พรทิพย์ ชี้สารบนเสื้อน้องโบว์ เป็นสารอาร์ดีเอ็กซ์-ไม่ใช่ซีโฟร์

พรทิพย์ ชี้สารบนเสื้อน้องโบว์ เป็นสารอาร์ดีเอ็กซ์-ไม่ใช่ซีโฟร์

พรทิพย์ ชี้สารบนเสื้อน้องโบว์ เป็นสารอาร์ดีเอ็กซ์-ไม่ใช่ซีโฟร์
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

หมอพรทิพย์ ยันสารที่พบบนเสื้อ น้องโบว์ เป็นอาร์ดีเอ็กซ์ ไม่ใช่ซีโฟร์ สอนมวยคนแถลงข่าวก่อนพูดหัดคิดก่อน เพราะผลที่ได้รับอาจไปภาพพจน์ขององค์กร หากอยากแนะให้ไปให้ข้อมูลที่ชั้นศาล หรือปปช.ดีกว่า

(26ก. พ.) พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนนท์ ผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กล่าวกรณีพล.ต.ท.ดนัยธร วงศ์ไทย ผบช.สนว. ออกแถลงผลการการตรวจถึงการเสียชีวิตของน.ส.อังคณา ระดับปัญญาวุฒิ (น้องโบว์) ว่า หลังจากการตรวจแล้วพบสารซีโฟร์บนเสื้อ และชุดชั้นในน้องโบว์ ว่า เรื่องนี้ไม่อยากจะให้มีการคาดเคลื่อน ซึ่งตนอยากจะชี้แจงว่าสารระเบิดซีโฟร์เป็นเหมือนผลิตภัณฑ์วัตถุระเบิดของทาง การทหาร โดยมีองค์ประกอบย่อยอาร์ดีเอ๊กซ์ผสมกับสารเคมีอีกหนึ่งตัว ซึ่งไม่ใช่สารเคมีของสารระเบิด โดยสารเคมีดังกล่าวเวลานำเข้าเครื่องตรวจอะไรก็ตามจะไม่ออกผลเป็นซีโฟร์ โดยเฉพาะเครื่องไออ้อน์สแกน ที่ทางสถาบันได้ใช้ในการตรวจเหตุการณ์ระเบิดในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้มาเป็น เวลาถึง 2 ปีที่ผ่านมา หรือซีเคเมดมันก็จะออกมาเป็นอาร์ดีเอ๊กซ์ ซึ่งองค์ประกอบอีกตัวก็จะไม่ปรากฎออกมา

พญ.คุณหญิงพรทิพย์ กล่าวอีกว่า ตนจึงไม่แน่ใจว่าคนที่ออกมาให้สัมภาษณ์มีความเข้าใจได้รู้เรื่องดังกล่าว หรือเปล่า เพราะเครื่องที่ตรวจอะไรจะต้องออกมาเป็นตัวย่อยสุด คือ ไนโตกีร์เซอร์รีน , อาร์ดีเอ็กซ์ , ซีอีพีเอ็น ,อ๊าคส์ หรือทีเอ็นที แต่ซีโฟร์เป็นตัวบน เพราะเป็นสารใหญ่ ซึ่งประสมกับอะไรแล้วออกเป็นซีโฟร์ที่นำมาใช้ในทางการทหาร ส่วนแก๊สน้ำตาถือว่าเป็นสารเคมี เนื่องจากในตัวของแก๊สน้ำจะมีสารเคมี โดยแก๊สน้ำตาสามารถแบ่งออกเป็นสองกลุ่ม โดยเฉพาะแก๊สน้ำตาที่ได้มาจากการทดลองที่เป็นลูกขว้างไม่จำเป็นที่จะต้องมี การจุดชนวน จึงไม่จำเป็นต้องใช้สารระเบิด โดยจากการที่เราเคยนำมาทดลองแก๊สน้ำชนิดลูกขว้าง และลูกยิงที่เป็นของจีน พบว่ามีตัวจุดชนวน เพื่อให้มีแรงกระจายไกล ซึ่งตัวจุดชนวนมีลักษณะเชื้อปะทุ จึงทำให้มีสารอาร์ดีเอ๊กซ์อยู่พร้อมกับแก๊สน้ำตา

พญ. คุณหญิงพรทิพย์ กล่าวอีกว่า ตั้งคราวที่แล้วที่ตนเคยได้อธิบายมาแล้วว่า เราจะรู้ได้อย่างไรสารอาร์ดีเอ็กซ์จากแก๊สน้ำตา หรือสารอาร์ดีเอ๊กซ์จากการระเบิด โดยจากการทำงานในภาคใต้ที่ผ่านมากว่า 6 ปี เราพบว่าส่วนใหญ่วัตถุระเบิดที่พบจะมีสารอาร์ดีเอ๊กซ์ที่เป็นเชื้อปะทุเล็กๆ เช่นเมื่อมีการขว้างไปและมีการระเบิดตูมแต่ไม่มีสารอาร์ดีเอ๊กซ์ติด แต่จะมีแต่ไนเตท ดังนั้นเมื่อตกที่ขาในเหตุการณ์ที่มีการยิงแก๊สน้ำตาเป็นร้อยลูก สารอาร์ดีเอ็กซ์น่าจะมาจากสารอาร์ดีเอ็กซ์ที่ยิงแก๊สน้ำตาเป็นร้อยลูก ดังนั้นในเรื่องของสารซีโฟร์นั้นคงจะไม่น่าจะใช่ เพราะสารซีโฟร์ไม่เครื่องมือตรวจหา เนื่องจากเครื่องอะไรตรวจก็จะพบแต่สารอาร์ดีเอ๊กซ์ และสารที่นำมาผสมกับอาร์ดีเอ็กซ์เพื่อเป็นซีโฟร์นั้นเครื่องไม่สามารถตรวจหา ได้

เมื่อถามว่า จากการศพของน้องโบว์เราพบอะไรบ้าง พญ.คุณหญิงพรทิพย์ กล่าวว่า หนึ่งพบแก๊สน้ำตา ซึ่งที่เสื้อเราก็ตรวจเช่นกัน ซึ่งเราพบสารอาร์ดีเอ็กซ์ เมื่อถามต่อว่า ซึ่งในแก๊สน้ำก็จะมีสารอาร์ดีเอ๊กซ์ ผอ.นิติวิทยาศาสตร์ กล่าวว่า เฉพาะแก๊สน้ำตาที่เป็นของจีนที่เป็นลูกยิง และลูกขว้าง โดยการพิสูจน์ของเราในเบื้องต้นเราอยากจะรู้ว่าน้องโบว์นั้นโดนอะไรบ้าง เรื่องนี้ที่ผ่านมามีนพ.วิรัช พงษ์พานิช ส.ว. และพล.อ.ต.วิชา เสี้ยวนิ่ม ที่เป็นผู้ตรวจพิสูจน์พลิกศพบาดแผลที่เกิดขึ้นไม่ใช้เกิดจากวัตถุระเบิด ซึ่งจากที่มีการสรุปผลให้กับคณะกรรมสอบทุกๆ ชุดว่า แต่น่าเกิดจากแก๊สน้ำตามากกว่าเกิดจากวัตถุระเบิด ดังนั้นเรื่องนี้จะต้องมีการแยกแยะกันหลายชั้น เนื่องเรื่องนี้มีนิติวิทยาศาสตร์หลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นนิติวิทยาศาสตร์ตรวจพื้นที่เกิดเหตุ นิติวิทยาศาสตร์ที่ตรวจที่ศพ และนิติวิทยาศาสตร์ที่ตรวจที่ห้องปฎิบัติการ ดังนั้นตนจึงอยากจะยืนยันว่าซีโฟร์ไม่มีการตรวจในห้องปฎิบัติการ เนื่องจากมันจะเกิดขึ้นมาเป็นอาร์ดีเอ๊กซ์

เมื่อถามว่า เราจะรู้ได้อย่างไรว่าสารอาร์ดีเอ็กซ์ที่เกิดขึ้นว่าเป็นส่วนหนึ่งของแก๊ส น้ำตา ไม่ใช่ของโฟร์ ผอ.นิติฯ กล่าวว่า ซีโฟร์ไม่ใช่วัตถุที่หาได้ง่ายเลย เพราะตัวมันจะเป็นห่อ ส่วนหากนำมาใช้อย่างเช่น เหตุการณ์ระเบิดในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้จะมีการลักษณะห่อเล็กๆ เมื่อถามอีกว่า พล.ต.ท.ดนัยธร แถลงว่ามีการพบวัตถุทรงกลมที่มีการระเบิดที่ไม่สมบูรณ์ แต่เมื่อนำไปตรวจสอบพบว่าเป็นซีโฟร์ ตรงนี้วัตถุทรงกลมหมายถึงอะไร ผอ.นิติฯ กล่าวว่า เรื่องนี้คงจะต้องให้คนที่แถลงเป็นคนชี้แจง เพราะตนไม่อยากจะให้เป็นประเด็นความขัดแย้งระหว่างหน่วยงาน แต่อย่างที่ตนบอกแล้วว่าการทำงานนิติวิทยาศาสตร์จะต้องสั่งไม่ได้ เรื่องนี้ทางนั้นก็ทราบอยู่แล้วว่าพบสารอาร์ดีเอ๊กซ์

เมื่อต่อว่า เราสามารถฟันธงได้เลยหรือว่าน้องโบว์เสียชีวิตจากแก๊สน้ำตา ผอ.นิติฯ กล่าวว่า ตนไม่ขอฟันธง แต่ในวันนั้นตนได้ประมวลและได้เล่าให้ฟังแล้ว ซึ่งไปย้อนดูเทปในวันนี้ สิ่งที่จะบอกว่าเป็น คือ ศพ ตัวหมอที่ตรวจพิสูจน์หลายคนได้เห็นศพแล้วว่าการโดนระเบิดบาดแผลจะไม่เป็น ลักษณะอย่างนี้ ประกอบบริเวณเสื้อผ้านั้น เราพบแก๊สน้ำตา และสารอาร์ดีเอ็กซ์ ซึ่งเราก็ลองไปจำลองสถานการณ์ด้วยการยิงแก๊สน้ำตาในทุกชนิด ดังนั้นเรื่องนี้ตนอยากจะเตือนว่าการแถลงอะไรก็ตามก็ขอให้คิดให้ดีๆ ว่าจะเป็นการทำลายองค์กรตัวเองหรือไม่ เพราะพูดไปก็ไม่มีประโยชน์ แทนที่จะไปให้ข้อมูลกับชั้นศาล หรือให้กับป.ป.ช.จะดีกว่า ซึ่งอยู่ๆ ออกมาแถลงข่าวมันอาจจะทำให้เสียเครดิสไปด้วย ซึ่งหากจะถามว่าจะให้ตนฟันธง ตนตอบได้เลยว่าไม่ขอฟันธง เพราะตนไม่มีนิสัยฟันธง เนื่องจากตนมีหลักการทางวิทยาศาสตร์ ถ้าไม่เหมือนตนก็จะยืนยันตลอดเวลาว่าไม่เชื่อ อย่างเช่น ที่คนบอกว่าโลกแบน แต่มาวันนี้หนึ่งเรื่องดังกล่าวได้ถูกพิสูจน์ออกมาว่าโลกกลม ดังนั้นตนอยากจะให้ทุกคนรู้ว่าไม่ควรจะสรุปอะไรเพราะตัวเองไม่รู้จริง

เมื่อถามว่า หากวันนั้นน้องโบว์ได้พกระเบิดซีโฟร์ไปจริงแล้วบาดแผลที่เกิดจากระเบิดซี โฟร์จะมีความแตกหรือบาดแผลที่เกิดขึ้นหรือไม่ ผอ.นิติน กล่าวว่า ในข้อมูลที่ตนมี และข้อมูลจากหมอที่ผ่าตรวจพิสูจน์ศพนำมาให้ดู ซึ่งเราดูแล้วเราก็เห็นเหมือนกันว่ามันมีบาดแผลที่ไม่เหมือน และที่ผ่านมาตนทมำงานอยู่กับศพในภาคใต้มาเยอะ

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook