โชเฟอร์รถบัสหื่น ขยี้สาวผู้โดยสาร

โชเฟอร์รถบัสปรับอากาศป.2 หื่น ลวงผู้โดยสารข่มขืนยับ เผยสาววัย 33 นั่งรถจากอ่าวอุดม จะไปหาเพื่อนที่มาบตาพุด นั่งจนเกือบถึงปลายทางเหลือผู้โดยสารอยู่คนเดียว โชเฟอร์ทำทีชวนคุยแล้วออกอุบายไปเปลี่ยนรถที่อู่ ก่อนจอดริมป่าหญ้าเปลี่ยวข้างทางปลุกปล้ำขืนใจจนสำเร็จความ ใคร่แล้วหลบหนีไป เหยื่อซมซานขอความช่วยเหลือชาวบ้าน

เมื่อเวลา 22.50 น.วันที่ 3 มี.ค. ร.ต.ท.จีรศักดิ์ แอบแฝง ร้อยเวรสภ.บางละมุง จ.ชลบุรี รับแจ้งเหตุจากพลเมืองดีว่ามีหญิงสาวถูกพามาข่มขืนบริเวณสะพานต่างระดับเขาไม้แก้ว ถนนสาย 311 (โคราช-สัตหีบ) หมู่ 10 ต.ห้วยใหญ่ หลังรับแจ้งจึงนำกำลังรุดตรวจสอบ ที่เกิดเหตุเป็นป่าหญ้ารกทึบและมืด ไม่ มีแสงไฟฟ้าส่องริมทาง ตรวจสอบที่ริมถนนพบชาวบ้านช่วยกันประคองร่างน.ส.แอน (นามสมมติ) อายุ 33 ปี ผู้เสียหาย ที่อยู่ในสภาพร้องไห้ หวาดกลัว มีอาการอ่อนเพลีย ข้างกายมีกระเป๋าเดินทางสีน้ำเงิน ภายในมีเสื้อผ้าบรรจุไว้วางอยู่ 1 ใบ เจ้าหน้าที่ให้การช่วยเหลือและสอบสวนทันที

สอบสวนน.ส.แอน ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุนั่งรถบัสปรับอากาศ ป.2 สายกรุงเทพฯ-ระยอง ไม่ทราบหมายเลขข้างรถ จากอ่าวอุดมเพื่อจะเดินทางไปหาเพื่อนที่ทำงานอยู่ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งในเขตอ.มาบตาพุด จ.ระยอง เพื่อจะไปสมัครงาน จนกระทั่งในเวลาที่เกิดเหตุบนรถเหลือเพียงตนนั่งอยู่คนเดียว คน ขับรถซึ่งเป็นผู้ก่อเหตุทราบชื่อเพียงนายนัม ไม่ทราบนามสกุล ชักชวนพูดคุยด้วยแล้วถามว่าจะไปไหนจึงบอกว่าจะไปหาเพื่อนที่อ.มาบตาพุด นายนัมจึงออกอุบายว่าขอไปเปลี่ยนรถที่อู่ซึ่งตั้งอยู่ที่เขตบ้านมาบบอนก่อน โดยอ้างว่าเครื่องยนต์ใกล้จะพังแล้ว ตนไม่ได้คิดเอะใจอะไรจึงยอมนั่งรถไปด้วย

น.ส.แอน ให้ การต่อว่า กระทั่งถึงจุดเกิดเหตุ นายนัมได้จอดรถที่ริมทางซึ่งสองข้างทางเป็นป่าหญ้ารกทึบและมืด ไม่มีบ้านคนได้เรียกตนลงมาจากรถโดยบอกกับตนว่าเครื่องยนต์รถพัง ทันทีที่ตนลงมาจากรถ ผู้ก่อเหตุก็กระชากลากตนเข้าไปในป่าหญ้าริมทาง จากนั้นจึง ปลุกปล้ำทันทีซึ่งตนพยายามต่อสู้และขัดขืนแต่ก็สู้แรงไม่ไหว จึงถูกนายนัม ลงมือข่มขืนจนสำเร็จความใคร่ ก่อนจะปล่อยตนทิ้งเอาไว้ในป่าริมทางแล้วหลบหนีไป ตนจึงหาทางออกมาจากป่าหญ้าและเข้าขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านที่ขับรถผ่านมาดังกล่าว

หลังสอบสวนเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน ก่อนให้การช่วยเหลือนำผู้เสียหายส่งไปตรวจร่างกายที่ร.พ.บางละมุงอย่างละเอียดเพื่อไว้เป็นหลักฐาน และจากการตรวจสอบพบว่าจุดเกิดเหตุนั้นเป็นพื้นที่เขตรับผิดชอบของสภ.ห้วยใหญ่ เจ้าหน้าที่จะได้ประสานไปยังเจ้าหน้าที่เจ้าของพื้นที่รับผิดชอบ เพื่อสอบสวนและติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป