โศกนาฏกรรมปิกอัพยางระเบิด ชนเก๋ง 4 ศพ ด.ญ.รอดคนเดียว

รถปิกอัพบรรทุกแก้วมังกร ยางระเบิดพุ่งข้ามเลนชนท้ายรถพ่วงที่สวนทางมา ประสานงาเก่งอีกคัน ตาย 4 ศพ เด็กหญิงอาการสาหัส

(13 ส.ค.) พ.ต.ต.ชัยยงค์ ศรีศิลป์ พนักงานสอบสวน สภ.ท่าตูม อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าเกิดอุบัติเหตุรถยนต์ชนกัน บริเวรถนนปัทมานนท์ สายสุรินทร์-ท่าตูม บริเวณใกล้แยกบ้านหนองยาง ต.เมืองแก อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตติดภายในรถ ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบ

หลังได้รับแจ้งเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กู้ภัยท่าตูมและเจ้าหน้าที่ฉุกเฉิน รพ.ท่าตูม เร่งเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุอย่างเร่งด่วน พบรถกระบะมิตซูบิชิ สีเทา บรรทุกแก้วมังกรมาเต็มกระบะ พลิกคว่ำตะแคงข้าว แก้วมังกรหกเรี่ยราดเต็มพื้นถนน สภาพด้านหน้ารถพังยับเยิน

ขณะที่ฝั่งตรงข้ามพบรถยนต์มาสด้า สีดำ เสียหลักตกลงไปข้างทาง สภาพหน้ารถพังยับเยิน พบร่างผู้เสียชีวิตคาซากรถ 2 คน และบาดเจ็บสาหัสอีก 3 คน เจ้าหน้าที่รีบนำตัวส่งโรงพยาบาลอย่างด่วน กระทั่งต่อมาได้เสียชีวิตเพิ่งเติมอีก 2 คน ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตเป็น 4 คน ยังคงเหลือผู้บาดเจ็บสาหัสอีก 1 คน ซึ่งเป็นเด็กหญิง อายุ 12 ปี ได้ส่งต่อเข้ารักษาที่โรงพยาบาลสุรินทร์เร่งด่วน

สำหรับผู้เสียชีวิตทั้งหมดนั้น เดินทางมากับรถยนต์มาสด้า ทราบชื่อ นายราชัน อายุ 25 ปี เป็นผู้ขับขี่ เสียชีวิตคาพวงมาลัย ส่วนข้างๆ ในที่นั้งข้างคนขับพบร่าง นางสติม อายุ 57 ปี เสียชีวิตในสภาพบาดแผลตามร่างกายหลายแห่ง

ขณะที่ด้านเบาะหลังพบ น.ส.กานดา อายุ 31 ปี และ นายปลื้ม อายุ 55 ปี ได้รับบาดเจ็บสาหัส ก่อนจะเสียชีวิตลงในเวลาต่อมา ส่วนผู้บาดเจ็บสาหัสอีกคนเป็นเด็กหญิง อายุ 12 ปี เบื้องต้นพบว่าทั้งหมดเป็นเป็นญาติพี่น้องกัน

จากสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า รถกระบะซึ่งมี นายจักรเทพ อายุ 20 ปี เป็นผู้ขับขี่ เดินทางมาพร้อมกับ นางสาว ศิริพร ซึ่งทั้งคู่ก็ได้รับบาดเจ็บและอาการปลอดภัยแล้ว โดยรถกระบะกำลังขนแก้วมังกรมุ่งหน้าเข้าตัวเมืองสุรินทร์ เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ รถได้เกิดยางแตกกะทันหัน ทำให้ควบคุมรถไว้ไม่อยู่ ก่อนจะพุ่งข้ามเลนไปเฉี่ยวชนท้ายรถบรรทุกพ่วงที่ขับสวนทางมา

ในขณะเดียวกันรถยนต์ของนายราชัน กำลังขับพาญาติๆ เดินทางมุ่งหน้าไปยัง อ.ท่าตูม และตามหลังรถบรรทุกพ่วงมาพอดี ทำให้เกิดชนประสานงาเข้าอย่างจัง ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตถึง 4 ราย และมีเด็กหญิงอายุ 12 ปี บาดเจ็บสาหัสดังกล่าว