พ่อ อ.มหิดล เหยื่อเรือล่ม 5 ศพ เผย เรือรั่วตั้งแต่เที่ยง

พ่อ อ.มหิดล เหยื่อเรือล่ม 5 ศพ เผย เรือรั่วตั้งแต่เที่ยง

พ่อ อ.มหิดล เหยื่อเรือล่ม 5 ศพ เผย เรือรั่วตั้งแต่เที่ยง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (13 ส.ค.) เมื่อเวลา 23.00 น. ที่ท่าน้ำคานเรือ ตำบลปากน้ำชุมพร อ.เมือง จ.ชุมพร ได้มีการนำรถเครน 2 คัน ชักลากเรือที่กู้มาจากกลางทะเลหลังจมบริเวณเกาะง่ามใหญ่ มีนักเรียนดำน้ำและถ่ายภาพใต้ทะเลเสียชีวิต 5 ศพ รอดชีวิต 11 ราย เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 26 ก.ค. ที่ผ่านมา

เจ้าหน้าที่ต้องรอให้น้ำขึ้นสูงเต็มที่แล้วใช้เวลานานกว่า 1 ชั่วโมง ชักลากเรือขึ้นมาบนคานเรือ จากการตรวจสอบเบื้องต้นเรือดังกล่าวเป็นเรือไม้ 2 ชั้น เคลือบทับด้วยไฟเบอร์กลาส ขนาด 19.58 ตันกรอส บรรทุกผู้โดยสารจำนวน 42 คน ลูกเรือ 3 คน รวม 45 คน สภาพค่อนข้างเก่า บริเวณหัวเรือและท้ายเรือด้านซ้ายมีรอยแตกเป็นรูโบ๋ขนาดใหญ่ และรอบๆตัวเรือมีรอยผุแตกร้าวอีกหลายจุด

โดยมี นายสหสัก อายุ 59 ปี และนางธัญญทร อายุ 53 ปี พ่อแม่ของนายมหัทธน อายุ 27 ปี อาจารย์วิทยาลัยนานาชาติ มหาวิทยาลัยมหิดล หนึ่งในผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว มาคอยติดตามดูการกู้เรือโชติธารา 2 อย่างใกล้ชิด พร้อมกับถ่ายภาพไว้เป็นหลักฐานทุกขั้นตอน

พ.ต.อ.ไพศาล สังข์เทพ ผกก.สภ.ปากน้ำชุมพร กล่าวว่า หลังจากน้ำเรือลำดังกล่าวขึ้นมาไว้บนคานเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พรุ่งนี้ (14 ส.ค.) จะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานและหน่วยงานเกี่ยวข้องลงมาตรวจสอบหลักฐานเพื่อหาสาเหตุของเรือจมต่อไป

นายสหสัก กล่าวว่า ลูกชายตนคือ นายมหัทธน อายุ 27 ปี จบการศึกษาปริญญาโท จากมหาวิทยาลัยมหิดล ก่อนเสียชีวิตลูกชายตนเป็นอาจารย์สอนอยู่ที่วิทยาลัยนานาชาติ มหาวิทยาลัยมหิดล เป็นหนึ่งในผู้สมัครเรียนดำน้ำและถ่ายภาพใต้น้ำ กำลังมีอนาคตไกล แต่ต้องมาเสียชีวิตจากความประมาทของผู้เกี่ยวข้องในเหตุการณ์ดังกล่าว

ตนได้ลงมาอยู่ในพื้นที่ติดตามการทำงานของเจ้าหน้าที่ตลอด ซึ่งทราบว่าบริษัทที่จัดทริปเปิดสอนดำน้ำและถ่ายภาพใต้น้ำได้เช่าเรือลำดังกล่าวเป็นเวลา 4 วัน และวันที่เรือจมคือวันที่ 3 ก่อนหน้านั้นทราบว่าเครื่องยนต์มีปัญหาและเรือรั่วต้องคอยสูบน้ำ ซึ่งดูจากสภาพเรือแล้วเรือค่อนข้างเก่ามาก

นายสหสัก กล่าวต่อว่า ตนสงสัยและข้องใจมากว่าช่วงที่เรือดังกล่าว เกิดปัญหาเครื่องยนต์เสียและเรือรั่วมาตั้งแต่ตอนเที่ยงของวันเกิดเหตุแล้ว แต่ทำไมทั้งผู้ที่จัดทริปสอนดำน้ำและกัปตันเรือจึงไม่แจ้งหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องให้ไปช่วยเหลือ แต่กลับติดต่อช่วยเหลือกันเองปล่อยให้เวลาผ่านไปนานหลายชั่วโมงจนวิกฤติ กระทั่งเรือจมในช่วงเย็นจึงแจ้งเจ้าหน้าที่รัฐ

เมื่อตนสอบถามทั้งผู้จัดทริปสอนดำน้ำและกัปตันเรือต่างก็โยนความผิดกันไปมา ตอนนี้ตนรอเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้ามาตรวจสอบเรือ หลังจากนั้นตนจะแจ้งข้อหาเพิ่มกับกัปตัน เจ้าของเรือ และผู้จัดทริปสอนดำน้ำ จากเดิมที่พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหาไปก่อนหน้านี้แล้ว

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook