ปราบคอรัปชั่นต้องเอาให้ครบทั้งขบวนการ !

ปราบคอรัปชั่นต้องเอาให้ครบทั้งขบวนการ !

ปราบคอรัปชั่นต้องเอาให้ครบทั้งขบวนการ !
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ทันทีที่ ร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พ.ศ. …. ผ่านความเห็นชอบจาก สภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือ สนช. ด้วยมติ เอกฉันท์ 176 เสียง ประตูแห่งความหวังของคนแดนไกล ก็ปิดลงทันที สถานะ คนไม่มีแผ่นดิน(ไทย)จะอยู่ จึงเป็นจริงชัดเจนที่สุด ตามที่ อดีตนายกชวน หลีกภัยทำนายไว้ ขึ้นมาทันที

ความหวังที่วาดไว้ว่า จะต้องพลิกสถานการณ์เมื่อการเลือกตั้งซึ่งคาดว่าจะมีขึ้นตามโรดแมป คสช. พังทลายลงแทบจะหมดสิ้น พ.ร.บ. พิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ฉบับใหม่นี้ ยิ่งกว่าตะปูปิดตาย ที่ทำลายโอกาสการกลับเข้ามาของคนแดนไกลอย่างสิ้นเชิงแล้ว ยังทำให้คนที่กำลังต่อสู้คดี แทบกระอัก

ความคิดที่ว่า หากถึงนาทีสุดท้ายจะใช้เกียร์เสือแผ่นหายแนบออกนอกประเทศ นั้น ต้องคิดหนัก เพราะ หากใช้แนวทางนี้ ก็หมดหวังว่าจะได้กลับมาใช้ชีวิตในบ้านนี้เมืองนี้อีก นอกเสียจาก ยอมติดคุกติดตารางตามคดีความหมดสิ้นเท่านั้น จึงจะสามารถใช้ชีวิตในบ้านนี้เมืองนี้ต่อไปได้

แน่นอนว่า สาระสำคัญของ ร่างพ.ร.บ. พิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ฉบับใหม่ ที่ทำให้สถานะของ คนแดนไกลต้องเป็นคนไร้แผ่นดิน(ไทย)อยู่ เป็นไปตามที่ นายคำนูณ สิทธิสมาน โฆษกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) ได้โพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊กส่วนตัว Kamnoon Sidhisamarn ว่า พ.ร.บ. ฉบับนี้ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในระดับ ปฏิวัติ โดยสรุป ดังนี้

90u09k

1.แม้ไม่สามารถนำตัวผู้ถูกกล่าวหามาศาล ก็ให้ศาลประทับรับฟ้องได้ - มาตรา 26

2.เมื่อศาลประทับรับฟ้องตาม 1 แล้วให้ศาลออกหมายเรียก และหมายจับ ถ้าจับผู้ถูกกล่าวหาไม่ได้ภายในเวลา 3 เดือน ก็ให้ศาลดำเนินกระบวนพิจารณาคดีลับหลังผู้ถูกกล่าวหาได้ - มาตรา 27

3.เมื่อศาลประทับรับฟ้องแล้วอายุความสะดุดหยุดลง หากผู้ถูกกล่าวหาหนีไประหว่างพิจารณาคดีก็ไม่ให้นับระยะเวลาที่หนีไปรวมอยู่ในอายุความ - มาตรา 24/1 วรรคแรกและวรรคสอง

4.เมื่อศาลพิพากษาลงโทษจำคุกแล้วผู้ต้องหาหนีไป ไม่ว่าจะลงโทษจำคุกเท่าใด และผู้ถูกกล่าวหาจะหนีไปนานเท่าใด ก็ไม่เป็นเหตุให้ยกเว้นโทษจำคุกนั้นในอนาคต คือไม่ให้นำประมวลกฎหมายอาญามาตรา 98 มาใช้บังคับ - มาตรา 24/1 วรรคสาม และ

5.คดีเดิมที่ศาลจำหน่ายคดีไว้ชั่วคราวเพราะเหตุไม่ได้ตัวผู้ถูกกล่าวหามาศาลอันเป็นกฎเกณฑ์ตามกฎหมายเก่า ให้ดำเนินการกระบวนพิจารณาต่อไปตามกฎหมายใหม่ทั้งหมด ซึ่งหมายถึงดำเนินการตามข้อ 1 และ 2 ด้วย และคดีที่พิพากษาจำคุกไปแล้วก็จะเข้าเงื่อนไขข้อ 4 - บทเฉพาะกาลมาตรา 67

"มาตรา 67 บทบัญญัติในพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้ไม่กระทบต่อการดำเนินการใดในคดีที่ยื่นฟ้องไว้ก่อนพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้ใช้บังคับ และได้ดำเนินการไปแล้วก่อนวันที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้ใช้บังคับ ส่วนการดำเนินการต่อไปให้ดำเนินการตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้"

wdqwed

สรุปความอีกครั้งก็คือ กฎหมายใหม่ฉบับนี้ เปิดทางให้มีการไต่สวนและพิจารณาคดีลับหลังจำเลยได้ เมื่อส่งฟ้องศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองแล้ว อายุความไม่หมดอายุลง ไม่ว่าจะหลบหนีไประหว่างฟ้อง หรือ หลบหนีไปเมื่อรับโทษไปเท่าใดแล้วก็ตาม และยังมีบทเฉพาะกาลที่ให้นำคดีที่แขวนไว้ก่อนหน้า มาพิจารณาคดีได้อีกด้วย

อย่างไรก็ตาม กฎหมายที่ออกมานี้ หลักของกฎหมายก็คือ การควบคุมจัดการกับนักการเมือง ที่กระทำผิดทุจริตคอรัปชั่น ซึ่งจะมีผลกับนักการเมืองทุกคนต่อไปในภายภาคหน้า เป็นแนวทางที่มีหลายฝ่ายเคยเรียกร้องให้มีการปรับปรุงกฎหมาย

โดยเฉพาะในประเด็น อายุความของคดีคอรัปชั่น ไม่ให้หมดอายุความ เป็นแนวทางการต่อสู้กับปัญหาคอรัปชั่นที่เกาะกินประเทศมานาน และส่งผลร้ายมาทุกวันนี้ นักการเมืองในฐานะที่เข้ามาใช้อำนาจรัฐ มีโอกาสใช้อำนาจ ใช้ งบประมาณที่เป็นภาษีของประชาชนมากที่สุด ดังนั้นจึงถูกจับตามากที่สุด

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น แน่นอนว่า ในกระบวนการทุจริตคอรัปชั่น ไม่ได้มีส่วนประกอบพียงนักการเมืองฝ่ายเดียว ยังมีส่วนที่เกี่ยวข้องไม่ว่า ข้าราชการ นักธุรกิจ หรือใครก็ตามที่เข้ามาพัวพัน ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการทุจริตคอรัปชั่น ที่เป็นปัญหาร้ายแรงเป็นปัญหาระดับชาติ ซึ่งต้องขจัดให้หมดไป หรือ ให้เหลือน้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้

ดังนั้น หากจะให้ทรงประสิทธิภาพในการปราบปรามทุจริตคอรัปชั่นจริงๆ ในหลักการของประเด็นอายุความ และ การพิจารณาคดี ลับหลังเมื่อมีการหลบหนี จะต้องครอบคลุมบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตทั้งหมด ไม่เฉพาะนักการเมืองเท่านั้น เอาให้ครบทั้งขบวนการ จึงจะแก้ปัญหาได้เบ็ดเสร็จจริงๆ

และการดำเนินการกับบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตคอรัปชั่นทั้งหมดนี้ จะได้ ลบข้อครหาของบรรดา สมุน ลูกน้องที่ออกมาตีโพยตีพาย กล่าวหาว่าเป็นการออกกฎหมายจ้องทำลายนักการเมืองฝ่ายเดียวด้วย....

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook