พลิกแฟ้มคดีดัง-ชิงทรัพย์ ฆ่าข่มขืน...ภัยสาวหอพัก : ภัยสาวหอพัก

พลิกแฟ้มคดีดัง-ชิงทรัพย์ ฆ่าข่มขืน...ภัยสาวหอพัก : ภัยสาวหอพัก

พลิกแฟ้มคดีดัง-ชิงทรัพย์ ฆ่าข่มขืน...ภัยสาวหอพัก : ภัยสาวหอพัก
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

สภาพเศรษฐกิจที่กำลังดิ่งเหว ส่งผลกระทบร้ายแรงกับธุรกิจต่างๆ สถานประกอบการหลายแห่งต้องปิดกิจการลง ส่วนที่ยังพอดำรงอยู่ได้ก็ต้องปรับลดพนักงาน

เพื่อหวังพยุงฐานะบริษัทให้ดำรงอยู่ต่อไปได้ ทำให้ขณะนี้มียอดคนตกงานพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ด้วยสภาพการณ์ดังกล่าวส่งผลกระทบต่อสังคมอย่างรุนแรง ปัญหาอาชญากรรม โดยเฉพาะคดีที่เกี่ยวกับทรัพย์ ทั้งลัก... วิ่ง... ชิง... ปล้น... เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง

จากสถิติพบว่า ตามหอพัก อพาร์ตเมนต์ คอนโดมิเนียม แฟลต และแมนชั่นต่างๆ เป็นสถานที่ลำดับต้นๆ ที่มักเกิดเหตุทำนองนี้บ่อยครั้ง

หลายคดีผู้ที่ตกเป็นเหยื่อโดยเฉพาะรายที่เป็นผู้หญิง นอกจากจะเสียทรัพย์สินแล้ว ยังต้องเสียตัว บางรายถึงกับสังเวยชีวิต

คดีสดๆ ร้อนๆ ที่เกิดขึ้นกลางเมืองหลวง ย้อนเวลากลับไปไม่ไกล เมื่อปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมา น.ส.ศศิวิมล เพชรศรี หรือหนิง นักศึกษาสาวชั้นปีที่ 3 มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต วัย 21 ปี ถูกนายประภาส แสงขาว พนักงานฝ่ายสินเชื่อบัตรเครดิตธนาคารชื่อดัง บุกห้องพักเลขที่ 810 อาคารสยามเฮ้าส์อพาร์ตเม้นต์ ย่านพัฒนาการ ข่มขืนกระทำชำเราจนสำเร็จความใคร่ แล้วใช้มีดปาดคอฆ่าปิดปาก ก่อนจะชิงทรัพย์โทรศัพท์มือถือของผู้ตายเป็นของแถม

ก่อนหน้านั้นไม่นาน น.ส.ภานุภัณฑ์ จันสิง เด็กสาววัย 22 ปี นักศึกษาคณะรัฐศาสตร์มหาวิทยาลัยรามคำแหง ซึ่งพักอาศัยอยู่ห้องเช่าเลขที่ 307 ชั้น 3 อาคาร 96 คอนโดมิเนียม ซอยลาดพร้าว 96 แขวงและเขตวังทองหลาง ก็ถูกคนร้ายดอดเข้าไปในห้องพักหวังขโมยทรัพย์สิน แต่ผู้ตายผิวพรรณหน้าตาดี และอยู่ในห้องพักตามลำพัง คนร้ายจึงปลุกปล้ำข่มขืน ผู้ตายดิ้นรนต่อสู่ปกป้องความสาวจึงถูกคนร้ายใช้สายไฟเตารีดรัดคอจนขาดใจตาย

ไม่ใช่เฉพาะหญิงสาววัยละอ่อนเท่านั้นที่เป็นเป้าหมายของโจรหอพัก แม้กระทั่งหญิงสูงวัยอย่างนางจิระพรรณ แเกมสะเตียม อายุ 50 ปี ก็ถูกคนร้ายฆ่าข่มขืน หมกศพไว้ใต้เตียงภายในห้องเลขที่ 310 ชั้น 3 อาคารรุ่งทรัพย์คอนโดทาวน์ แขวงคลองถนน เขตสายไหม แล้วกวาดเอาทรัพย์สินภายในห้องพักไปจำนวนหนึ่ง

คดีอาชญากรรมประเภทนี้เกิดขึ้นถี่ยิบในเมืองหลวงอย่างกรุงเทพมหานคร ซึ่งไม่ใช่เพิ่งเกิดแต่มีมาอย่างต่อเนื่องไม่ขาดระยะ

ย้อนหลังไปเมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2543 ขณะ น.ส.ดวงใจ ไทยเจริญ อายุ 27 ปี กำลังนอนหลับพักผ่อนอยู่ภายในห้องเลขที่ 66/27 ชั้น 6 อาคารพระโขนงแมนชั่น เลขที่ 66 ถนนสุขุมวิท แขวงพระโขนง เขตวัฒนา ก็ถูกคนร้ายดอดเข้าไปในห้องพักแล้วฉวยโอกาสขณะเหยื่อหลับกระทำมิดีมิร้าย แต่สวรรค์ล่ม เหยื่อกามรู้สึกตัวเสียก่อนจึงตะโกนให้คนช่วย

คนร้ายเห็นจวนตัวจึงคว้าครกดินเผาฟาดศีรษะ น.ส.ดวงใจ จนเลือดอาบ ก่อนจะใช้มีดจ้วงแทง น.ส.ดวงใจ จนขาดใจตาย แล้วรื้อค้นเอาทรัพย์สินมีค่าทั้งเงินสดและทองรูปพรรณติดมือไปก่อนหลบหนี

ชุดสืบสวนของกองบัญชาการตำรวจนครบาล นำโดย พล.ต.ต.กฤษฎา พันธุ์คงชื่น ผบก.น.5 (ยศและตำแหน่งในขณะนั้น) ระดมกำลังไล่ล่าคนร้ายอยู่นานร่วม 2 เดือน ก่อนจะจับกุมนายอรุณศักดิ์ พุทศิริ หรืออั๋น เด็กหนุ่มวัย 21 ปี ฆาตกรหื่นกามรายนี้ได้ขณะกบดานอยู่ในชุมชนบ่อนไก่ ย่านถนนพระราม 4 แขวงลุมพินี เขตคลองเตย

ฆาตกรรายนี้รับสารภาพอย่างหน้าตาเฉยว่า เพิ่งออกจากคุกในข้อหาพยายามฆ่า ไม่มีงานทำและไม่มีเงินใช้ จึงแอบเข้าไปในแมนชั่นที่เกิดเหตุ เดินไล่บิดลูกบิดประตูห้องพักต่างๆ กระทั่งมาถึงห้องพักของผู้ตาย พบว่าไม่ได้ล็อกประตูจึงเข้าไปในห้องหวังขโมยทรัพย์สิน

บังเอิญเห็นผู้ตายนอนหลับอยู่บนเตียงในลักษณะเสื้อผ้าหลุดลุ่ย ทำให้เกิดอารมณ์ทางเพศ ระหว่างพยายามข่มขืน ผู้ตายเกิดรู้สึกตัวตะโกนร้องโวยวาย จึงต้องฆ่าทิ้ง

หลังถูกจับกุม นายอรุณศักดิ์ถูกศาลพิพากษาประหารชีวิต แต่เมตตาลดโทษให้กึ่งหนึ่งเหลือจำคุกตลอดชีวิต เพราะนายอรุณศักดิ์รับสารภาพ ปัจจุบันยังถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำบางขวาง

คดีดังกล่าวปลุกกระแสให้สังคมเรียกหาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินกันอย่างกว้างขวาง ขณะที่ตำรวจเองก็เอาจริงเอาจังในการกำกับควบคุมให้อาคารที่พักต่างๆ ต้องให้ความสำคัญในการรักษาความปลอดภัยแก่ผู้พักอาศัย

ประตูคีการ์ด เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย กล้องโทรทัศน์วงจรปิด รวมไปถึงมาตรการรักษาความปลอดภัยต่างๆ ถูกคิดค้นนำมาใช้เพื่อดูแลความปลอดภัยให้แก่ผู้พักอาศัย ซึ่งถือปฏิบัติกันอย่างเข้มงวดอยู่ระยะหนึ่ง แต่เมื่อเวลาผ่านไปมาตรการรักษาความปลอดภัยต่างๆ ก็คลายลง โจรผู้ร้ายก็กลับมาลงมือได้อีก

อย่างเมื่อกลางเดือนมิถุนายน 2546 หญิงสาววัย 26 ปี บ้านเดิมอยู่ จ.จันทบุรี ชื่อ น.ส.สุพัชตรา ปันพรม ถูกพบกลายเป็นศพห่อด้วยผ้าปูที่นอนซุกอยู่ที่ซอกกำแพงอาพาร์ตเมนต์ไม่มีชื่อ เลขที่ 442/21 หมู่ 4 ซอยพหลโยธิน 52 แขวงคลองถนน เขตสายไหม โดยมีน้ำอสุจิอยู่เต็มช่องคลอด

พ.ต.อ.อนันต์ ศรีหิรัญ รอง ผบก.น.2 (ยศและตำแหน่งในขณะนั้น) นำทีมสืบสวนเข้าคลี่คลายคดี กระทั่งสามารถจับกุมนายอภิชาต กอบเกียรติถวิล หรือหยก ทหารเกณฑ์สังกัดกรมทหารแห่งหนึ่ง ฆาตกรที่ลงมือสังหาร น.ส.สุพัชตรา ได้ และส่งดำเนินคดีในชั้นศาล ซึ่งศาลพิพากษาให้จำคุกนายอภิชาต 20 ปี แต่จำเลยรับสารภาพลดโทษให้กึ่งหนึ่งเหลือจำคุก 10 ปี

คดีที่กล่าวถึงข้างต้น เป็นเพียงส่วนน้อย มีอีกหลายคดีที่เกิดขึ้นในทำนองนี้ มีทั้งที่มีแจ้งความดำเนินคดี และเหยื่อเกิดความอับอายไม่กล้าแจ้งความ ทำให้คนร้ายอีกจำนวนไม่น้อยยังคงลอยนวล และอีกไม่น้อยเช่นกันที่ยังคงมีพฤติการณ์ทำนองนี้อยู่

เพราะฉะนั้นผู้ที่พักอาศัยอยู่ตามสถานที่พักที่กล่าวไว้ข้างต้นต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ โดยเฉพาะหญิงสาวที่ต้องอาศัยอยู่ตามลำพัง ไม่เช่นนั้นเหยื่อรายต่อไปอาจเป็น...ท่าน

-----------------

อยู่คนเดียวพึงระวัง

"ต้องยอมรับว่าขณะนี้ปัญหาโจรผู้ร้ายอาละวาดลักทรัพย์ ชิงทรัพย์ถี่ขึ้น โดยเฉพาะตามที่พักอาศัยที่มีคนอาศัยอยู่รวมกันจำนวนมากอย่างเช่น คอนโด อพาร์ตเมนต์ หรือแมนชั่นต่างๆ ซึ่งคนเหล่านี้มาจากร้อยพ่อพันแม่ มีทั้งดีและไม่ดี ดังนั้นผู้ที่พักอาศัยต้องระมัดระวังตัวเป็นพิเศษ" พล.ต.ต.สุพร พันธุ์เสือ รอง ผบช.น.ในฐานะโฆษกกองบัญชาการตำรวจนครบาล กล่าว

โฆษกกองบัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวด้วยว่า หลังจากเกิดคดีฆาตกรรมนักศึกษาสาวมหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต กองบัญชาการตำรวจนครบาลได้ขอความร่วมมือไปยังอาคารที่พักต่างๆ ให้ดูแลความปลอดภัยแก่ผู้พักอาศัยเป็นพิเศษ โดยแนะนำให้จัดทำประวัติผู้พักอาศัยทุกคนอย่างละเอียด

สถานที่ใดไม่มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยก็แนะนำให้ทำประวัติ รปภ.ไว้ด้วย ทุกครั้งที่มีบุคคลภายนอกเข้ามายังอาคารที่พักจะต้องมีการจดบันทึก และต้องให้ผู้พักอาศัยที่บุคคลภายนอกอ้างถึงมารับและส่งบุคคลดังกล่าวออกจากบริเวณที่พักด้วยตัวเอง รวมทั้งหากเป็นไปได้ก็ให้ติดตั้งระบบกล้องวงจรปิดให้ทั่วถึง เพื่อดูแลป้องกันเหตุร้าย

"นอกจากเจ้าของหอพักต้องเข้มงวดเรื่องความปลอดภัยแล้ว ผู้พักอาศัยเองก็ต้องระมัดระวัง โดยเฉพาะผู้หญิงที่พักอยู่คนเดียว จะต้องระมัดระวังตัวเป็นพิเศษ ก่อนเข้าออกห้องพักจะต้องดูหน้าดูหลังให้ดีว่ามีใครตามมาหรือไม่ ก่อนจะเปิดประตูต้อนรับใครก็ควรตรวจสอบเสียก่อนว่าไว้ใจได้หรือไม่ และขณะอยู่ในห้องพักก็ควรปิดประตูหน้าต่างให้มิดชิดพอที่คนร้ายจะไม่สามารถเข้าไปภายในได้" พล.ต.ต.สุพร กล่าว

ในส่วนของตำรวจนั้น พล.ต.ต.สุพร กล่าวว่า ระยะนี้เศรษฐกิจไม่ดีมีคนตกงานค่อนข้างมาก ทำให้มักเกิดคดีที่เกี่ยวกับทรัพย์บ่อยครั้ง ซึ่งตำรวจได้ปรับเปลี่ยนแผนป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมอยู่ตลอดเวลา เพื่อให้สามารถรับมือกับลุ่มมิจฉาชีพได้ รวมทั้งการตั้งด่านตรวจค้น หรือเรียกตรวจค้นรถต้องสงสัยต่างๆ ด้วย

 

 

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook