ผบ.คุกมีนบุรีเผย "แก๊งยันหว่าง" อยู่ปกติดี ไม่ก่อปัญหา

ผบ.คุกมีนบุรีเผย "แก๊งยันหว่าง" อยู่ปกติดี ไม่ก่อปัญหา

ผบ.คุกมีนบุรีเผย "แก๊งยันหว่าง" อยู่ปกติดี ไม่ก่อปัญหา
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ผบ.เรือนจำมีนบุรี เผย 4 ผู้ต้องหา "แก๊งยันหว่าง" ปกติดีไม่ก่อปัญหา ชี้เรือนจำมีระเบียบชัดเจนสร้างความวุ่นวายไม่ได้ คาด 1 เดือนปรับตัวได้

นายสมภพ สังคุตแก้ว ผบ.เรือนจำพิเศษมีนบุรี กล่าวว่า ภายหลังการรับตัว นายโสภณ อายุ 36 ปี, นายรัตนเทพ อายุ 21 ปี, นายปกรณ์ อายุ 24 ปี และนายสิทธิชัย อายุ 24 ปี ผู้ต้องหา "แก๊งยันหว่าง" ที่ก่อเหตุทำร้ายร่างกาย เจ้าหน้าที่ตำรวจ และอาละวาดบน สน.สายไหม และศาลมีนบุรี สั่งส่งตัว เข้ามาที่เรือนจำมีนบุรี วานนี้ ว่า กลุ่ม ผู้ต้องหา "แก๊งยันหว่าง" เข้าเป็นผู้ต้องขังใหม่ ยังไม่มีรายงานการก่อปัญหาใดๆ เนื่องจากในเรือนจำมีระบบการควบคุมตัวและระเบียบวินัยชัดเจน ผู้ต้องขังไม่สามารถสร้างความวุ่นวายได้ เพราะเกรงกลัวต่อโทษทางวินัย

โดยในช่วงแรกผู้ต้องขังใหม่จะได้รับการปฏิบัติเช่นเดียวกับผู้ต้องขังทั่วไป คือ ตรวจร่างกาย ตรวจสุขภาพ และทำประวัติ ในขั้นตอนการรับตัวเจ้าหน้าที่จะแนะนำวิธีปฏิบัติตัวในเรือนจำ คาดว่าผู้ต้องขังใหม่ต้องใช้เวลาประมาณ 1 เดือนจึงจะสามารถปรับตัวเข้ากับสภาพความเป็นอยู่ในเรือนจำได้

ตำรวจเร่งหาหลักฐานเหตุ 4 ผู้ต้องหาถูกรุมทำร้าย

พ.ต.ท.นริศ ปราถนาพร รองผู้กำกับสืบสวนสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลสายไหม เปิดเผยถึงกรณีกลุ่มวัยรุ่น 4 คน ที่ก่อเหตุป่วนบน สน.สายไหม ว่าเจ้าของปั๊มน้ำมันที่กลุ่มวัยรุ่นมีเรื่องด้วยก่อนมาที่ สน.สายไหม เข้าแจ้งความเมื่อวาน ข้อหาทำร้ายร่างกาย เนื่องจากถูกชกก่อนที่ตำรวจจะมาถึงที่ปั๊ม 

นอกจากนี้เมื่อวาน นายโสภณ ทับหิรัญ 1 ในผู้ต้องหา รับสารภาพด้วยว่าเป็นคนเตะตำรวจที่ปั๊มน้ำมัน ส่วนประเด็นการดำเนินการกับกลุ่มกู้ภัยที่รุมทำร้ายผู้ต้องหา อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน เช่นเดียวกับการตามหาพยานบุคคลในที่เกิดเหตุ เนื่องจากที่ปั๊มน้ำมันมีพยานแวดล้อมหลายคนถ่ายคลิปเหตุการณ์ไว้ หากได้คลิปเหตุการณ์มาทุกอย่างจะชัดเจน เพราะกล้องวงจรปิดของปั๊มไม่สามารถจับภาพเหตุการณ์ได้เนื่องจากเป็นมุมอับ

ส่วนหลักฐานสำคัญคือก้นบุหรี่ที่อยู่ระหว่างตรวจดีเอ็นเอ เพื่อจะยืนยันว่า กลุ่มผู้ต้องหาเข้าไปสูบบุหรี่ในปั๊มจนทำให้ถูกตักเตือนและบานปลายเป็นเหตุทะเลาะวิวาท พร้อมยอมรับว่ายังต้องเรียกพยานมาสอยปากคำอีกหลายปาก และอาจเพิ่มข้อหาในภายหลังแต่ต้องดูตามพยานหลักฐานที่ปรากฏ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook