ปดส.-ศดส.ยันไม่ทราบเรื่อง แม่-ลูก แสดงหนังเอ็กซ์ขาย

ตำรวจ 2 หน่วยงานทั้งปดส.และศดส.ออกมาปฏิเสธไม่เคยมีข้อมูลเรื่อง"แม่-ลูก"แสดงหนังเอ็กซ์โชว์การมีเพศสัมพันธ์ออกขาย ยันไม่เคยให้ข้อมูลมูลนิธิกระจกเงา

‏(19ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ความคืบหน้ากรณีมีข่าวสะท้อนความเสื่อมทรามสังคมไทย แม่ยอมมีเพศสัมพันธ์กับลูกแท้ๆของตัวเอง เพื่อแลกเงินค่าจ้างถูกเปิดเผยในวงเสวนาของมูลนิธิกระจกเงาวานนี้(18ก.พ.) โดยน.ส.ลัดดา ตั้งสุภาชัย ผอ.ศูนย์เฝ้าระวังทางวัฒนธรรม อ้างว่าได้รับข้อมูลจากกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดต่อเด็ก เยาวชนและสตรี (ปดส.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติว่ามีการจ้างผู้หญิงอายุประมาณ 40 ปี ให้มีเพศสัมพันธ์กับลูกชาย แล้วบันทึกลงแผ่นซีดีออกขายตามตลาดมืด ซึ่งได้รับเงินค่าจ้าง 5,000 บาท

ล่าสุดวันนี้ผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยัง บก.ปดส.ถึงการดำเนินคดีเรื่องดังกล่าว พล.ต.ต.ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย ผบก.ปดส. ปฏิเสธว่า ยังไม่มีข้อมูลซีดีลามกดังกล่าว อย่างที่น.ส.ลัดดากล่าวถึง และไม่เคยให้ข้อมูลดังกล่าวกับใคร ส่วนในฐานข้อมูลของปดส.นั้นก็ไม่มีตนเรียกผู้ใต้บัง คับบัญชามาสอบถามหมดแล้ว ซึ่งเรื่องดังกล่าวน่าเป็นของศูนย์สวัสดิภาพเด็ก เยาวชนและสตรี กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ศดส.บช.น.) ทำคดี และมีข้อมูลในส่วนนี้ เนื่องจากศดส.บช.น.จะประสานงานกับมูลนิธิกระจกเงา และกระทรวงวัฒนธรรมอยู่เสมอ

ด้าน พ.ต.อ.ชาติชาย วรกุล ผกก.ศดส. กล่าวว่า สำหรับหน่วยงานของตนยังไม่มีข้อมูลเรื่องนี้ และไม่ได้รับการร้องเรียนหรือประสานงานใดๆเลย เมื่อเห็นข่าวยังแปลกใจ นอกจากนี้เนื้อข่าวยังระบุด้วยว่าได้ข้อมูลจาก ปดส. แต่ปดส.ก็บอกว่ายังไม่มีข้อมูลเรื่องดังกล่าวเช่นกัน อย่างไรก็ตามถ้าศูนย์เฝ้าระวังทางวัฒนธรรม มีข้อมูลหรือหลักฐานที่เป็นวีซีดีดังกล่าว ก็สามารถนำมาให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบหาเบาะแสที่มาที่ไป และติดตามจับกุมผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีได้

"เรายังไม่มีข้อมูลส่วนนี้เลย เห็นแต่ในข่าวซึ่งก็ไม่มีรายละเอียดมากนัก และตัววีซีดีแม่กับลูกอย่างที่ว่านั้นเราไม่เคยเห็น ไม่รู้ว่าจะมีอยู่จริงหรือเปล่า อาจเป็นกลอุบายหรือวิธีการขายของพวกพ่อค้า หรือคนผลิตซีดีดังกล่าว ตั้งชื่อให้น่าสนใจ เชิญชวนคนแห่มาซื้อเยอะๆ เพราะเรื่องการมีเพศสัมพันธ์ระหว่างแม่กับลูกแท้ๆ ไม่ใช่เรื่องปกติของสังคม เป็นเรื่องผิดธรรมชาติมนุษย์ โดยเฉพาะคนไทย เมื่อได้ยิน ได้เห็นชื่อแม่กับลูกในเรื่องอย่างว่า ก็เกิดความอยากรู้อยากเห็นเป็นธรรมดา ส่วนพวกพ่อค้าก็ได้ขายของจำนวนมากขึ้น" พ.ต.อ.ชาติชาย กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากข่าวดังกล่าวถูกเผยแพร่ผ่านสื่อมวลชน ผู้บังคับบัญชาของทั้ง 2 หน่วยงาน ไม่ว่าจะเป็น พล.ต.ต.ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย ผบก.ปดส. ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.ณพวัฒน์ อารยางกูร ผกก.1 บก.ปดส. เป็นหัวหน้าทีมออกหาข้อมูลในเรื่องดังกล่าว ส่วน พ.ต.อ.ชาติชาย วรกุล ผกก.ศดส.บช.น. ก็สั่งการให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนออกหาข้อมูลเช่นกัน เพราะเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องที่เสื่อมเสียต่อสังคมไทยมาก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เรื่องดังกล่าวได้สอบถามความเห็นไปยังสื่อมวลชนสำนักต่างๆ รวมทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งศดส. และปดส.ว่าเรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นจริงหรือไม่ ซึ่งส่วนใหญ่ต่างให้ความเห็นว่าน่าเป็นการแต่งชื่อเรื่องขึ้นมาให้เกิดความสนใจมากกว่า และซีดีลามกที่เป็นข่าวดังกล่าวน่าจะเป็นของประเทศเพื่อนบ้าน อย่างเช่นหนังฮาร์ทคอร์ ของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งมีอยู่เกลื่อนเมือง และเกลื่อนเว็ปไซด์

 วธ.ชี้แม่มีเซ็กส์กับข้อมูลเก่า ครูอึ๊บเด็ก13ปีแซงหน้าแล้ว

‏(19ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ความคืบหน้ากรณีมีข่าวสะท้อนความเสื่อมทรามสังคมไทย แม่ยอมมีเพศสัมพันธ์กับลูกแท้ๆของตัวเอง เพื่อแลกเงินค่าจ้างถูกเปิดเผยในวงเสวนาของมูลนิธิกระจกเงาวานนี้(18ก.พ.) โดย น.ส.ลัดดา ตั้งสุภาชัย ผอ.ศูนย์เฝ้าระวังทางวัฒนธรรม อ้างว่าได้รับข้อมูลจากกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดต่อเด็ก เยาวชนและสตรี (ปดส.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติว่ามีการจ้างผู้หญิงอายุประมาณ 40 ปี ให้มีเพศสัมพันธ์กับลูกชาย แล้วบันทึกลงแผ่นซีดีออกขายตามตลาดมืด ซึ่งได้รับเงินค่าจ้าง 5,000 บาท

ล่าสุดวันนี้ผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยัง บก.ปดส.ถึงการดำเนินคดีเรื่องดังกล่าว พล.ต.ต.ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย ผบก.ปดส. ปฏิเสธว่า ยังไม่มีข้อมูลซีดีลามกดังกล่าว อย่างที่ น.ส.ลัดดากล่าวถึง และไม่เคยให้ข้อมูลดังกล่าวกับใคร ส่วนในฐานข้อมูลของปดส.นั้นก็ไม่มีตนเรียกผู้ใต้บัง คับบัญชามาสอบถามหมดแล้ว ซึ่งเรื่องดังกล่าวน่าเป็นของศูนย์สวัสดิภาพเด็ก เยาวชนและสตรี กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ศดส.บช.น.) ทำคดี และมีข้อมูลในส่วนนี้ เนื่องจากศดส.บช.น.จะประสานงานกับมูลนิธิกระจกเงา และกระทรวงวัฒนธรรมอยู่เสมอ

ด้าน พ.ต.อ.ชาติชาย วรกุล ผกก.ศดส. กล่าวว่า สำหรับหน่วยงานของตนยังไม่มีข้อมูลเรื่องนี้ และไม่ได้รับการร้องเรียนหรือประสานงานใดๆเลย เมื่อเห็นข่าวยังแปลกใจ นอกจากนี้เนื้อข่าวยังระบุด้วยว่าได้ข้อมูลจาก ปดส. แต่ปดส.ก็บอกว่ายังไม่มีข้อมูลเรื่องดังกล่าวเช่นกัน อย่างไรก็ตามถ้าศูนย์เฝ้าระวังทางวัฒนธรรม มีข้อมูลหรือหลักฐานที่เป็นวีซีดีดังกล่าว ก็สามารถนำมาให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบหาเบาะแสที่มาที่ไป และติดตามจับกุมผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีได้

"เรายังไม่มีข้อมูลส่วนนี้เลย เห็นแต่ในข่าวซึ่งก็ไม่มีรายละเอียดมากนัก และตัววีซีดีแม่กับลูกอย่างที่ว่านั้นเราไม่เคยเห็น ไม่รู้ว่าจะมีอยู่จริงหรือเปล่า อาจเป็นกลอุบายหรือวิธีการขายของพวกพ่อค้า หรือคนผลิตซีดีดังกล่าว ตั้งชื่อให้น่าสนใจ เชิญชวนคนแห่มาซื้อเยอะๆ เพราะเรื่องการมีเพศสัมพันธ์ระหว่างแม่กับลูกแท้ๆ ไม่ใช่เรื่องปกติของสังคม เป็นเรื่องผิดธรรมชาติมนุษย์ โดยเฉพาะคนไทย เมื่อได้ยิน ได้เห็นชื่อแม่กับลูกในเรื่องอย่างว่า ก็เกิดความอยากรู้อยากเห็นเป็นธรรมดา ส่วนพวกพ่อค้าก็ได้ขายของจำนวนมากขึ้น" พ.ต.อ.ชาติชาย กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากข่าวดังกล่าวถูกเผยแพร่ผ่านสื่อมวลชน ผู้บังคับบัญชาของทั้ง 2 หน่วยงาน ไม่ว่าจะเป็น พล.ต.ต.ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย ผบก.ปดส. ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.ณพวัฒน์ อารยางกูร ผกก.1 บก.ปดส. เป็นหัวหน้าทีมออกหาข้อมูลในเรื่องดังกล่าว ส่วน พ.ต.อ.ชาติชาย วรกุล ผกก.ศดส.บช.น. ก็สั่งการให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนออกหาข้อมูลเช่นกัน เพราะเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องที่เสื่อมเสียต่อสังคมไทยมาก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เรื่องดังกล่าวได้สอบถามความเห็นไปยังสื่อมวลชนสำนักต่างๆ รวมทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งศดส. และปดส.ว่าเรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นจริงหรือไม่ ซึ่งส่วนใหญ่ต่างให้ความเห็นว่าน่าเป็นการแต่งชื่อเรื่องขึ้นมาให้เกิดความสนใจมากกว่า และซีดีลามกที่เป็นข่าวดังกล่าวน่าจะเป็นของประเทศเพื่อนบ้าน อย่างเช่นหนังฮาร์ทคอร์ ของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งมีอยู่เกลื่อนเมือง และเกลื่อน เว็ปไซด์

ปดส.ตั้งชุดสอบซีดีเอ็กซ์แม่-ลูก

ขณะที่ พ.ต.อ.ณพวัฒน์ อารยางกูร ผกก.1 บก.ปดส. กล่าวว่าเรื่องนี้ ยังไม่ทราบเหมือนกันว่าเดิมแล้วเจ้าหน้าที่ศูนย์เฝ้าระวังทางวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม ประสานงานไว้กับใคร ซึ่งอย่างไรก็ตามหลังทราบข่าวแล้ว พล.ต.ต.ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย ผบก.ปดส. ก็ได้กำชับมาเพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ปดส. เข้าไปตรวจสอบข้อมูลอย่างเร็วที่สุด เนื่องจากถือว่าเป็นเรื่องผิดศิลธรรมร้ายแรง และก็ไม่น่าที่จะให้มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นในสังคมไทย เบื้องต้นตนได้สั่งการให้ พ.ต.ท.คณธัช มุสิกานนท์ รอง ผกก. 1บก.ปดส. ตั้งชุดขึ้นมาตรวจสอบแล้วว่ามีข้อเท็จจริงอย่างไรบ้าง โดยให้รายงานความคืบหน้าอย่างเร็วที่สุดอีกด้วย

วธ.ชี้แม่มีเซ็กส์กับลูก"ข้อมูล2ปีที่แล้ว

ด้าน น.ส. ลัดดา ตั้งสุภาชัย ผอ.ศูนย์เฝ้าระวังทางวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) เปิดเผยถึงการนำเสนอกรณีซีดีอุบาทว์ เกี่ยวกับการมีเซ็กส์ระหว่างแม่กับลูกแท้ๆ ว่า ตามที่ได้เสนอข้อมูลดังกล่าวออกไปนั้น เป็นข้อมูลจากการประชุมคณะอนุกรรมาธิการปราบปรามสื่อลามก โดยมีนาย วัลลภ ตังคณานุรักษ์ เป็นประธาน เมื่อ 2 ปี ที่แล้ว ซึ่งกรณี ซีดีลามกดังกล่าว เป็นกรณีศึกษาที่จากประชุม ซึ่งได้มีการหยิบยกขึ้นมานำเสนอ เพื่อหาแนวทางการป้องกันแก้ไข และขยายผลจับกุม สำหรับข่าวที่ออกไปนั้น เป็นการหยิบยกประเด็นตัวอย่างออกมาพูดคุยแลกเปลี่ยนปัญหาที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับเรื่องการถ่ายคลิ๊ปลามก ในการเสวนาของมูลนิธิกระจกเงาเท่านั้น

ผอ.เฝ้าระวังทางวัฒนธรรม กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ จากการที่สื่อมวลชนได้นำเสนอข่าวเกี่ยวกับครูสาวและลูกศิษย์มีเพศสัมพันธ์กันนั้นทางศูนย์เฝ้าระวังทางวัฒนธรรมก็ได้รับเรื่องร้องเรียนจากทางเครือข่ายผู้ปกครอง เกี่ยวกับการมีเพศสัมพันธ์ ระหว่างครูสาว กับลูกศิษย์จำนวนมาก ในหลากหลายรูปแบบ ทั้งนำเสนอเนื้อหา ภาพ นิยาย การ์ตูน คลิ๊ปวีดีโอ ทางสื่ออินเตอร์เน็ต มีรูปแบบทั้งการที่ครูเป็นผู้กระทำชำเราเด็กนักเรียน อาจารย์ใหญ่มีเซ็กส์กับเด็กในห้องพักครู เด็กนักเรียนรุมข่มขืนครู ภาพคลิ๊ปวีดีโอครูและศิษย์กำลังมีเพศสัมพันธ์กัน ซึ่งเป็นคลิ๊ปที่เป็นครูและศิษย์จากต่างประเทศ เป็นต้น

ทั้งนี้ จากการค้นหาต้นตอของการนำเสนอเนื้อหา รูปภาพดังกล่าว พบว่า ขณะนี้ในสื่ออินเตอร์เน็ต มีการเขียนนิยายของการมีเพศสัมพันธ์ ระหว่างครู และเด็ก เมื่อได้อ่านแล้ว พบว่า เนื้อหาของนิยายนั้นได้บรรยายการกระทำเป็นขั้นเป็นตอนที่เริ่มจากการพูดคุย การให้เด็กเข้ามาหาในห้องพักครู การที่ครูมีปฏิสัมพันธ์กับเด็กเกินเพื่อน จนถึงขั้นตอนของการมีเพศสัมพันธ์ซึ่งกันละกัน พร้อมทั้งมีการขู่นักเรียนว่าให้เก็บเรื่องการมีเพศสัมพันธ์ไว้เป็นความลับ

น.ส.ลัดดา กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตามเรื่องดังกล่าวเป็นสิ่งที่น่าเป็นห่วง เพราะขณะนี้ มีพฤติกรรมการมีเพศสัมพันธ์ระหว่างเด็กและครู เกิดขึ้นจริงๆแล้ว หากปล่อยไว้อาจจะเกิดขึ้นอีก เพราะนิยาย และคลิปวีดีโอลามกในโลกอินเตอร์เน็ตมีการแพร่หลายอย่างรวดเร็ว อาจเป็นภัยร้ายส่งผลให้เด็กในกลุ่มเสี่ยงเกิดจากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ มีพฤติกรรมเลียนแบบการกระทำดังกล่าวได้ ทั้งนี้จะนำเรื่องดังกล่าวเสนอต่อนายธีระ สลักเพชร รมว.วัฒนธรรมเพื่อ ประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในทางลับ เพื่อดำเนินการขยายผลจับกุมเว็บไซต์ ที่มีการนำเสนอนิยายลามก เป็นสิ่งที่ขัดต่อหลักศีลธรรม ซึ่งมีส่วนชี้นำเด็กให้เกิดพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม

"จากการที่นำเสนอและตีแผ่เกี่ยวกับสื่อลามกมาโดยตลอดนั้น เนื่องจากทางศูนย์เฝ้าระวังทางวัฒนธรรมได้รับเรื่องร้องเรียนมาจำนวนมาก และในฐานะที่เราทำหน้าที่ตรงนี้ก็จำเป็นจะต้องทำหน้าที่เป็นผู้รับเรื่อง กระตุ้น และประสานงานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการป้องกันและขยายผลต่อไป อีกประการหนึ่งที่สำคัญคือ อยากให้สังคมรับรู้ว่า ขณะนี้สังคมไทยกำลังอยู่ในภาวะวิกฤติทางสังคมที่เน่าเฟะ หากไม่มีการตีแผ่นำเสนอข่าวเหล่านี้ออกไป เรื่องที่เป็นภัยต่อสังคมก็จะถูกปล่อยปละละเลย และไม่มีหน่วยงานใดเข้ามารับผิดชอบอย่างจริงจัง" ผอ.เฝ้าระวังทางวัฒนธรรม กล่าว