เจ้าสาวเป็นลม เจ้าบ่าวสินสอดไม่พอ-ยกขันหมากหนี

เจ้าสาวเป็นลม เจ้าบ่าวสินสอดไม่พอ-ยกขันหมากหนี

เจ้าสาวเป็นลม เจ้าบ่าวสินสอดไม่พอ-ยกขันหมากหนี
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (24 มิ.ย.) เมื่อเวลา 11.30 น. นางเอ (นามสมมุติ) อายุ 64 ปี พร้อมญาติพี่น้องพา น.ส.บี (นามสมมุติ) อายุ 25 ปี เจ้าสาวและเป็นหลานสาวเข้าแจ้งความ หลังถูกนายอดิเรก อายุ 24 ปี พร้อมญาติพี่น้องชาวจังหวัดพิจิตร ซึ่งเป็นเจ้าบ่าวหอบเงินสินสอดหนีไป

จากการสอบถาม นางเอ ป้าของ น.ส.บี เจ้าสาว เล่าว่า หลานสาวของตนคือ น.ส.บี ทำงานเป็นพนักงานของบริษัทอยู่ที่กรุงเทพฯและได้คบหาดูใจกับนายบอล (นามสมมุติ) เจ้าบ่าว มาได้สักระยะหนึ่งหลังจากทั้งคู่ได้รู้จักกันที่กรุงเทพฯและได้ตกลงแต่งงานกัน

โดยผู้ใหญ่ทั้ง 2 ฝ่าย ได้คุยปรึกษาหารือกันและผู้ใหญ่ทางฝ่ายหญิงได้เรียกค่าสินสอดทองหมั้นเป็นเงิน 1 แสนบาท กับทองคำหนัก 1 บาท  ฝ่ายชายก็ตกลงตามนั้น และมีกำหนดจัดงานแต่งงานขึ้นที่บ้านของเจ้าสาวในวันนี้ โดยทางเจ้าสาวได้แจกการ์ดเชิญให้กับแขกประมาณ 100 ใบ และจ้างโต๊ะจีนกว่า 50 โต๊ะ โดยลงทุนจัดงานเป็นเงินนับแสนบาท

พอถึงเวลาที่กำหนดเจ้าบ่าวและญาติประมาณ 20 คนได้เดินทางมาด้วยรถตู้ รถเก๋งและรถกระบะรวม 5 คัน ถึงบ้านเจ้าสาว และพิธีแต่งงานได้เริ่มขึ้นตามประเพณีมีการแห่ขันหมากและกั้นประตูเงิน ประตูทอง แต่พอถึงช่วงนับเงินสินสอดปรากฏว่าในขันหมากมีเงินสดเพียง 5 หมื่นบาท และทองคำหนัก 1 บาท  เงินสินสอดขาดไป 5 หมื่นบาท

ผู้ใหญ่ทั้ง 2 ฝ่ายจึงได้ตกลงคุยกัน โดยทางฝ่ายเจ้าสาวบอกว่าถ้าเงินไม่พอก็ให้นำมาเพิ่มให้ทีหลัง ไม่ได้ว่าอะไร แต่ญาติผู้ใหญ่ทางฝ่ายเจ้าบ่าวยืนยันว่าจะให้แค่นี้คือเงิน 5 หมื่น และทอง 1 บาท  จะไม่มีการเพิ่มให้อีก ทำให้ฝ่ายเจ้าสาวไม่พอใจ ว่าทำไมถึงพูดแบบนี้ จึงให้ฝ่ายเจ้าบ่าวออกไปคุยปรึกษาหารือกันอีกครั้งที่หน้าบ้าน

ฝ่ายเจ้าบ่าวออกไปนั่งคุยกันสักพักแล้วก็พากันเดินออกไปขึ้นรถและขับออกจากงานไป พร้อมกับนำเงินสินสอดและสร้อยคอทองคำรูปพรรณหนัก 1 บาทไปด้วย  ทำให้เจ้าสาวถึงกับเป็นลมล้มพับญาติๆ ต้องช่วยกันปฐมพยาบาล

พอฟื้นขึ้นมาญาติเจ้าสาวจึงรีบนำตัวเข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.พิมาย ให้ช่วยติดตามตัวเจ้าบ่าวให้มารับผิดชอบกับการกระทำ ที่ทำให้ครอบครัวฝ่ายหญิงต้องเสียหายอับอายแขกที่มาร่วมงานจำนวนมาก รวมทั้งให้มารับผิดชอบกับค่าใช้จ่ายที่ฝ่ายเจ้าสาวเสียไปด้วย

ขณะที่กำลังให้ปากคำกับตำรวจอยู่นั้นญาติทางฝ่ายเจ้าสาวได้ติดต่อกับเจ้าบ่าวทางโทรศัพท์ และเรียกให้กลับมาเจรจากันที่สถานีตำรวจพิมาย แต่ฝ่ายเจ้าบ่าวไม่ยอมจนมีการโต้เถียงกันทางโทรศัพท์อีกครั้ง ในที่สุดฝ่ายเจ้าบ่าวได้ปิดโทรศัพท์และเดินทางกลับ จ.พิจิตร ทันที

พ.ต.ท.เด่นชัย ชำนาญในเมือง รองผกก.สส.สภ.พิมาย เปิดเผยว่า ตำรวจจะเรียกฝ่ายเจ้าบ่าวมาพูดคุยตกลงกันกับฝ่ายเจ้าสาว ถึงความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการจัดงานแต่งงาน โดยจากการสอบปากคำเบื้องต้นเจ้าสาวต้องการให้เจ้าบ่าวมารับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการจัดงาน ส่วนเงินสินสอดนั้นทางเจ้าสาวและญาติๆ ไม่ติดใจอะไร และได้แจ้งล้มเลิกงานแต่งงานให้ฝ่ายเจ้าบ่าวทราบไปแล้ว

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook