สมาคมนิเทศศาสตร์ฯ ทำจม.เปิดผนึก จี้นสพ.-ทีวีหยุดเสนอภาพข่าว รุนแรง-อุจาด ฆาตกรรม-ข่มขืนโจ่งแจ้ง
เนื้อหาในจดหมายเปิดผนึกระบุว่า นับตั้งแต่เริ่มต้น พ.ศ.2552 หนังสือพิมพ์บางฉบับโดยเฉพาะหนังสือพิมพ์ประชานิยมที่มียอดจำหน่ายสูงได้ตีพิมพ์ภาพข่าวในหน้าหนึ่ง ซึ่งแสดงถึงความรุนแรง ความอุจาด น่าหวาดเสียว โดยไม่คำนึงถึงความรู้สึกของสาธารณชนและผลกระทบต่อเยาวชน ซึ่งอาจลอกเลียนแบบโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ภาพข่าวดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงศพที่เสียชีวิตในลักษณะต่างๆ กัน มีคราบเลือดโลหิตแดงฉานอย่างชัดเจน แม้จะมีการปิดบังสภาพศพบ้างบางส่วน แต่ยังแสดงให้เห็นถึงความอุจาดและความน่าหวาดเสียว อีกทั้งยังเป็นการละเมิดต่อสิทธิส่วนบุคคลของผู้ตาย ซึ่งขัดกับข้อบังคับจริยธรรมแห่งวิชาชีพหนังสือพิมพ์โดยตรง ขณะเดียวกัน สถานีโทรทัศน์บางแห่งก็ไม่ได้มีการใช้วิจารณญาณที่ดีพอในการนำเสนอภาพข่าวอาชญากรรม โดยนำเสนอภาพจากกล้องวงจรปิดที่แสดงถึงวิธีการในการฆาตกรรมอย่างโจ่งแจ้ง ขณะที่ผู้รายงานข่าวและผู้ดำเนินรายการบางคนมีวิธีสัมภาษณ์เหยื่อผู้เคราะห์ร้าย และผู้เกี่ยวข้องจากอาชญากรรมที่มีความรุนแรงสูง อย่างการข่มขืน การทำร้ายร่างกายและการฆ่า โดยไม่คำนึงถึงสิทธิส่วนบุคคล ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ และผลกระทบทางจิตใจ
คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาฯ คณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน มธ. คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยรัตนบัณฑิต คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย และคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต ใคร่ขอแสดงความไม่เห็นด้วยอย่างรุนแรงกับการนำเสนอข่าวในลักษณะดังกล่าวของสื่อมวลชน และขอเรียกร้องให้องค์กรและสมาคมวิชาชีพที่เกี่ยวข้องแสดงบทบาท เพื่อดำเนินการปรับปรุงแก้ไขและสร้างแนวทางปฏิบัติที่ดี ซึ่งจะนำไปสู่การยกระดับมาตรฐานในการนำเสนอข่าวของสื่อมวลชนต่อไป
รศ.ดร.ยุบลกล่าวว่า คณาจารย์ เจ้าหน้าที่ และนิสิตนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยทุกสถาบัน กำลังรวบรวมรายชื่อลงนามต่อท้ายจดหมายเปิดผนึก เพื่อดำเนินการนำเสนอส่งไปให้กับสื่อมวลชนทั้งสื่อสิ่งพิมพ์ หนังสือพิมพ์ และสถานีโทรทัศน์ทุกช่องต่อไป ซึ่งสิ่งที่ต้องการคือเป็นมุมสะท้อนความคิดของสถาบันการศึกษาว่ามีความกังวลใจ อยากให้สื่อมวลชนและผู้ที่ปฏิบัติหน้าที่ช่วยกันในเรื่องการปรับเปลี่ยนวิธีการนำเสนอข่าว เพื่อมาตรฐานในการนำเสนอข่าวเป็นที่ยอมรับ และไม่ทำให้เกิดเป็นความรู้สึกที่ไม่ดี เมื่อเห็นภาพข่าวแล้วสร้างความหวาดเสียว ความหดหู่ การนำเสนอในปัจจุบัน ทำให้เกิดความกังวลว่า เมื่อเยาวชนเห็นภาพเหล่านั้นแล้วจะชินชา หลายคนอาจเถียงว่าเด็กจะไม่ลอกเลียนแบบ แต่สิ่งเหล่านี้จะมีอิทธิพลต่อจิตใจของเด็ก ทำให้เด็กเกิดความรู้สึกว่าเป็นปกติ
รศ.ดร.ยุบลกล่าวว่า หนังสือพิมพ์ต่างประเทศไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์ที่มีอุบัติเหตุหรือฆาตกรรมจะไม่มีภาพศพ หรือแม้แต่ผู้ที่ถูกทำร้าย เพราะเคารพในสิทธิของผู้ที่ถูกกระทำไปแล้ว เพราะเป็นการกระทบกระเทือนต่อร่างกายและจิตใจของผู้ที่ตกเป็นข่าว และญาติพี่น้องของเหยื่อ ตรงนี้อยู่ที่วิจารณญาณที่ค่อนข้างมากพอสมควร สื่อมวลชนจะสามารถวิเคราะห์ได้ว่ามีความมากน้อยแค่ไหนในการนำเสนอข่าว