เปิดใจ พนักงานเซเว่นน้ำใจงาม ออกค่าขนมให้เด็กเงินไม่พอ

เปิดใจ พนักงานเซเว่นน้ำใจงาม ออกค่าขนมให้เด็กเงินไม่พอ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

จากกรณีที่เกิดกระแสชื่นชมไปทั่วโลกออนไลน์อย่างรวดเร็ว เมื่อผู้ใช้เฟซบุ๊ก จุ๋ม เอ ได้ออกมาโพสต์คลิปเผยเหตุการณ์ตามดูลูกๆไปซื้อขนมในร้านสะดวกซื้อเซเว่น อีเลฟเว่น พบว่าพนักงานหนุ่มน้อยน้ำใจดี ช่วยออกเงินที่ขาดให้ ทำให้เรื่องดังกล่าวเกิดเป็นกระแสการแชร์ชื่นชมอย่างล้นหลามไปทั่วโซเชียลมีเดียกว่า 1.6 หมื่นครั้ง กดไลค์อีกกว่า 5.4 หมื่นครั้งนั้น

ล่าสุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (22 มิ.ย.) เมื่อเวลา 18.00 น. ได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบพบพนักงานคนดังกล่าว ทราบชื่อคือ นายพรรดิ์ธนะ หินสูงเนิน อายุ 19 ปี โดยนายพรรดิ์ธนะ กล่าวว่า น้องเค้ามาซื้อน้ำ แล้วน้องตังค์ไม่พอ ผมก็เลยช่วยน้องเค้า ซึ่งก็ได้ช่วยน้องเค้าไป 3 ครั้ง

ซึ่งเหตุผลที่ช่วยน้องเค้า ก็เนื่องจากในตอนที่ผม เป็นเด็ก มีความรู้สึกอยากจะกินขนมอันนี้ แต่ตังค์ไม่พอ แล้วไม่กล้าไปขอตังค์ใคร ก็เลยคิดเป็น ใจเค้าใจเรา ก็เลยช่วยน้องคนนั้นเค้า จนส่งผลให้เกิดความรู้สึกดี

 สำหรับนายพรรดิ์ธนะ หรือ น้องแทน หินสูงเนิน อายุ 19 ปี หนุ่มน้ำใจงาม ซึ่งเป็นพนักงานเซเว่น อีเลฟเว่น ที่อยู่ระหว่างฝึกงาน โดยเดินทางมาจากจังหวัดนครราชสีมา เพื่อมาฝึกงานที่ร้านดังกล่าวเป็นระยะเวลา 3 เดือน 

ในขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวก็พบกับ นายบูชา เชยเอี่ยม หรือ เอ อายุ 33 ปี เจ้าของคลิปดังกล่าวเปิดเผยว่า โดยปกติแล้วคุณพ่อกับคุณแม่ตนจะเป็นผู้ไปรับลูกสาวลูกชายของตนรวม 5 คนจากโรงเรียน โดยระหว่างทางก็จะแวะให้เด็กๆ ได้ซื้อขนมที่ตลาดนัดหินเพลิงบางพระ ตำบลบางพระ อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี

ซึ่งคุณแม่ตนเล่าให้ฟังว่าเด็กๆได้นำเงินที่เหลือจากการไปโรงเรียนมาซื้อขนมแต่กลับมีขนมได้ขนมกลับบ้านที่เกินราคากว่าเงินที่เหลือจากกลับจากโรงเรียน ตนจึงสอบถามลูกๆ จนยอมบอกว่ามีพนักงานร้านเซเว่น อีเลฟเว่น ผู้หญิง และผู้ชายใจดี ช่วยจ่ายเงินส่วนต่างให้ ตนจึงสอนเด็กๆว่าเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง เราควรจะใช้เงินที่เรามีเท่านั้น ซึ่งเด็กๆก็เข้าใจเป็นอย่างดี เพราะไม่มีพ่อแม่คนไหนอยากให้ลูกไปขอเงินคนอื่นอีก

 หลังจากนั้นตนและภรรยาจึงตัดสินใจให้ลูก ๆ พาไปที่ร้านสะดวกซื้อดังกล่าว เนื่องจากอยากทราบว่าพนักงานใจดีเป็นใคร ซึ่งเมื่อไปถึงก็พบพนักงานชาย ทราบชื่อภายหลังว่าน้องแทน อายุ 17 ปี กำลังถูพื้นอยู่ เมื่อพบลูก ๆ ตนก็ทักทายอย่างแจ่มใสโดยไม่มีท่าทีรำคาญ เมื่อเด็ก ๆ มีเงินเพียง 15 บาท ซึ่งไม่พอที่จะซื้อน้ำราคา 20 บาทได้ 

ทางพนักงานได้บอกให้รอก่อน และคิดเงินให้ลูกค้าท่านอื่นเสร็จ จึงเดินไปหยิบเงินของตนเองที่หลังร้านมาออกให้ลูก ๆ ตนที่ยังขาดอยู่ ทั้งยังจะช่วยออกเงินเพิ่มให้เป็นขวดใหญ่ เพราะเด็ก ๆ มี 3 คน เกรงว่าจะไม่พอ   ตอนที่ตนและภรรยาแอบดูแล้วเห็นภาพเช่นนั้นจึงเกิดความประทับใจ  และตื้นตันใจมากที่เห็นน้องเขาไม่มีความลังเล ทั้งยังเอ็นดูลูกๆ ตนเหมือนลูกหลาน

ภรรยาถึงกับยืนน้ำตาคลอเบ้า ส่วนตนเองก็ซาบซึ้งมากเพราะเคยลำบากมาก่อน รู้ว่าการที่มีผู้ใหญ่ใจดีเข้ามาช่วยเหลือแม้เพียงเล็กน้อยเป็นเช่นไรจึงเข้าไปหาพร้อมขอบคุณ ชื่นชมในความมีน้ำใจ และมอบเงินจำนวน 500 บาทให้น้องแทนเพื่อเป็นกำลังใจในการทำความดีต่อไป”

หลังจากนั้น ตนจึงนำเรื่องราวดีๆที่เกิดขึ้นมาโพสต์ในเฟซบุ๊ก เนื่องจากอยากจะแชร์เรื่องราวดีๆ ความมีน้ำใจของคนในสังคมที่ตอนนี้หาได้ยากยิ่ง ตนอยากให้สังคมไทยมีน้ำใจต่อกันมาก ๆ ไม่จำเป็นจะต้องช่วยกันเพื่อเอาหน้าใด ๆ แต่เป็นการช่วยเท่าที่ช่วยได้เท่านี้สังคมก็น่าอยู่แล้ว

โดยหลังจากที่โพสต์ไปต่างมีชาวเน็ตเข้ามาคอมเม้นท์ชื่นชมน้องแทนอย่างล้นหลาม ทั้งนี้ จากกระแสที่เกิดขึ้น ตนต้องขอขอบคุณทุกคำชมแทนน้องแทนเป็นอย่างมากอีกด้วย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook