เด็กน้อย 2ขวบ เหยื่อถูกแทง แพทย์ผ่าตัดเอ็นข้อมืออาการดีขึ้น

เริ่มขยับ-จับสิ่งของได้ แต่จิตใจยังหวาดผวา ไม่อยากกลับบ้าน แม่เผยกลัวคนร้ายย้อนกลับมาทำร้ายอีก ระบุต้องระวังตัวเวลาออกจากบ้าน ไม่ใส่ของมีค่า ขณะที่ตำรวจส่งสายสืบกระจายกำลังค้นหาตัวคนร้าย คาดได้ตัวเร็วๆ นี้

จากเหตุการณ์คนร้ายกระชากสร้อยนางน้อง ภรารัตนวัฒน์ ที่บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 82 หมู่ 3 ภายในซอยเพชรเกษม 54 ระหว่างชุลมุนปรากฏว่าคนร้ายใช้มีดแทงพลาดไปถูกข้อมือซ้ายของ ด.ญ. วัชรี ภรารัตนวัฒน์ หรือน้องฟ้าใส อายุ 2 ขวบ 9 เดือน เอ็นข้อมือขาด เหตุเกิดเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 26 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา

ล่าสุดเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 27 กุมภาพันธ์ ที่ รพ.บางไผ่ นางน้องพร้อมด้วยบรรดาญาติๆ เดินทางเข้าเยี่ยมและดูแลอาการน้องฟ้าใสด้วยความเป็นห่วง โดยนางน้องกล่าวว่า ขณะนี้แพทย์ได้ผ่าตัดเส้นเอ็นข้อมือซ้ายของน้องฟ้าใสแล้ว ตั้งแต่ช่วงเย็นเมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ อาการโดยทั่วไปดีขึ้นมาก มือข้างซ้ายของน้องฟ้าใสสามารถขยับและจับสิ่งของ หยิบขนมกินได้เกือบเป็นปกติ แต่สภาพจิตใจยังอยู่ในอาการตื่นกลัว ไม่ค่อยพูดจากับใครมากนัก โดยเฉพาะคนแปลกหน้า

นางน้อง กล่าวอีกว่า ลูกสาวเอาแต่นอนอยู่บนเตียงเพียงอย่างเดียว เวลาตอนกลางคืนยังมีอาการสะดุ้งผวา ทำให้ต้องคอยดูแลและปลอบใจอยู่ตลอดเวลา ส่วนตนเองก็นอนไม่หลับทั้งวัน เนื่องจากภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นยังติดตาและผวาอยู่ตลอด เหมือนกับอาการหลอน กลางดึกต้องลุกเปิดประตูห้องพยาบาล ดูความปลอดภัย เพราะกลัวว่าคนร้ายจะย้อนกลับมาทำร้ายอีก สำหรับบาดแผลที่ข้อมือของลูกสาวนั้น เชื่อว่าถูกมีดของคนร้ายแทงอย่างแน่นอน ไม่ใช่เกิดจากล้มไปถูกของมีคมที่อยู่บริเวณที่เกิดเหตุ

"ขณะนี้อาการต่างๆ ดีขึ้นมาก แต่ลูกก็ยังมีอาการตื่นกลัว ไม่อยากกลับบ้าน ปกติแล้วเวลาป่วยนอนโรงพยาบาล น้องฟ้าใสจะร้องเพราะไม่อยากอยู่ อยากกลับมาบ้าน แต่ครั้งนี้ไม่อยากจะกลับบ้าน เหตุการณ์อย่างนี้ไม่น่าเกิดขึ้นกับหนูเลย ภาพเหตุการณ์ต่างๆ ยังติดตาหนูอยู่ตลอดเวลา แม้จะหลับตาก็ยังเห็นภาพเหตุการณ์นั้นอยู่ รู้สึกกลัวมาก ต่อไปนี้จะออกจากบ้านต้องระวังตัวตลอด จะไม่ใส่ของมีค่าติดตัวอีกแล้ว" นางน้อง กล่าว

ด้านนางปราณี แดงอิ่ม ยายของน้องฟ้าใส กล่าวว่า ก่อนหน้านี้พักอยู่ที่ จ.สุโขทัย หลังจากรู้ข่าวว่าลูกสาวและหลานถูกคนร้ายจี้ชิงทรัพย์และหลานสาวได้รับบาดเจ็บ ครั้งแรกรู้สึกช็อก หลังจากตั้งสติจึงรีบเดินทางมาจากสุโขทัยเพื่อมาดูอาการหลาน เมื่อมาถึงเห็นอาการหลานสาวปลอดภัย รู้สึกสบายใจ แต่ยังตื่นกลัวต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และไม่คาดฝันว่าเหตุการณ์ร้ายอย่างนี้จะเกิดขึ้นกับหลาน

ด้าน พ.ต.อ.สุรชัย เจ็ดพี่น้องร่วมใจ ผกก.สน.ภาษีเจริญ กล่าวว่า คดีที่เกิดขึ้นนี้ ตำรวจให้ความสำคัญเป็นพิเศษ เพราะคนร้ายกระทำการอย่างอุกอาจ และผู้บาดเจ็บยังเป็นเด็ก อย่างไรก็ตามสำหรับคนร้ายที่ก่อเหตุ ผู้เสียหายสามารถจดจำใบหน้ารูปพรรณของคนร้ายได้อย่างแม่นยำ แม้ว่าคนร้ายจะสวมหมวกกันน็อกปิดบังใบหน้า เพราะตอนเกิดเหตุมีการพูดคุยกันและอยู่ห่างกันไม่มากนัก

"ขณะนี้ตำรวจสายสืบ ทั้ง บก.น.9 และท้องที่ ได้กระจายกำลังกันออกสืบหาคนร้ายตามรูปพรรณสัณฐานและเบาะแสที่ได้รับทราบ คาดว่าอีกไม่นานจะได้ความคืบหน้า และน่าติดตามจับกุมคนร้ายรายนี้ได้" พ.ต.อ.สุรชัย กล่าว