โจรใต้ -บึ้มล่อ! ตร.รู้ทัน-กู้ได้ทัน

โจรใต้ลอบบึ้มถล่มร้านขายของชำกลางเมืองยะลา ล่อเจ้าหน้าที่ ขณะเข้าตรวจสอบเหตุระเบิดลูกแรกจนท.เจออีกลูกหนัก 10 ก.ก.ซุกในถังน้ำมัน เก็บกู้ได้ทัน ส่วนที่บันนังสตา คนร้ายดักยิงตชด.พลร่มค่ายนเรศวรสาหัส ขณะลาดตระเวนคุ้มครองความปลอดภัยให้ครูยะลา พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.นำคณะลงพื้นที่ เยี่ยมให้กำลังใจตำรวจที่บาดเจ็บ พร้อมร่วมงานพระราชทานเพลิงศพรองผกก. หนองจิกเหยื่อโจรใต้ อดุลย์ แสงสิงแก้ว จัดอบรมงานนิติวิทยา ศาสตร์ ช่วยเพิ่มให้งานด้านคดีไฟใต้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 19 ก.พ. เจ้าหน้าที่นำตัวส.ต.ท.วุฒิพงษ์ พายวงศ์ ตชด.รบพิเศษ ค่ายนเรศวร ซึ่งตั้งฐานปฏิบัติการที่บ้านตาเอียด ต.ตลิ่งชัน อ.บันนังสตา จ.ยะลา ส่งร.พ.ศูนย์ยะลา หลังถูกคน ร้ายไม่ทราบจำนวนใช้อาวุธปืนสงครามซุ่มยิงบาดเจ็บสาหัส ขณะปฏิบัติหน้าที่ลาดตระเวนเส้นทางรักษาความปลอดภัยครูในพื้นที่ เหตุเกิดที่ถนนสายบ้านลีจิง-บ้านหาดทราย หมู่ 3 ต.ตลิ่งชัน อ.บันนังสตา จนเกิดการยิงปะทะกันเป็นเหตุให้ส.ต.ท.วุฒิพงษ์ถูกยิงบาดเจ็บสาหัส

พ.ต.ท.ศิริกุล บุญยิ่ง รอง ผกก.ตชด.รบพิเศษ พลร่มค่ายนเรศวร กล่าวว่า ขณะเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ออกลาดตระเวนเส้นทางด้วยรถจักรยานยนต์ 4 คัน จำนวน 8 นาย เมื่อถึงที่เกิดเหตุเป็นพื้นที่สูง ถูกกลุ่มคนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้อาวุธปืนสงครามกราดยิงใส่ จนเกิดการยิงปะทะกัน และมีเจ้าหน้าที่บาดเจ็บ ส่วนกลุ่มคนร้ายหลบหนีไป

ด้านพล.ต.ท.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้ช่วย ผบ.ตร. กล่าวว่า ขณะนี้จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องนำหลักการทางนิติวิทยาศาสตร์มาใช้คลี่คลายคดี เพื่อนำตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษ ดังนั้นศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติส่วนหน้า จึงจัดทำโครงการอบรมให้ความรู้แก่กำลังพลตำรวจ ในสายงานปราบปรามการสืบสวนสอบสวน ให้รู้ถึงกระบวนการของการเก็บหลักฐานว่ามีขั้นตอนอย่างไร เพื่อให้เจ้าหน้าที่ทำงานได้ง่าย และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น จากการนำหลักนิติวิทยา ศาสตร์มาใช้ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ พบว่าประสบผลสำเร็จมาก เมื่อมีเหตุการณ์เกิดขึ้นจะต้องเร่งพิสูจน์หลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ ไม่ว่าจะลายนิ้วมือแฝง การตรวจดีเอ็นเอ การตรวจผลด้านอาวุธปืนและสะเก็ดระเบิดต่างๆ จากสถิติคดีความไม่สงบมีประมาณ 6,000 คดี ตรวจพิสูจน์หลักฐานได้ 3,700 คดี นำขึ้นศาล 160 คดี และศาลพิพากษาไปแล้ว

ผู้ช่วยผบ.ตร.กล่าวถึงความคืบหน้าคนร้ายลอบวางระเบิดถล่มตำรวจ ขณะเข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุที่ ต.ลำใหม่ อ.เมือง จ.ยะลา เมื่อวันที่ 18 ก.พ.ที่ผ่านมาว่า เจ้าหน้าที่สามารถยึดรถจักรยานยนต์ที่คนร้ายใช้ก่อเหตุได้ 2 คัน เบื้องต้นพบว่าเป็นรถจักรยานยนต์ที่ถูกโจรกรรมมา อยู่ระหว่างการตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติม เพื่อนำไปใช้เป็นหลักฐานติดตามตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษต่อไป

เมื่อเวลา 12.40 น. ที่ร.พ.ศูนย์ยะลา พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. พร้อมด้วยพล.ต.อ.วิโรจน์ พหลเวชช์ รอง ผบ.ตร. และพล.ต.ท.อดุลย์เดินทางเข้าเยี่ยมตำรวจที่บาดเจ็บจากเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ จำนวน 5 นาย เพื่อบำรุงขวัญและกำลังใจ

พล.ต.อ.พัชรวาทกล่าวว่า ตั้งแต่ปี 2547 มีตำรวจเสียชีวิต 214 นาย บาดเจ็บเกือบ 1,000 นาย แต่เจ้าหน้าที่ยังคงปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเข้มแข็งและเต็มความสามารถ จากการสอบถามตำรวจที่บาดเจ็บต่างยังมีขวัญและกำลังใจดี ส่วนกรณีที่ขณะนี้เกิดเหตุรุนแรงมากขึ้น ตนย้ำไปยัง พล.ต.ท.อดุลย์ว่าต้องไปวิเคราะห์ว่าสาเหตุที่เริ่มกลับมารุนแรงอีกในช่วงต้นปีที่ผ่านมาเกิดจากอะไร แต่เมื่อพิจารณาจำนวนเหตุการณ์ในช่วงเดียวกันของปีที่แล้วก็น่าจะใกล้เคียงกัน อยู่ในระหว่างการวิเคราะห์ว่าเป็นเพราะเหตุใด

จากนั้นเวลา 16.00 น. ที่วัดหงส์ประดิษฐาราม ต.คอหงส์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา พล.ต.อ.พัชรวาทอัญเชิญเพลิงพระราชทานวางหน้าหีบศพ พ.ต.ท.ยุทธการ เปลี่ยนโพธิ์ อายุ 51 ปี รอง ผกก.ป.สภ.หนองจิก จ.ปัตตานี ที่เสียชีวิตจากเหตุระเบิดเมื่อวันที่ 12 ก.พ.ที่ผ่านมา ในพิธีพระราชทานเพลิงศพ โดยมีข้าราชการตำรวจ หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนร่วมไว้อาลัยจำนวนมาก

เมื่อเวลา 16.05 น. พ.ต.อ.เอกกฤต วิริยะภาพ ผกก.สภ.เมือง จ.ยะลา รับแจ้งเหตุระเบิดที่ปากซอยเทศบาล 8 ถนนผังเมือง 3 เขตเทศบาลนครยะลา จึงนำกำลังตำรวจ ทหาร และชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดรุดไปยังที่เกิดเหตุ พบรถจักรยานยนต์ต้องสงสัยจอดอยู่ใกล้จุดเกิดเหตุ เป็นรถจักรยานยนต์ฮอนด้า รุ่นดรีม สีดำ ทะเบียน น 7320 ยะลา ทราบภายหลังเป็นรถที่ถูกขโมยมา เจ้าหน้าที่จึงใช้เครื่องตรวจสอบวัตถุระเบิด ปรากฏว่าเครื่องตอบสนอง ก่อนจะกั้นโดยรอบแล้วเข้าตรวจสอบ สามารถตัดวงจรระเบิดไว้ได้ ตรวจสอบพบดินระเบิด และปุ๋ยยูเรียในถังน้ำมัน ต่อสายจุดชนวนด้วยรีโมตคอนโทรล น้ำหนักประมาณ 10 ก.ก. อานุภาพทำลายล้างรุนแรง

จากการตรวจสอบที่บริเวณเก้าอี้หินขัด ที่หน้าบ้านเลขที่ 57 เป็นร้านขายของชำ พบว่าแรงระเบิดทำให้เก้าอี้หินขัดเสียหาย และกระจกของร้านแตกเสียหาย สันนิษฐานว่าคนร้ายวางระเบิดลูกเล็กเอาไว้บนเก้าอี้ แล้วจุดชนวนระเบิดให้เกิดเสียงดัง เพื่อล่อให้เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ และจุดชนวนระเบิดในรถจักรยานยนต์ถล่มซ้ำหวังสังหารหมู่ แต่เจ้าหน้าที่ตรวจพบเสียก่อน

ต่อมาพ.ต.อ.เอกกฤตสั่งการให้ พ.ต.ต.สุจริต วงษาเกต สว.สส.ภ.จว.ยะลา ประสานเจ้าหน้าที่ควบคุมกล้องวงจรปิดซึ่งในจุดเกิดเหตุมีกล้องวงจรปิด 2 กล้อง เชื่อว่าสามารถบันทึกภาพของคนร้ายเอาไว้ได้