หรอก ทุกอย่างสมบูรณ์ด้วยสิ่งที่ประจักษ์อยู่ไม่มีอะไรต้องพูด"

กลับมารับงานละครอีกครั้ง หลังจากที่ผันตัวเองไปเป็นคนเบื้องหลังอยู่นาน ?
"ก่อนหน้านี้ใครถามก็จะพูดเสมอว่าอาชีพนักแสดงเป็นอาชีพที่ผมมีความสุขมาก แต่วันเวลาเปลี่ยนไป เราไม่ได้อยู่ในกระแสที่คนให้ความสนใจ ไม่มีใครจ้าง เราไม่ได้อยู่ในจุดที่ขายได้ในฐานะนักแสดง ก็เลยผันตัวเองไปทำงานเบื้องหลัง อยู่ๆ พี่ฉอดให้คนโทรมาชวนให้เล่นคลับฟรายเดย์ น่าสนใจ เวลาเราได้ ก็เลยรับเล่น"

"ซึ่งสาเหตุที่ไม่ค่อยมีคนติดต่อมาให้เล่นละคร อาจะเป็นเพราะละครสมัยนี้โฟกัสที่เรื่องของวัยรุ่นเป็นหลัก ความรักของหนุ่มสาว ซึ่งเราก็จะห่างเป็นธรรมดา ไม่ได้เปิดกว้างเหมือนเมืองนอกที่จะมีเรื่องของผู้ใหญ่ คนแก่ พ่อที่ต้องทำงานเพื่อลูก ก็อาจจะมีชื่อเราในผลงานนั้นๆ แต่ในเมื่อบ้านเราไม่ได้เปิดกว้างขนาดนั้น แล้วจะให้ผมเล่นเป็นใครล่ะ"

“ส่วนงานเบื้องหลังตอนนี้ก็ยังทำอยู่นะ เพราะมันเป็นอาชีพของเรา ถ้าจะนั่งรอว่าเมื่อไหร่จะมีคนทำละครของคนวัยอย่างเราแล้วเรียกเราไปเล่นซะที ก็คงรอไม่ไหว ผมพูดเสมอว่าผมมีความสุขกับการเป็นนักแสดง มีความสุขมากที่ได้ทำงานลงลึกในรายละเอียดของตัวละครตัวเดียว แต่งานเบื้องหลังก็เป็นความสุขอีกมุมหนึ่ง"