เฒ่าเปิบพิสดาร-กินจิ้งจกเป็นๆ

เฒ่าเปิบพิสดาร-กินจิ้งจกเป็นๆ

เฒ่าเปิบพิสดาร-กินจิ้งจกเป็นๆ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นายหล้า อ้ายดิบ อายุ 76 ปี ชาวอ.ป่าแดด จ.เชียงราย โชว์เปิบจิ้งจกเป็นๆ เพราะเชื่อว่าเป็นยาชูกำลัง นอกจากนี้ยังกินไส้เดือนและหนูแดงเป็นอาหารอีกด้วย ขณะที่แพทย์ออกมาเตือนไม่ควรกินสัตว์เป็นๆ เพราะจะมีพยาธิ เมื่อวันที่ 22 ก.พ.

เมื่อวันที่ 22 ก.พ. ผู้สื่อข่าวรายงานจากหมู่บ้านศรีมงคล หมู่ 2 ต.ศรีโพธิ์เงิน อ.ป่าแดด จ.เชียงราย พบชายชรากินสัตว์ประเภทจิ้งจก หนูตัวเล็ก ไส้เดือน บำรุงร่างกาย จึงไปตรวจสอบพบนายหล้า อ้ายดิบ อายุ 76 ปี อยู่บ้านเลขที่ 231 หมู่บ้านศรีมงคล อาศัยอยู่กับนางเป็ง อ้ายดิบ อายุ 81 ปี ภรรยา และนางปั๊ด อ้ายดิบ อายุ 77 ปี พี่สาวของนายหล้า ซึ่งนายหล้าหาเลี้ยงภรรยาและพี่สาวด้วยการรับจ้างแบกหามพืชผลทางการเกษตร โดยยังคงมีร่างกายแข็งแรงเหมือนคนหนุ่ม โดยนายหล้านิยมกินสัตว์ประเภทจิ้งจก หนูตัวเล็ก ไส้เดือน หรือที่ภาษาเหนือเรียกว่า ขี้ตืกฟ้า เพราะเชื่อว่าช่วยบำรุงร่างกายไม่ให้เจ็บป่วย มีพละกำลังเพิ่มมากขึ้น ซึ่งนายหล้าจะใช้เวลาว่างจับจิ้งจกตามฝาบ้านกินสดๆ เป็นอาหาร ส่วนลูกหนูตัวเล็กๆ สีแดง หากได้มาก็จะกลืนลงท้องสดๆ โดยไม่เคี้ยว

นายหล้ากล่าวว่า ตนมีลูก 3 คน โดย 2 คนแยกครอบครัวไปแล้ว ส่วนคนสุดท้องติดเกณฑ์ทหารและประสบอุบัติเหตุสมองกลายเป็นคนไม่สมประกอบ สำหรับการกินที่คนมองว่าพิสดารนั้นถือเป็นเรื่องยึดถือปฏิบัติมาตั้งแต่เป็นเด็ก โดยพ่อแม่สอนให้กิน เพราะเชื่อว่าจะช่วยบำรุงร่างกายไม่ให้เจ็บป่วย และทำให้มีพละกำลังแข็งแรง ทำงานหนักได้โดยไม่เจ็บป่วย ส่วนวิธีการกินไม่ต้องเคี้ยวให้กลืนลงคอทั้งเป็นๆ ซึ่งตลอดชีวิตของตนไม่เคยเจ็บป่วยเลยแม้แต่ครั้งเดียว และยังรับจ้างทำงานหนัก ทำไร่ ทำนาได้อีกด้วย

ด้านนายกฤษฎา กันทะวัง กำนันต.ศรีโพธิ์เงิน กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ไม่ทราบว่านายหล้ากินจิ้งจกเป็นๆ กระทั่งวันประชุมมีจิ้งจกตกลงที่ขาของนายหล้า นายหล้าจึงใช้มือจับและกลืนลงท้องทันที จนตนและเพื่อนชาวบ้านที่ร่วมประชุมแปลกใจกันทุกคน หลังจากนั้นทุกคนจึงทราบว่านายหล้าเป็นคนชอบเปิบพิสดารดังกล่าว

น.พ.สุรินทร์ สุมนาพันธ์ ผู้ช่วยนายแพทย์สาธารณสุข จ.เชียงราย กล่าวว่า การรับประทานสัตว์เป็นๆ เป็นความเชื่อส่วนตัวว่าจะช่วยบำรุงกำลังหรือบางคนนิยมกินกับเครื่องดื่มบำรุงกำลังต่างๆ ด้วย ซึ่งในเชิงลึกแล้ววงการแพทย์ก็ไม่ได้ศึกษาถึงเรื่องนี้อย่างจริงจัง กระนั้นก็คาดว่าเนื้อของสัตว์ประเภทต่างๆ เหล่านี้คงจะไม่แตกต่างจากสัตว์ทั่วไปคือมีประเภทโปรตีนเป็นส่วนใหญ่เท่านั้น ดังนั้น จึงไม่ใช่ตัวยาชูกำลังหรือบำรุงร่างกายแต่อย่างใด อย่างไรก็ตามเมื่อเป็นความเชื่อส่วนตัวก็คงจะไปห้ามปรามไม่ได้ เพียงแต่ขอเตือนให้ระมัดระวังในเรื่องของความสะอาดและการบริโภคอาหารดิบๆ ก็จะได้รับอันตรายจากพยาธิได้

"ลักษณะของการกินสัตว์ประเภทนี้เข้าข่ายเป็นโรคจิตชนิดหนึ่งเหมือนกัน และเป็นประเภทเดียวกับผู้ที่เชื่อว่ารับประทานเนื้อสุนัขแล้วจะอบอุ่นในฤดูหนาว สำหรับกรณีการกินจิ้งจกและหนูแดงอาจจะมีอันตรายจากพยาธิด้วย ไม่สมควรที่ผู้พบเห็นจะไปลอกเลียนแบบเพื่อหวังจะบำรุงกำลังเหมือนกัน เพราะแต่ละคนมีสภาพร่างกายแตกต่างกัน"

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook