โกลาหล บุกทลายปาร์ตี้มั่วยาริมสระ ไฟดับ-กุญแจรถเกราะหาย

โกลาหล บุกทลายปาร์ตี้มั่วยาริมสระ ไฟดับ-กุญแจรถเกราะหาย

โกลาหล บุกทลายปาร์ตี้มั่วยาริมสระ ไฟดับ-กุญแจรถเกราะหาย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

สุดโกลาหล บุกทลายปาร์ตี้มั่วยาริมสระ ไฟดับระหว่างจับกุม กุญแจรถเกราะทหารหาย รถตราโล่ถูกปล่อยลมยาง

กรณีเมื่อกลางดึก (1 ก.ค.) นายนริศ นิรามัยวงศ์ นอภ.บางละมุง จ.ชลบุรี พร้อมด้วย พ.ต.อ.อภิชัย กรอบเพชร ผกก.สภ.เมืองพัทยา พ.ต.ท.ปิยะพงษ์ เอนสาร สารวัตรตำรวจท่องเที่ยวเมืองพัทยา และ ร.ต.สุวิทย์ ลากลาง ผู้บังคับหมวด กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ สนธิกำลังบุกเข้าจับกุมกลุ่มวัยรุ่นนับร้อยคนที่เข้าไปมั่วสุมดื่มสุราและเสพยาเสพติดภายในคลับแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ในซอยเกษตรสิน ถนนพระตำหนัก พัทยาใต้ ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี

พร้อมกับยึดยาเสพติด อาทิ ยาเค ยาอี และยากล่อมประสาท ชนิดแฮปปี้ไฟว์ จำนวนมาก ก่อนแจ้ง 4 ข้อหาหนักกับ  “ดีเจบอล” อายุ 33 ปี ผู้จัดงาน และนายจิระพงษ์ อายุ 24 ปี ผู้ดูแลสถานที่ และคุมตัวนักเที่ยวทั้งชาย-หญิงประมาณ 150 คน ที่มีปัสสาวะสีม่วงไปตรวจสอบประวัติและคัดกรองที่ สภ.เมืองพัทยา

แต่ประเด็นที่น่าสนใจคือในขณะเจ้าหน้าที่กำลังควบคุมสถานการณ์และคัดแยกนักเที่ยวอยู่นั้น จู่ๆ ไฟฟ้าของสถานที่ดังกล่าวเกิดดับกะทันหัน ทำให้กลุ่มนักเที่ยวบางส่วนพยายามอาศัยความมืดเพื่อหลบหนี นอกจากนี้ยังมีรถยนต์ตราโล่ของเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอบางละมุง ถูกมือมืดปล่อยลมยางจนแบน ขณะกุญแจรถหุ้มเกราะของทหารก็ได้หายไปอย่างไร้ร่องรอย

ความคืบหน้าของเรื่องนี้เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 2 ก.ค.60 นายนริศ นิรามัยวงศ์ นอภ.บางละมุง จ.ชลบุรี เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวผ่านทางโทรศัพท์ว่า สำหรับประเด็นไฟฟ้าดับขณะเข้าจับกุมนั้นเป็นเรื่องจริง แต่ดับเพียง 10 นาทีเท่านั้น ซึ่งก็ไม่ได้มีผลหรือเป็นอุปสรรคต่อการปฏิบัติหน้าที่แต่อย่างใด ในเรื่องของกุญแจรถหุ้มเกราะของเจ้าหน้าที่ทหารที่หายไปนั้น จากการสอบถามผู้ใต้บังคับบัญชาและทหารเอง คาดว่าน่าจะหล่นหายในระหว่างที่ไล่กวดจับกลุ่มวัยรุ่นที่พยายามวิ่งหนี คงไม่มีใครขโมยไปแน่นอน ส่วนประเด็นรถยนต์ตราโล่ของเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองที่พบว่ายางแบนนั้น เบื้องต้นคาดว่าน่าจะมีคนแอบไปปล่อยลมยาง

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ทาง พ.ต.อ.อภิชัย กรอบเพชร ผกก.สภ.เมืองพัทยา กำลังตรวจสอบกล้องวงจรปิดของร้านดังกล่าวเพื่อใช้เป็นหลักฐานยืนยันอีกครั้ง ซึ่งเรื่องนี้ได้มีการลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานแล้ว แต่ขอยืนยันว่ากรณีนี้ไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการทำงานของเจ้าหน้าที่เลยแม้แต่น้อย ซึ่งหากมีมือมืดมาลักลอบปล่อยลมยางจริงก็น่าจะเป็นฝีมือกลุ่มวัยรุ่นที่เกิดความคึกคะนอง

ในส่วนของกลุ่มเยาวชนที่มาเที่ยวในสถานที่แห่งนี้มีทั้งคนในพื้นที่และนอกพื้นที่ โดยมีการนัดแนะกันทางเพจเฟซบุ๊กเชิญชวนให้มาร่วมงานปาร์ตี้คอนเสิร์ตกันอยู่เป็นระยะๆ แต่ไม่ได้มีการจัดกันเป็นประจำทุกวัน เกี่ยวกับกรณีนี้ทางเจ้าหน้าที่ทั้งฝ่ายปกครอง ทหาร ตำรวจ ได้มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลและตามแกะรอยหาข่าวกันอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่นที่รวมตัวกันจัดปาร์ตี้ยาอีและยาเคที่กำลังระบาดอยู่ในขณะนี้ ซึ่งหากพบว่ามีการนัดแนะจัดกันที่ไหน ทางเจ้าหน้าที่ก็จะไปดำเนินการจับกุมทันที ขณะที่นักเที่ยวกว่า 150 คน ที่ถูกควบคุมตัวนั้น จากการคัดกรองอย่างละเอียดพบว่า ผู้ที่มีสารเสพติดในร่างกายมีจำนวนทั้งสิ้น 139 คน แบ่งเป็นชาย 87 คน หญิง 52 คน ซึ่งภายหลังจะได้ส่งตัวเข้าสู่กระบวนการบำบัดเพื่อคืนคนดีกลับสู่สังคมต่อไป

“ฝากเตือนไปยังกลุ่มเยาวชนที่มาเที่ยวตามสถานบันเทิง ก็ขอให้รับประทานอาหารหรือดื่มเครื่องดื่มที่ไม่ผิดกฎหมายก็น่าจะเพียงพอแล้ว อย่าถึงกับขั้นมั่วสุมเสพยาเสพติดกันเลย เพราะหากถูกจับดำเนินคดีแล้วก็จะทำให้เสียประวัติ และมีผลต่อการทำงานในอนาคต” นายนริศ นิรามัยวงศ์ นอภ.บางละมุง กล่าว.

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook