ตำรวจย้ำ! แต่งหน้า-กินอาหารขณะขับรถ ไม่ผิดกฎหมาย

โซเชียลแห่แชร์ พรบ.จราจรทางบกใหม่ แต่งหน้าและรับประทานอาหารขณะอยู่ในรถ ผิดกฎหมาย ตำรวจเผยแชร์กันมั่ว ขอชี้แจงข้อเท็จจริง
จากกรณีโซเชียลแห่แชร์ข้อมูลซึ่งโพสต์ว่า “พ.ร.บ.จราจรใหม่ ปรับหนักมากขึ้นโปรดระวังแต่งหน้าบนรถ ปรับ 2,000 บาท จำคุก 1 เดือน” ผู้สื่อข่าว PPTV จึงได้ทำการติดต่อสอบถามเจ้าหน้าที่ตำรวจผ่านรายการ ยกทัพบรรเทาทุกข์ ทางช่อง PPTV ว่าเป็นความจริงหรือไม่
พล.ต.ต. จิรพัฒน์ ภูมิจิตร รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ดูแลงานจราจร เปิดเผยว่า ตามที่มีการแชร์นั้นไม่เป็นความจริง โดยพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ปี 2522 ไม่ได้บัญญัติไว้โดยเฉพาะว่า การรับประทานอาหารหรือการแต่งหน้าขณะอยู่ในรถ เป็นความผิดโดยตรง ซึ่งแตกต่างจากการที่ใช้โทรศัพท์ขณะขับรถ
โดยมีกฎหมายบัญญัติไว้เป็นความผิดตามมาตรา 43(9) ตาม พรบ.จราจรทางบก ระบุไว้ว่าห้ามใช้โทรศัพท์ แต่การที่ขณะขับรถและรับประทานอาหาร หรือแต่งหน้าไปด้วย เป็นลักษณะการกระทำโดยปราศจากความระมัดระวัง ถือเป็นความผิดการกระทำโดยประมาท ตามประมวลอาญามาตรา 59 (4) การกระทำดังกล่าวถือเป็นความผิดในข้อหาขับรถโดยประมาท และอาจเกิดอันตรายแก่บุคคลหรือทรัพย์สิน จะมีความผิดตามมาตรา 43(4) ของ พ.ร.บ.จราจรทางบก มีโทษปรับ 400 - 1,000 บาท การขับรถของคนทั่วไปจะต้องใช้ความระมัดระวัง หากทำกิจกรรรมอื่นไปด้วย สมาธิในการขับรถหรือการระมัดระวังในท้องถนนอาจจะเสียไป
ทั้งนี้ จากการที่ได้พบเห็นโลกโซเชียลมีการแชร์ข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง จึงได้รีบอธิบายลงไปในช่องโซเชียลต่าง ๆ ของทางตำรวจจราจรนครบาล ทั้งทางเฟซบุ๊ก ไลน์ ช่องทางผู้สื่อข่าว สื่อมวลชนหลายแห่ง โดยชี้แจงว่า ข้อมูลที่ออกมาไม่เป็นความจริง ทำให้ประชาชนที่ใช้รถใช้ถนนอาจเข้าใจผิดได้
อย่างไรก็ตาม หากรถติดไฟแดง หยุดนิ่ง สามารถแต่งหน้าหรือรับประทานอาหารได้ แต่ถ้าในขณะที่ขับรถไปด้วยจะเข้าข่ายขับรถโดยปราศจากความระมัดระวัง ซึ่งบุคคลควรจะต้องทำตามวิสัย เข้าข่ายขับรถโดยประมาทอาจจะเกิดอันตราย ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถว่ากล่าวตักเตือนได้
หากไม่เชื่อฟังสามารถจับกุมและปรับเป็นเงินได้ ถ้าขับรถไปชนคนอื่นจนเสียหาย จะมีความผิดข้อหารถโดยประมาทเป็นเหตุให้ทรัพย์สินผู้อื่นได้รับความเสียหาย หากขับรถชนผู้อื่น หรือรถผู้อื่น แล้วมีผู้ได้รับบาดเจ็บ จะมีความผิดตามประมวลผลกฎหมายอาญา ตามมาตรา 390 มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 หนึ่งเดือน ปรับไม่เกิน 1,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ถ้าขับรถแล้วไปชน ทำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัส จะมีโทษตามประมวลผลอาญามาตรา 300 จำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ถ้าขับรถโดยประมาท ทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย จะมีโทษตามประมวลผลอาญา มาตรา 291 จำคุกไม่เกิน 10 ปี ปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ