ศาลฎีกายกฟ้อง 4 จำเลยคดีสลายม็อบพันธมิตรปี 51

ศาลฎีกายกฟ้อง 4 จำเลยคดีสลายม็อบพันธมิตรปี 51

ศาลฎีกายกฟ้อง 4 จำเลยคดีสลายม็อบพันธมิตรปี 51
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ศาลฎีกายกฟ้อง 4 จำเลยคดีสลายม็อบพันธมิตร ปี’51 ระบุ การชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรปี 2551 ไม่ใช่การชุมนุมโดยสงบ

วันนี้ (2 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีคำพิพากษาจำเลยทั้ง 4 คน ประกอบด้วย นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ , พลเอกชวลิต ยงใจยุทธ , พลตำรวจเอกพัชรวาท วงษ์สุวรรณ และ พลตำรวจโทสุชาติ เหมือนแก้ว คดีสั่งสลายการชุมนุมกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย หน้าอาคารรัฐสภาปี 2551 ว่า ให้ยกฟ้องจำเลยทั้ง 4 คน หลังอ่านคำพิพากษา 1 ชั่วโมง 30 นาที

โดยระบุ การชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรปี 2551 ไม่ใช่การชุมนุมโดยสงบ เนื่องจากมีข้อมูลว่าพบระเบิดดินดำอยู่ภายในทำเนียบรัฐบาลจุดที่ผู้ชุมนุมปักหลักอยู่ก่อนย้ายไปชุมนุมยังหน้ารัฐสภา ส่วนอีกปัจจัย คือ การระบุว่าจำเลยทั้ง 4 คนไม่ได้มีเจตนาจะทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก ซึ่งเป็นการดำเนินการเท่าที่จะทำได้

นายสมชาย กล่าวภายหลังฟังคำพิพากษาว่า มาฟังตามที่ศาลนัด ขอขอบคุณคำวินิจฉัยของศาล ซาบซึ้งใจที่ความยุติธรรมยังมีอยู่ มั่นใจว่าสถาบันตุลาการยังเป็นสถาบันที่พึ่งของประชาชนได้อยู่ ขอบคุณทุกคนที่มาให้กำลังใจ ทั้งนี้ตนได้สู้คดี และเคารพในคำวินิจฉัยของศาล ตนเคารพในคำตัดสิน ยินดีที่การต่อสู้ตลอดมาได้รับความเป็นธรรม

ขณะที่ นายวีระ สมความคิด แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่เดินทางมาร่วมฟังคำพิพากษา เปิดใจกับทีมข่าวว่า รู้สึกผิดหวังกับคำพิพากษา หลังจากนี้จะติดตามว่าป.ป.ช.ซึ่งเป็นโจทก์ในคดีนี้จะยืนอุทธรณ์คำสั่งศาลหรือไม่

สำหรับปฏิบัติการเข้าสลายการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่ปิดล้อมรัฐสภา ในปี 2551 มีการยิงแก๊สน้ำตาสกัดกั้นกลุ่มผู้ชุมนุม ที่กำลังปิดล้อมเพื่อไม่ให้รัฐบาลของนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นำคณะรัฐมนตรีเข้าแถลงนโยบาย เรียกได้ว่าเป็นวิกฤตทางการเมืองครั้งสำคัญในประวัติศาสตร์ เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 2 คน และบาดเจ็บถึง 471 คน

ต่อมา คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. ได้ชี้มูลความผิดกับจำเลยทั้ง 4 คน ประกอบด้วย สมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตรองนายกรัฐมนตรี พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และ พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว อดีตผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ในความผิดฐานละเว้นการปฎิบัติหน้าที่ หรือปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 แต่ปรากฎว่า อัยการมีความเห็นไม่สั่งฟ้องคดี พร้อมตีสำนวนกลับคืนไปให้กับ ป.ป.ช. โดยอ้างเหตุผลว่าหลักฐานไม่เพียงพอ

ทำให้ทาง ป.ป.ช. ต้องยื่นฟ้องคดีต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองด้วยตัวเอง ซึ่งนายสมชาย ได้ต่อสู้โดยการยื่นเรื่องขอให้ ป.ป.ช. ถอนฟ้องคดี ขณะที่กลุ่มพันธมิตรฯ ได้ยื่นหนังสือถึงศาลฎีกาฯ เพื่อคัดค้านการถอนฟ้องเช่นกัน กระบวนการต่อสู้คดีในชั้นศาลฎีกาเป็นไปอย่างดุเดือด โดยศาลไต่สวนนัดแรก ในเดือนเมษายน 2559 และไต่สวนพยานนัดสุดท้ายในวันที่ 30 มิถุนายน 2560

ตลอดระยะเวลา 9 ปี คดีประวัติศาสตร์ทางการเมืองที่สำคัญ ได้เดินมาถึงโค้งสุดท้ายแล้ว เมื่อศาลฎีกาได้นัดฟังคำพิพากษาในวันที่ 2 สิงหาคม 2560

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook