ตร.ตั้งแผงกั้นหน้าศาลเข้มมวลชนวันชี้ชะตายิ่งลักษณ์

ตร.ตั้งแผงกั้นหน้าศาลเข้มมวลชนวันชี้ชะตายิ่งลักษณ์

ตร.ตั้งแผงกั้นหน้าศาลเข้มมวลชนวันชี้ชะตายิ่งลักษณ์
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

รอง ผบช.น. ตรวจความพร้อมเขตศาลฎีกาฯนักการเมือง เริ่มตั้งแผงกั้นเหล็กพื้นที่รองรับมวลชนตัดสินคดีข้าว 'ยิ่งลักษณ์' ขณะที่ ผบ.ทบ. มีแผนรับ ไม่รู้จ้างม็อบเชียร์ ด้าน ศาลฎีกาไม่ถ่ายทอดสัญญาณเสียงขณะอ่านคำพิพากษา

พล.ต.ต.ภาณุรัตน์ หลักบุญ รอง ผบช.น. เปิดเผยว่าวันนี้ได้เป็นตัวแทนจาก พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในการลงพื้นที่ตรวจความพร้อมครั้งสุดท้าย เพื่อดูแลความปลอดภัยสถานที่ในเขตศาลฎีกาฯนักการเมือง

ส่วนการเข้าพื้นที่อาคาร A และ อาคาร B บุคคลที่จะเข้ามาต้องได้รับอนุญาติจากศาลในการเข้าจากจุดคัดกรองบริเวณซอยแจ้งวัฒนะซอย 9 มีเพียง 3 ฝ่ายเท่านั้น ที่จะเข้าจากจุดนี้ คือ เจ้าหน้าที่ศาลฎีกาที่รถมีสติกเกอร์ระบุตัวตนชัดเจน 2.บุคคลที่จะมาให้กำลังใจจำเลยที่กำหนดจำนวน 50 คน และมีรายชื่อตามที่ส่งมาให้ศาลก่อนหน้า และ 3. สื่อมวลชน

และจากกรณีที่นางสาวยิ่งลักษณ์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี ที่ชักชวนให้มวลชนให้กำลังใจอยู่ภายในที่พัก เพื่อความสะดวก พร้อมระบุว่าในวันพรุ่งนี้ อนุญาตให้ นางสาวยิ่งลักษณ์ เดินทักทายมวลชนได้ เพียงแต่ไม่อนุญาตให้มวลชนเข้ามาภายในเขตพื้นที่อำนาจของศาลเท่านั้น

ส่วนป้ายดำที่พบบริเวณห้าแยกลาดพร้าว ยังไม่ถือว่าเป็นการฝ่าฝืนกฎหมายจากข้อความ แต่อาจผิดในเรื่อง พรบ.ป้าย ซึ่งเป็นเรื่องที่ กทม.ต้องดูแล

ส่วนในพื้นที่รองรับมวลชนขณะนี้ เจ้าหน้าที่ได้นำเต็นท์ และแผงกั้นเหล็กมาวางกั้นเพื่อเตรียมความพร้อมในวันพรุ่งนี้แล้ว ซึ่งจะมีการติดตั้งเสร็จภายใน 19.00 น.ของวันนี้


ผบ.ทบ.มีแผนรับตัดสินคดีข้าวไม่รู้จ้างม็อบเชียร์ยิ่งลักษณ์

พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก ระบุถึงการรับมือสถานการณ์มวลชนเดินทางมาให้กำลังใจ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในวันพรุ่งนี้ โดยมั่นใจ ว่า จะไม่เกิดความวุ่นวาย บริเวณโดยรอบศาลฎีกา แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ที่จะมีการอ่านคำพิพากษาคดีทุจริตโครงการรับจำนำข้าว และคดีทุจริตระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ ของนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ พร้อมพวกรวม 28 คนตกเป็นจำเลย 

ทั้งนี้ เชื่อว่าสถานการณ์จะเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ซึ่งไม่มีข้อกังวล แต่ก็ยอมรับว่าสิ่งที่ยังน่าเป็นห่วง คือการจราจรโดยรอบ เพราะปกติก็ติดขัดอยู่แล้ว จึงขอความร่วมมือผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องหลีกเลี่ยงเส้นทางดังกล่าว ขณะเดียวกัน หากการมีพิจารณาใช้เวลานานจนไปถึงช่วงค่ำ เจ้าหน้าที่ก็ได้เตรียมแผนและขั้นตอนรองรับทั้งหมดแล้ว 

อย่างไรก็ตาม ผู้บัญชาการทหารบก ยังปฏิเสธไม่ทราบกระแสข่าวการระดมมวลชนจากจังหวัดมหาสารคาม โดยมีการว่าจ้างให้เดินทางมาให้กำลังใจ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ในวันพรุ่งนี้ แต่ยืนยัน ว่า หากมีการกระทำที่ผิดกฎหมายและมีหลักฐานชัดเจนก็จะต้องถูกดำเนินการ ตามกฎหมาย


ผบก.191ถกมาตรการรปภ.ศาลฎีกาฯยันไม่พบผิดปกติ

พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้บังคับการกองบังคับการสายตรวจและปฎิบัติการพิเศษ หรือ 191 ลงพื้นที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เพื่อประชุม เตรียมความพร้อมในการรับมือมวลชนที่จะเดินทางมาให้กำลังใจ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่จะเดินทางมารับฟังการอ่านคำพิพากษาในคดีรับจำนำข้าวในวันพรุ่งนี้ 

โดย พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ ระบุว่า เบื้องต้นจากการตรวจสอบพื้นที่ของ EOD เป็นไปด้วยความเรียบร้อย และไม่มีสิ่งบ่งชี้ว่าจะเกิดเหตุการณ์ความรุนแรงขึ้น ซึ่งยังคงปฎิบัติหน้าที่ตามปกติเพื่อสร้างความอุ่นใจและปลอดภัยให้กับประชาชน และเพื่อให้ศาลทำงานไปได้

ส่วนอัตรากำลังเจ้าหน้าที่ที่ใช้ครั้งนี้อยู่ในปริมาณที่เหมาะสม เพื่อป้องกันเหตุเนื่องจากเป็นคดีที่ประชาชนให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก พร้อมฝากถึงมวลชนที่จะมาให้กำลังใจสามารถทำได้แต่ต้องไม่ละเมิดหรือฝ่าฝืนคำสั่งของเจ้าหน้าที่


ศาลฎีกาไม่ถ่ายทอดสัญญาณเสียงขณะอ่านคำพิพากษา 

ผู้สื่อข่าว มีรายงานว่า สำหรับการเตรียมอ่านคำพิพากษาคดีนี้ ล่าสุดชัดเจนแล้วว่า ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง จะไม่ถ่ายทอดสัญญาณเสียงขณะอ่านคำตัดสิน ออกมานอกห้องพิจารณาแต่อย่างใด 

ขณะที่ การเข้าฟังภายในห้องพิจารณาก็จะจัดพื้นที่สำหรับคู่ความอัยการโจทก์ – จำเลย , ทนายความผู้ติดตาม , เครือญาติ รวมทั้งสื่อมวลชนซึ่งในส่วนของสื่อมวลชนให้ลงรายชื่อโดยอนุญาตให้เข้าฟังห้องพิจารณาสำนักข่าวละ 1 คน เนื่องจากพื้นที่ห้องพิจารณาค่อนข้างจำกัดสามารถรองรับบุคคลได้กว่า 100 คน โดยชัดเจนว่าผู้ที่เข้าฟังคำตัดสินห้ามนำโทรศัพท์มือถือ และอุปกรณ์สื่อสารทุกชนิดเข้าไปในห้องพิจารณาโดยเด็ดขาด

ด้าน แหล่งข่าวจากศาลยุติธรรม เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางศาลฎีกาได้มีการเตรียมความพร้อม 100 เปอร์เซ็นต์ ในด้านการจัดระเบียบและรักษาความปลอดภัยสำหรับการอ่านคำพิพากษาคดีทั้งสองคดีแล้ว ซึ่งขณะนี้ยังไม่ปรากฏว่ามีจำเลยคนใดคนหนึ่งในสองคดีดังกล่าวมีการยื่นคำร้องเพื่อขอเลื่อนการอ่านคำพิพากษาในคดีแต่อย่างใด





แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook