จับเพิ่มอีก 2 แก๊งคอลเซ็นเตอร์ลวงเหยื่อโอนเงินผ่านเอทีเอ็ม
จับอดีตพนักงานขายบัตรเครดิตฉกเอกสารลูกค้าก่อนนำไปสวมรอยสมัครบัตรเครดิตพร้อมของกลางเพียบ มูลค่าความเสียหาย 11 ล้านบาท ผู้การปศท.เตือน ประชาชนตรวจสอบก่อนมอบเอกสารให้ทำการ
ที่บก.ปศท.วันที่ 20 ก.พ. เวลา 11.30 น. พ.ต.อ.พิทักษ์ สุวรรณ รองผู้บังคับการปราบปรามอาชญากรรมทางเศรษฐกิจและเทคโนโลยี รอง ผบก.ปศท.,พ.ต.อ.ธงชัย วงศ์ศรีวัฒนกุล ผกก.1 บก.ปศท.,พ.ต.ต.อรรณพ อิ่มอุดม สว.ช่วยราชการ บก.ปศท. ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมนายนิวัฒน์ หรือปวิช สุวรรณา อายุ 30 ปี อยู่ที่ 109/42 หมู่ 2 ต.บางรักพัฒนา อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี พร้อมของกลาง บัตรเครดิตธนาคารต่างๆ จำนวน 11 ใบ บัตรเดบิทธนาคารต่างๆ จำนวน 5 ใบ สมุดบัญชีเงินฝากธนาคารต่างๆ จำนวน 7 เล่ม บัญชีรายชื่อลูกค้าจำนวน 52 แผ่น เอกสารการสมัครบัตรเครดิตธนาคารต่างๆ จำนวน 146 ชุด และของกลางอื่นๆ อีกรวม 9 รายการ
การจับกุมครั้งนี้ สืบเนื่องจากผู้ต้องหาเคยเป็นพนักงานตัวแทนขายบัตรเครดิตธนาคารแห่งหนึ่ง โดยผู้ต้องหาจะแอบทำสำเนาเอกสารหลักฐานของลูกค้าที่ติดต่อสมัครบัตรเครดิตและปลอมลายมือชื่อแต่งเติมเอกสารหนังสือรับรองต่างๆ ขึ้นมาใหม่ แล้วไปยื่นสมัครกับบัตรเครดิตธนาคารอื่นๆ อีก โดยที่ลูกค้าไม่รู้เรื่อง หลังจากธนาคารอนุมัติบัตรเครดิตให้เพราะเชื่อในหลักฐานและสถานะของลูกค้าตามเอกสารที่ผู้ต้องหาแอบนำไปยื่น ผู้ต้องหาจะไปรับบัตรเครดิตจากธนาคารแล้วนำไปใช้ชำระค่าสินค้าต่างๆ
จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า สร้างความเสียหายให้ธนาคารต่างๆ เป็นวงเงินถึง 11 ล้านบาท เจ้าหน้าที่จึงนำกำลังเข้าจับกุมได้เมื่อเวลา 14.30 น.วานนี้ (19 ก.พ.)
จากการสอบสวนนายนิวัฒน์ให้การรับสารภาพว่า กำลังจะเปิดบริษัทห้างหุ้นส่วนจำกัดทำธุรกิจเกี่ยวกับเครื่องปรับอากาศ ก่อนถูกจับกุมได้แอบเอาหลักฐานของผู้เสียหายไปทำบัตรเครดิตแล้ว จำนวน 15 ราย และอยู่ระหว่างขั้นตอนการดำเนินการยื่นเรื่องไปยังธนาคารต่างๆ เพื่อขอทำบัตรเครดิตอีก 146 ราย
พล.ต.ต.โกวิทย์ วงศ์รุ่งโรจน์ ผบก.ปศท.กล่าวว่า จากการตรวจสอบประวัติของนายนิวัฒน์ พบว่าเจ้าตัวถูกออกหมายจับในข้อหาลักษณะเดียวกันในท้องที่ สน.บางซื่อ จำนวน 2 หมายจับ และ สน.ยานนาวา อีก 1 หมายจับ จึงขอเตือนให้ประชาชนระมัดระวังในการสมัครบัตรเครดิต ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของธนาคาร ก่อนที่จะมอบเอกสารส่วนตัวต่างๆ ให้ มิฉะนั้น อาจตกเป็นลูกหนี้ธนาคารโดยไม่รู้ตัว และการมอบสำเนาเอกสารควรจะต้องมีการขีดคร่อมและระบุวัตถุประสงค์ในการใช้ เพื่อป้องกันไม่ให้มีการนำเอกสารไปทำสำเนาเพิ่มเติมโดยไม่ได้รับอนุญาต
กองปราบจับเพิ่มอีก2แก๊งคอลเซ็นเตอร์ลวงเหยื่อโอนเงินผ่านเอทีเอ็ม
เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ต.อ.กิตติศักดิ์ สุขวัฒน์ธนกุล ผกก.5 บก.ป. ได้สั่งการให้ พ.ต.ต.วันชัย ชัยชูโชติ สว.กก.5 บก.ป.นำกำลังเข้าจับกุมตัว นายรชฏ กระแสสินธุ์ อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 13/4 หมู่2 ต.ท่าผา อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี และน.ส.กุมภา สุสี อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 32/4 หมู่ 2 ต.หนองอ้อ อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ทั้งสองเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญาที่ 3544 และ3540/2550 ลงวันที่ 2 ธันวาคม 2550 ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน โดยจับกุมตัวทั้งสองได้ที่บ้านพักในจ.ราชบุรี
การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2551 ที่ผ่านมาทางตำรวจกองปราบปรามได้ทำการจับกุมตัวผู้ต้องหาชาวไทยกว่า 40 คน ที่ไปร่วมขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่ประเทศจีน โทรศัพท์ข้ามประเทศหลอกลวงผู้เสียหายหลายรายที่มีบัตรเอทีเอ็ม หรือบัตรเครดิต ให้หลงเชื่อว่าเป็นเจ้าหน้าที่ธนาคารชาติ และแจ้งว่าบัญชีของผู้เสียหายถูกล้วงข้อมูลบัตร ก่อนให้ผู้เสียหายไปทำธุรกรรมแก้ไขข้อมูลส่วนตัวผ่านตู้เอทีเอ็ม ซึ่งที่จริงแล้วเป็นการหลอกให้ผู้เสียหายโอนเงินไปให้แก๊งดังกล่าว
ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ทำการสอบสวนขยายผลทราบจนว่าผู้ต้องหาทั้งสองซึ่งเกี่ยวข้องกับขบวนการดังกล่าวและยังไม่ถูกจับกุม จึงได้ทำการสืบสวนติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีได้ดังกล่าว จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้งสองให้การปฏิเสธ จึงควบคุมตัวทั้งสองส่งพนักงานสอบสวนกองปราบปรามรับไว้ดำเนินคดีต่อไป
