หนุ่มข้ามจังหวัด สู่ขอสาวพิการแขนขา พิสูจน์รักจริงถึง 8 ปี

หนุ่มข้ามจังหวัด สู่ขอสาวพิการแขนขา พิสูจน์รักจริงถึง 8 ปี

หนุ่มข้ามจังหวัด สู่ขอสาวพิการแขนขา พิสูจน์รักจริงถึง 8 ปี
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

บทพิสูจน์รักแท้ หนุ่มกรีดยางยกขันหมากข้ามจังหวัด สู่ขอสาวพิการแขนขาขาด หลังคบหาคุยกันถึง 8 ปี เชื่อเป็นบุพเพฯ แม้พิการแต่ก็รักเป็นพิเศษ ร่อนการ์ดเชิญแขก 600 คน จัดงานวิวาห์ใหญ่ที่ชุมพร

ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านหลังหนึ่ง บ้านเขาหน้าหัก หมู่ที่ 1 ต.สลุย อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร ซึ่งเป็นบ้านของ น.ส.อ้อย โพธิ์ทอง อายุ 38 ปี ว่าที่เจ้าสาวที่พิการมาแต่กำเนิด ขาขวาขาดใต้หัวเข่าลงมา ส่วนขาซ้ายอ่อนแรง และแขนขวาขาดตั้งแต่เหนือข้อศอกขึ้นไป

นอกจากนี้ยังได้พบกับ นายพรภิรมย์ บัวสงค์ อายุ 23 ปี ว่าที่เจ้าบ่าว ชาว อ.บางสะพานน้อย จ.ประจวบคีรีขันธ์ ที่มาช่วยตรียมจัดงานแต่งงานที่จะมีขึ้นที่บ้านเจ้าสาวในเช้าวันพรุ่งนี้ (3 ส.ค.)

น.ส.อ้อย ว่าที่เจ้าสาวเปิดเผยว่า ครอบครัวเป็นชาวสวนทำไร่ปาล์ม เกิดมาพร้อมกับความพิการตั้งแต่กำเนิด เมื่อเรียนจบชั้น ม.3 ก็เรียกต่อด้านคอมพิวเตอร์และการบัญชีที่ศูนย์คนพิการ ห้าแยกปากเกร็ด จ.นนทบุรี หลังเรียนจบมา อาจารย์ที่ศูนย์คนพิการปากเกล็ดก็ฝากเข้าทำงานเป็นแคชเชียร์ที่โรงแรมชมพูอินน์ อ.เมืองนครปฐม ตั้งแต่ปี 2556

ขณะที่ นายพรภิรมย์ ว่าที่เจ้าบ่าว เผยถึงเรื่องราวความรักที่เกิดเหตุ ระบุว่า เมื่อปี 2552 เพื่อนของ น.ส.อ้อย ได้ให้เบอร์โทรศัพท์กับตน จึงได้โทรคุยกันเรื่อยมาก เริ่มแรกได้ส่งรูปถ่ายแบบเต็มตัวไปแนะนำ แต่ฝ่ายหญิงส่งรูปครึ่งท่อนมาให้ก่อน และยังคุยกันต่อมาเรื่อยๆ

กระทั่งผ่านไป 3 ปีจึงได้เจอกัน ทำให้รู้ว่าฝ่ายหญิงเป็นคนพิการ แต่คงเป็นเพราะบุพเพสันนิวาส ได้เจอครั้งแรกตนไม่คิดอะไรเลย กลับยิ่งรักและสงสารว่าที่เจ้าสาวมาโดยตลอด ตนมีอาชีพรับจ้างกรีดยางอยู่ อ.บางสะพานน้อย จ.ประจวบคีรีขันธ์ ฐานะครอบครัวก็ปานกลางไม่ได้ร่ำรวยอะไร แต่ก็คบกันมา 8 ปีเต็ม

ต่อมา น.ส.อ้อย ก็บอกกับตนว่า ถ้ารักกันจริงก็ให้พ่อแม่ไปสู่ขอ ตนจึงบอกว่าขอเก็บเงินก่อน เก็บได้ 50,000 บาท เมื่อไหร่จะไปสู่ขอ กระทั่งเดือนเมษายน 2560 ตนพาพ่อแม่ไปเดินทางไปสู่ขอ น.ส.อ้อย ตามประเพณี โดยฝ่ายหญิงเรียกสินสอดทองหมั้น เป็นเงินสด 20,000 บาท สร้อยคอทองคำหนัก 2 บาท

ส่วนกำหนดพิธีแต่งงาน ได้จัดในวันที่ 3 สิงหาคม เวลา 10.00 น. ที่บ้านฝ่ายเจ้าสาว โดยพิธีแห่ขันหมากจะเริ่มเวลา 8 โมง 9 นาที เสร็จพิธีก็จะเป็นงานเลี้ยงแบบโต๊ะไทยสำเร็จ ซึ่งทั้งตนเองและว่าที่เจ้าสาวได้แจกการ์ดเชิญแขกไปแล้วจำนวน620 ใบ จัดโต๊ะในงานเลี้ยงไว้ 130 โต๊ะ ส่วนของชำร่วยที่แจกในงานเป็นแก้วน้ำ

นายพรภิรมย์ บอกกับผู้สื่อข่าวอีกว่า หลังเสร็จพิธีแต่งงานตนก็จะอยู่ที่บ้านเจ้าสาว 3 คืน หลังจากนั้นก็จะพาเจ้าสาวไปอยู่กับพ่อแม่ที่ อ.บางสะพานน้อย ช่วยพ่อแม่ที่ร้านขายของชำ โดยตนกับเจ้าสาววางแผนอนาคตเอาไว้ว่า จะมีลูกเพียงคนเดียว ตั้งใจอยากได้ลูกชาย

ขณะที่ แม่ของว่าที่เจ้าสาว เปิดเผยว่ารู้สึกดีใจไม่คิดว่าจะมีวันนี้ เพราะลูกสาวพิการมาแต่กำเนิดแต่เห็นฝ่ายชายว่าที่ลูกเขยเป็นคนจริงจังและรักลูกสาวจริง ก็สบายใจว่าเขาคงจะเลี้ยงดูลูกสาวได้ ตนได้เชิญผู้ใหญ่บ้าน กำนัน สมาชิก อบต. นายก อบต. รวมทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สลุย ให้มาร่วมเป็นสักขีพยานในครั้งนี้ด้วย แขกราวๆ 600 คน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook